สุภาษิตคำพังเพยเฒ่าชราในตาทารก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ฒ. เฒ่าชราในตาทารก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเฒ่าชราในตาทารก

ที่มาของสำนวน มาจากนัยตาของคนที่อายุมากที่ทำเหมือนนัยตาทารกซึ่งใสปิ๊ง หวานๆ ที่ไร้เดียงสา สื่อถึงอายุมากแต่นัยตายังหนุ่ม ยังมีนิสัยเจ้าชู้อยู่

สำนวนที่คล้ายกัน เฒ่าหัวงู, เสือเฒ่าจำศีล

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ชายที่มีอายุมากแล้ว แต่ยังทำตัวเหมือนหนุ่มน้อย อีกทั้งยังมีนิสัยเจ้าชู้

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเฒ่าชราในตาทารก

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเฒ่าชราในตาทารก

  • คนแก่บางคนใช่ว่าจะนิสัยดี บางคนตัณหากลับ เฒ่าชราในตาทารก ยังเจ้าชู้ หาสาวรุ่นลูกมาเป็นเมียสนองตัณหาอยู่เรื่อยๆ
  • แถวบ้านมีลุงคนหนึ่งแก่จนหัวหงอกแล้วไม่รู้จักเข้าวัดฟังธรรม แต่งตัวนุ่งยีนส์ควงสาวๆออกเที่ยวทุกวัน แบบนี้แหละที่เรียกว่าเฒ่าชราในตาทารก
  • ตาของแกทุกวันนี้ก็ยังไม่เบานิสัยเจ้าชู้เลยนะ เฒ่าชราในตาทารกจริงๆ ยังหนียายไปเที่ยวกับสาวๆ อยู่เลย
  • สาวๆ ระวังตาแก่แถวหมู่บ้านของเราให้ดีๆ เฒ่าชราในตาทารก เฒ่าหัวงูมันเยอะจริงๆ สมัยนี้ในหมู่บ้านของเรา
  • ลุงนี่นิสัยวัยรุ่นจริงๆ เลยครับ เฒ่าชราในตาทารก ถ้าลุงยังคิดว่าตัวเอง ยังคิดว่าเตะปิ๊ปไหว ก็เต็มที่เลยครับ ไม่มีใครห้าม

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยชาติเสือจับเนื้อกินเอง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ชาติเสือจับเนื้อกินเอง

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยชาติเสือจับเนื้อกินเอง

ที่มาของสำนวน เปรียบกับเสือซึ่งเป็นสัตว์นักล่าตามธรรมชาติ ซึ่งมันต้องจับสัตว์กินเอง ไม่มีใครหาให้กิน และในสำนวนชาติเสือในที่นี้หมายถึงคนที่มีศักดิ์ศรี

สำนวนที่คล้ายกัน ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่เชื่อมั่นและถือศักดิ์ศรีของตน แม้จะลำบากยากแค้นก็ไม่ยอมรบกวนหรือเบียดเบียนใคร หรือการทำมาหากินด้วยความอุตสาหะไม่เบียดเบียนผู้อื่น

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยชาติเสือจับเนื้อกินเอง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตชาติเสือจับเนื้อกินเอง

  • คนอย่างเขาเป็นชาติเสือจับเนื้อกินเอง เขาสู้ชีววิตด้วยล้ำแข้งและน้ำมือตัวเอง โดยไม่ง้อใคร เป็นผู้ชายที่เข้มแข็งสร้างเส้นทางของตัวเอง
  • ชาติเสือจับเนื้อกินเอง เป็นคุณสมบัติของคนที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ อยากจะทำอะไรก็ต้องลงมือทำเอง สร้างความสำเร็จใน ชีวิต หน้าที การงานด้วยตัวเอง
  • พ่อเห็นว่าสมชายพึ่งเรียนจบก็เลยจะฝากงานที่บริษัทเพื่อนให้ แต่เขาไม่ยอมก็เลยพยายามหางานด้วยตัวเอง ไม่นานเขาก็หางานทำได้ แม้ค่าตอบแทนจะไม่สูงมาก แต่ก็เป็นงานที่เขาชอบและถนัด
  • คนเก่งส่วนใหญ่จะมีความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิต หลายคนจะเป็นคนประเภท ชาติเสือจับเนื้อกินเอง สู้ด้วยลำแข็งตัวเอง ไม่พึ่งพาใคร จนประสบความสำเร็จได้ก็เยอะ
  • ผู้หญิงคนไหนได้ผู้ชายนิสัยชาติเสือจับเนื้อกินเองนับว่าโชคดี เป็นผู้ชายที่เข้มแข็ง พร้อมดูแลปกป้องครอบครัว นับว่าหายาก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเจ้าชู้ยักษ์ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ จ. เจ้าชู้ยักษ์

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเจ้าชู้ยักษ์

ที่มาของสำนวน มาจากวรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ โดยตัวละครยักษ์ทศกัณฐ์เป็น “ยักษ์เจ้าชู้” ที่มีเมียมากมายสมกับความเป็นยักษ์จริงๆ คือมีเมียทั้งหมด 1,014 นาง

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ผู้ชายที่เกี้ยวพาราสีผู้หญิงโดยใช้วิธีพรวดพราดเข้าถึงตัว พยายามไขว่คว้าจับต้อง หรือหักหาญผู้หญิงเอาด้วยกำลัง

โดยอันเป็นกิริยาท่าทางทำนองเดียวกับที่ทศกัณฐ์รุกเข้าหานางสีดา แต่ไม่สามารถเข้าถึงตัวได้ เพราะนางตั้งสัตย์อธิษฐานไว้ ทำให้จับตัวไม่ได้ รุ่มร้อนไปหมด แม้จะลงทุนจีบสารพัดรูปแบบ นางสีดาก็ไม่เคยใจอ่อนรับรัก

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเจ้าชู้ยักษ์

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเจ้าชู้ยักษ์

  • ผู้ชายที่ทำตัวเจ้าชู้ยักษ์น่ากลัวจริงๆ จีบไม่ติดก็ใช้กำลัง อยู่ให้ห่างเข้าไว้ ถ้าคบเป็นแฟนสักวันโดนทำร้ายร่างกายแน่นอน
  • สมชายเป็นคนเจ้าชู้มากๆ ก็เพราะความเจ้าชู้ยักษ์นั่นแหละ เขาถึงได้เมียมาถ้ารอไปสู่ขอคงไม่มีใครกล้าอยากยกลูกสาวให้หรอก
  • พวกผู้ชายเจ้าชู้ยักษ์ โอ้ว เจ้าชู้พวกนี้ไม่ค่อยเป็นที่พึงประสงค์ ของสาวๆ เท่าไร ด้วยปากว่ามือถึง ทั้งไขว่คว้าขยำขยี้กระหน่ำย่ำยีใช้กำลังข่มเหงประทุษร้าย พวกเจ้าชู้ยักษ์นี่สังเกตง่ายๆ คือไอ้อาการเล่นแกมหยอก แต่ถึงเนื้อถึงตัวราวกับชาติก่อนเกิดเป็นปลาหมึก
  • นายจะไปทำเจ้าชู้ยักษ์ แบบนี้มันก็ไม่ถูกต้อง ลูกเขามีพ่อมีแม่ก็ควรจะไปสู่ขอตามประเพณีให้สมชายชาตรีเสียดีกว่า
  • ถ้าหากไม่หลงฉันคงไม่มอง หัวใจมันร้องให้มองแค่เธอ ก็รู้ดีว่าเราน่ะมีอยู่แค่ไหนกัน ก็ตื้นตัน แค่มองเท่านั้น ยังอิ่มเอม ในหัวใจ อยากจะลองเจ้าชู้ยักษ์ (จะได้กล้าลุย) อยากจะเข้าไปชวนคุย (ให้มันรู้ไป) เพลงเจ้าชู้ยักษ์โดยกบ Taxi

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยจองหองพองขน ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ จ. จองหองพองขน

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยจองหองพองขน

ที่มาของสำนวน มาจากอาการของสัตว์ที่ทำขนตั้งขึ้น พองขึ้น เป็นอาการของสัตว์ เช่น แมวหรือลิง สำนวนนี้มาจากอาการของลิงที่ทำขนพองขึ้นแสดงอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ พร้อมทั้งส่งเสียงขู่ตะคอกเมื่อคนเข้าไปใกล้ สำนวนนี้ใช้กันมาแต่โบราณปรากฏในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง เช่น ในนิราศเมืองแกลง ของสุนทรภู่

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนเย่อหยิ่ง จองหอง อวดดี ทะนงตน แสดงอาการลบหลู่ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือผู้มีอุปการคุณ

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยจองหองพองขน

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตจองหองพองขน

  • คนประเภทจองหองพองขน คนไม่รู้คุณคนเช่นนี้คบไม่ได้ คบไปก็มีแต่เสียจะโดนรอวันโดนหักหลัง เตือนด้วยความหวังดี
  • ยายสมจิตมองดูวิชิตที่เดินผ่านหน้าบ้านแกไปอย่างเฉยเมย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนยายเรืองเคยเลี้ยงดูวิชิตมาตั้งแต่ยังเล็ก ส่งเสียให้เรียนจนจบ พอได้เป็นนักธุรกิจแล้วกลับทำตัวเย่อหยิ่ง จองหองพองขน แม้แต่จะมาเยี่ยมเยือนยายบ้างก็ไม่มีเลยสักครั้ง
  • ในนิราศเมืองแกลง ของสุนทรภู่ กล่าวถึงตอนที่เดินทางโดยทางเรือเมื่อถึงคลองขวาง มีลิงแสมจำนวนมากอยู่ริมตลิ่งวิ่งตามเรือ ความตอนนี้มีว่า คำโบราณท่านผูกถูกทุกสิ่ง เขาว่าลิงจองหองมันพองขน ทำหลุกหลิกเหลือกลานพานลุกลน เขาด่าคนจึงว่าลิงโลนลำพอง
  • มีเยาวชนคนรุ่นหลังอีกเยอะทีเดียว ที่ยกตนข่มท่าน จองหองพองขนว่าตัวเองทันสมัย รู้มากกว่า บ้างก็ถึงขั้นโหวกเหวกโวยวายด้วยความรำคาญว่า พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย “ตกรุ่น” ควรจะฟังเด็กๆ แบบไม่มีเงื่อนไขได้แล้ว
  • ไม่คิดเลยว่าเพื่อนเก่าของพวกเราจะเป็นพวกจองหองพองขน ไม่เคารพพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมา พอได้ดิบได้ดีไม่เคยเหลียวแลเลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยคงเส้นคงวา ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ค. คงเส้นคงวา

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยคำพังเพยคงเส้นคงวา

ที่มาของสำนวน มาจากมาตราวัดที่เป็นเส้นวาศอก ฯลฯ หรือหมายเอาแนวทางก็ได้ คือให้คงอยู่ในแนวเรียกว่าคงเส้นก่อนแล้วคงวา ก็มาต่อท้ายเข้าทีหลังเนื่องจากเส้นกับวา เป็นพวกเดียวกัน แต่จะมาจากไหนก็ตาม

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คงที่ไม่แปรผัน ทำอะไรให้คงอยู่ในแนว เสมอต้นเสมอปลาย มีประพฤติเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยคงเส้นคงวา

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตคงเส้นคงวา

  • คุณลุงสามีป้าแม้นแกคงเส้นคงวามากๆ ขยันทำมาหากิน เป็นมาตั้งแต่สมัยยังหนุ่มจนถึงปัจจุบัน
  • นายตำรวจคนนี้น่าเคารพ เพราะเป็นคนคงเส้นคงวามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ท่านเคยปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็ยังคงปฏิบัติอย่างนั้น
  • สามีภรรยาคู่นี้รักใคร่กันดี ฝ่ายสามีเป็นคนคงเส้นคงวา ทำหน้าที่สามีอย่างดี เคยปฏิบัติต่อภรรยา ดูแลอย่างไรก็ทำอย่างนั้น แม้จะ แต่งงานกันมาหลายปีแล้วก็ตาม
  • นักการเมืองคนนี้โกงกินมาตลอดแบบคงเส้นคงวามาก ไม่เคยทำตัวดีขึ้นเลย แต่คนก็ยังเลือกให้เป็น ส.ส. มาตลอด
  • นักมวยคนนี้ซ้อมไม่คงเส้นคงวา ทำให้โดนคู่แข่งที่ซ้อมเป็นอย่างดีน็อคไปตั้งแต่ยกแรกเลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเงียบเป็นเป่าสาก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ง. เงียบเป็นเป่าสาก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเงียบเป็นเป่าสาก

ที่มาของสำนวน มาจากการเปรียบเปรยถึงการเป่าไปที่สากกะเบือ ซึ่งเป่าให้ตายอย่างไรก็ไม่เกิดเสียงได้ ไม่เหมือนกับกับการเป่าปี่ เป่าขลุ่ย

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ลักษณะที่เงียบสนิท หรือสถานการณ์ที่ไม่มีใครพูดอะไร ไม่มีเสียงอะไร

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเงียบเป็นเป่าสาก

ตัวอย่างการใช้สุภาษิต

  • นี่ผมคิดว่าไม่มีคนอยู่ออฟฟิศเสียอีก เข้ามานี่ เงียบเป็นเป่าสากเลย เพราะมาทำงานเช้าจนไม่คิดว่าจะมีใครมาก่อนได้
  • ในชั่วงโมงเรียนคณิตศาตร์เวลาคุณครูชาวจีนถามคำถามนักเรียน บรรยากาศภายในห้องเรียนมักจะเงียบเป็นเป่าสาก บรรยากาศเคร่งเครียดกดดัน เพราะวิชาเลขมันยาก
  • ฉันเคยร้องเรียนไปที่บริษัทเรื่องสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่จนบัดนี้ก็ยังเงียบเป็นเป่าสาก ไม่มีเจ้าหน้าที่รายงานผลเลยซักคน
  • เมื่อกี้เด็กๆ ยังเสียงดังกันอยู่เลย พอครูเข้ามาแค่นั้นแหละ เงียบเป็นเป่าสากกันเลยทีเดียว
  • สมชายลาออกจากงานเพื่อไปเปิดท้ายขายของในตลาดนัด แต่แล้วก็รู้สึกท้อแท้เมื่อการขายของวันแรกของเราบรรยากาศเงียบเป็นเป่าสาก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยโง่เง่าเต่าตุ่น ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ง. โง่เง่าเต่าตุ่น

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยโง่เง่าเต่าตุ่น

ที่มาของสำนวน เปรียบมาจากท่าทางเชื่องช่าต้วมเตี้ยม ของเต่าและตุ่น โดยเต่าจะเดินได้ช้าเนิบๆ มากๆ ตุ่นก็อาศัยอยู่ในดิน ด้วยธรรมชาติที่ตาแทบมองไม่เห็นจึงเคลื่อนไหวได้ช้า จึงเปรียบถึงคนที่โง่เขลามากๆ ทำอะไรล่าช้าๆ เนิบนาบ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ คนที่โง่เขลามากๆ โง่ที่สุด ไม่ฉลาด มักใช้ในเชิงต่อว่าคนที่โง่มากๆ

กล่าวคือ คนที่โง่เขลามากๆ ทำอะไรไม่ค่อยจะเป็น หรือไม่ค่อยจะถูกต้อง จึงมักไม่ค่อยจะกล้าทำอะไร จึงจดๆ จ้องๆ ต้วมเตี้ยมล่าช้าอืดอาดยืดยาดเยี่ยงเต่าหรือตุ่น

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยโง่เง่าเต่าตุ่น

ตัวอย่างการใช้สุภาษิต

  • ใคใรจะด่าว่าเราโง่เง่าเต่าตุ่นก็ช่างเขา เราควบคุมความคิดคนอื่นไม่ได้ จงรักในเส้นทางที่ตัวเองทำและสร้างคุณค่าให้ตัวเองและผู้อื่น
  • ตอนเด็กๆ เขาไม่ชอบเรียนหนังสือ ทำให้อ่านหนังสือไม่ออก บวกเลขก็ไม่ถูก ทำให้โดนคนอื่นโกงอยู่บ่อยๆ เพราะถูกมองว่าเป็นคนโง่เง่าเต่าตุ่น รู้ไม่เท่าทันคนอื่น
  • คนรู้ย่อมไม่พูด คนไม่รู้ย่อมพูด ทุกคนในที่นั้นต่างก็งุนงงไปตามๆ กัน เขาประกาศว่าตัวเองดีอย่างนั้นอย่างนี้อย่างหยาบคาย อย่างนี้แสดงว่าคนเป็นคนเถรตรง หรือเขาโง่เง่าเต่าตุ่นแน่
  • บอกให้ตั้งใจฟังสิ่งที่เขาสอน ตัวเองก็กลับไปสนใจอย่างอื่น โง่เง่าเต่าตุ่นแบบนี้จะไปทำงานกับใครเขาได้
  • ความโง่เง่าเต่าตุ่นของเธอ ทำให้ครอบครัวเราเกือบหมดตัว เพราะเธอเอาเงินไปเล่นการพนัน เป็นอะไรที่สิ้นคิดมากๆ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยขมิ้นกับปูน ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ข. ขมิ้นกับปูน

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยขมิ้นกับปูน

ที่มาของสำนวน ในสมัยก่อนคนไทยนิยมกินหมาก วิธีการกินหมากนั้นคือใช้ปูนแดงบ้ายบนใบพลู ม้วนจีบเป็นรูปยาวๆ แล้วเคี้ยวกับหมาก อาจเคี้ยวยาจืดหรือยาฉุนและเครื่องหอมอื่น ๆ เช่น กานพลู พิมเสน ร่วมไปด้วย เมื่อเคี้ยวแล้วจะมีน้ำลายออกมาปนกับหมากพลูเป็นน้ำหมากสีแดงซึ่งผู้กินหมากจะบ้วนทิ้ง ปูนแดงนี้ทำจากหินปูนหรือเปลือกหอยเผาให้ไหม้เป็นผง มีสีขาว เมื่อนำปูนขาวนี้มาผสมกับน้ำขมิ้นซึ่งมีสีเหลือง จะเกิดปฏิกิริยาทำให้ปูนเปลี่ยนสีเป็นสีแดงทันที ขมิ้นกับปูนที่มีปฏิกิริยากันเช่นนี้ คนโบราณถือว่าเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกัน จึงนำมาเปรียบกับคนที่ไม่ถูกกัน มักวิวาทกัน

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ คนที่ชอบทะเลาะกันเมื่ออยู่ใกล้กัน, ไม่ถูกกัน, เข้ากันไม่ได้

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยขมิ้นกับปูน

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตขมิ้นกับปูน

  • นี่เราแต่งงานกันมาได้ยังไงนี่ คู่เราอย่างกับขมิ้นกับปูน อยู่ด้วยกันทีไรต้องเถียงกันตลอด เฮ้อ! เหนื่อยใจ
  • พี่น้องสองคนนี้อย่างกับขมิ้นกับปูน เข้าใกล้กันทีไรเป็นต้องทะเลาะกันทุกที
  • สมชายกับสมหมายอยู่ในหมู่บ้านเดียว เจอหน้ากันทีไรต้องมีเรื่องกันทุกที เหมือนขมิ้นกับปูนเลย
  • ฉันเหนื่อยที่ต้องมาทำงานกับคนที่ไม่ชอบจริงๆ เหมือนขมิ้นกับปูน เมื่อไหร่จะหมดเวรหมดกรรมเสียที
  • ขมิ้นกับปูน!? สหรัฐฯ พร้อมเปิดศึกกับรัสเซียหากว่าล้ำเส้นเมื่อไหร่ เตือนเตรียมตัวเจอได้เลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเงาตามตัว ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ง. เงาตามตัว

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเงาตามตัว

ที่มาของสำนวน มาจากเงาเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อแสงได้ส่องผ่านวัตถุที่แสงไม่สามารถลอดผ่านออกมา ดังนั้นเงาจะอยู่ติดตัวเราตลอด ตราบใดที่มีแสงกระทบเรา

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ผู้ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ จนเหมือนเป็นเงาของอีกคนหนึ่ง หรือสิ่งที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงตามกันไป

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเงาตามตัว

ตัวอย่างการใช้สุภาษิต

  • สมชายกับสมหมายเพื่อนที่รักกันมาก มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เหมือนเงาติดตามตัวกันเลยทีเดียว เจออีกคนที่ไหน ก็ต้องเจออีก คนอยู่ด้วยกันที่นั่น
  • ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ในน้ำ บนบก ยอดเขา ในอวกาศ ดวงดาวต่าง ๆ จะอยู่ในโลกนี้ หรือใน จักรวาลไหนก็ตาม ตราบใดที่เรายังมีการกระทำ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ไม่ว่าดีหรือชั่ว แม้จะเล็กน้อยเพียงไร จะเจตนา ไม่เจตนา ล้วนมีผล ทั้งสิ้น มันจะติดตามตัวเราไปเหมือนเงาตามตัว ซึ่งจำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้เอาไว้
  • ปัจจุบันคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม แต่สำหรับฉัน ฉันเชื่อว่ากรรมจะติดตามตัวเราเหมือนเงาตามตัว
  • เงาตามตัว สุดท้ายมนุษย์ก็เป็นได้แค่เงาที่อยู่ข้างหลังเท่านั้น… หากจะมีการเบี่ยงเบนไปบ้างก็ไม่มีทางที่จะสามารถไปปรากฏอยู่หน้าวัตถุได้เลย
  • กรรมเปรียบเสมือนเงาตามตัว แปลว่า เมื่อไหร่ก็ตามเรามีเงาอยู่ เราจะวิ่งหนีเงามันเป็นไปไม่ได้ วิ่งมันก็ตาม ไม่วิ่งมันก็ตาม

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเงื้อง่าราคาแพง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ง. เงื้อง่าราคาแพง

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเงื้อง่าราคาแพง

ที่มาของสำนวน มาจากในสมัยก่อนมีกฎหมายเรื่องการทะเลาะวิวาท คือหากเงื้อหมัดจะโดนปรับห้าสิบสตางค์ หากเงื้อหมัดบ่อยๆ ก็จะยิ่งโดนปรับหลายครั้ง แต่หากต่อยไปทีเดียว ก็จะโดนปรับหนึ่งบาท ครั้งเดียวไปเลย

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ จะทําอะไรก็ไม่กล้าตัดสินใจทําลงไป ดีแต่ทําท่าหรือวางท่าว่าจะทําเท่านั้น มีความหมายเหมือนกับคำว่า “จดๆ จ้องๆ”

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเงื้อง่าราคาแพง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิต

  • จะทำอะไรก็รีบทำอย่ามัวแต่เงื้อง่าราคาแพงไม่ตัดสินใจเสียที แบบนี้จะไปทันคนอื่นเขาได้อย่างไร โอกาสไม่ได้มีเข้ามาบ่อยๆนะ
  • เงื้อง่าราคาแพงเพราะการทำงานของรัฐบาลฯ ปัญหาภัยแล้งได้ขยายวงออกไปอย่างกว้างขวาง ส่งผลกระทบกับประชาชนในหลายจังหวัด กระทบเป็นลูกโซ่มายังระบบเศรษฐกิจของไทยซึ่งเป็นประเทศกสิกรรมเป็นหลัก
  • ครูใหญ่ ชอบเงื้อง่าราคาแพง ที่จะจับเด็กที่หนีเรียนมาทำโทษ เพราะครูใหญ่ได้แค่ขู่เด็กนักเรียนไม่ลงมือทำจริงๆ
  • สมชายเรียนจบช่างยนต์มาอยากจะลงทุนเปิดร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ แต่ก็ไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักที ดีแต่พูดไปอย่างนั้นอย่างนี้ แบบนี้แหละที่เรียกว่าเงื้อง่าราคาแพง
  • ประยุทธไม่เคยที่จะประสบความสำเร็จในการทำงาน เนื่องจากจะทำอะไรก็ไม่กล้าตัดสินใจ มัวแต่เงื้อง่าราคาแพง

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube