สุภาษิตคำพังเพยขี้ไม่ให้หมากิน ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ข. ขี้ไม่ให้หมากิน

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยขี้ไม่ให้หมากิน

ที่มาของสำนวน ในสมัยโบราณนั้นจะปลูกบ้านมีใต้ถุนโล่งๆ บนบ้านจะมีร่องสำหรับให้เด็กๆถ่ายอุจจาระ เมื่ออุจจาระตกมาข้างล่าง สุนัขที่คอยอยู่ใต้ถุนก็จะได้กินเป็นปรกติวิสัยของคนในสมัยนั้น ชาวจีนที่อพยพมาอยู่ในเมืองไทย เป็นคนประหยัดมัธยัสถ์สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ก็จะเก็บไว้เพื่อนำเอามาใช้ อุจจาระปัสสาวะก็เหมือนกัน เขาจะเก็บไว้เพื่อทำปุ๋ยหมักใส่ผัก จึงถ่ายไว้ในถัง หรือในไห แล้วนำมาหมักทำเป็นปุ๋ยสำหรับรดผัก เรียกได้ว่าแม้กระทั่งขี้หมาก็ไม่ได้กิน

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ คนขี้เหนียว หรือตระหนี่เหนียวแน่น

กล่าวคือ คนที่มีความขี้เหนียวเป็นที่สุด หวงของตัวเองไม่ให้กระเด็นไปไหน หวงเงินและทรัพย์สินของตัวยิ่งกว่าใดๆ เรื่องเงินทองมักจะไม่ให้เล็ดรอดเลย จะเก็บสะสมไว้ และหวงแหนไว้เป็นอย่างดี แม้กระทั่งสิ่งของที่ไม่มีคุณประโยชน์สำหรับตนเองแล้วก็ยังเก็บสะสมไว้ ไม่ยอมบริจาคให้แก่ใครเลย

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยขี้ไม่ให้หมากิน

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตขี้ไม่ให้หมากิน

  • นี่เธอ ดูป้าคนนี้สิ เธอรู้ไหม๊แกขี้เหนียวสุดๆ ขี้ก็ไม่ให้หมากินก็ยังไม่ปานเลย
  • คุณอย่าไปหวังว่าเขาจะมาช่วยคุณหารจ่ายค่าน้ำมันเลย ขี้ไม่ให้หมากินขนาดนั้น เงินสักบาทก็ไม่ได้กระเด็กออกจากกระเป๋าเขาหรอก
  • นี่คุณ ทำไมถึงขี้เหนียวตระหนี่ได้เพียงนี้ ขี้ไม่ให้หมากินแบบนี้ใครจะคบหาด้วยละ
  • ชาวบ้านแถวนี้เขารู้กันว่าลุงแกเป็นคนตระหนี่มาก หวงข้างของทุกอย่าง ใครอย่าคิดจะไปยืมอะไรจากแก ขนาดที่ว่าขี้ไม่ให้หมากิน
  • คนสมัยก่อนหากินลำบากกว่าจะได้อะไรมาแต่ละอย่าง ไม่ง่ายเหมือนสมัยนี้ ลักษณะนิสัยบางคนจึงคล้ายกับขี้ไม่ให้หมากิน หวงแหนสิ่งที่ได้มามากๆ เพราะกว่าจะได้มามันยาก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยขี้ราดโทษล่อง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ข. ขี้ราดโทษล่อง

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยขี้ราดโทษล่อง

ที่มาของสำนวน ในสมัยโบราณจะสร้างบ้านยกพื้นสูงใต้ถุนโล่ง และพื้นเรือนข้างหลังบ้านมักจะเจาะทำเป็นล่องไว้ และหากทำการขับถ่ายไม่ระมัดระวังนั้นอาจจะทำให้ติดตามล่อง สื่อถึงความสะเพร่าเอง แล้วไปโทษว่าล่องมันเล็ก จึงเป็นที่มาของสำนวน

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ คนที่ทําผิดเอง แล้วกลับโทษผู้อื่น

ใช้ในการเปรียบเปรยถึงคนที่มีนิสัยชอบโทษคนอื่น ทั้งที่ตัวเองนั้นเป็นคนทำความผิดเอง เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะรับผิดชอบในการทำความผิดนั้น กล่าวคือบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้คือคนที่ไม่ปลอดภัยในตัวเอง

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยขี้ราดโทษล่อง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตขี้ราดโทษล่อง

  • ของมันอยู่ดีๆ ของมันนายไปปัดมันตก จะไปว่าคนอื่นวางเกะกะไม่ได้นะ อย่างนี้มัน ขี้ราดโทษล่อง
  • ด.ช.แมน สอบตกเพราะขี้เกียจ ไม่ตั้งใจเรียนเองแท้ๆ แต่กลับไปฟ้องคุณพ่อคุณแม่กล่าวโทษว่าอาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง
  • คนที่มีนิสัยไม่ปลอดมักมีพฤติกรรมที่โทษแต่สิ่งภายนอก โทษทุกอย่างบนโลกใบนี้ ยกเว้นเสียแต่ตัวพวกเขาเอง สุดท้ายความคิดเขาเองก็จะกลับไปทำร้ายเขาเองนั่นแหละ
  • ขี้ราดโทษล่องชัดๆ เขานำเสนองานออกมาได้ไม่ดีเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน แต่ไปโยนความผิดให้ผู้ร่วมงานว่า จัดทำข้อมูลไม่ดี
  • นี่นายเบน เลิกได้เลิกนิสัยขี้ราดโทษล่อง โตๆ กันแล้ว เป็นลูกผู้ชายทำผิดต้องยอมรับผิด ไม่ใช่โทษทุกสิ่งทุกอย่าง แบบนี้ชีวิตจะก้าวหน้าได้อย่างไร?

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยขี้ใหม่หมาหอม ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ข. ขี้ใหม่หมาหอม

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยขี้ใหม่หมาหอม

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยจากพฤติกรรมของสุนัข โดยเวลาสุนัข(หมา) ขี้หรือถ่ายอุจจาระเสร็จใหม่ๆ มันจะไม่ยอมห่าง เอาไม้ขว้างยืนล้อมก็ไม่ยอมหนีนั่นเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ อาการเห่อของใหม่ อะไรที่ได้มาใหม่ๆ ก็คิดว่าดี เป็นที่สนอกสนใจ เป็นที่รักใคร่

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยขี้ใหม่หมาหอม

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตขี้ใหม่หมาหอม

  • ขี้ใหม่หมาหอม ก็แบบนี้แหละ เดี๋ยวสักพักพอมีน้องใหม่เข้ามาก็พากันไปรุมล้อมเขา จะทำอะไรก็ว่าดีกันหมด
  • เมื่อวานฉันกับน้องสาวไปเดินตลาดนัด น้องสาวซื้อเสื้อตัวใหม่มาตัวหนึ่งซึ่งเป็นแบบที่กำลังเป็นที่นิยม พอใส่ถุงเสร็จน้องก็ชวนฉันกลับมาบ้านทันที พอมาถึงบ้านยังไม่ทันจะได้ซักเสื้อตัวใหม่ น้องก็เอาออกมาใส่ทันที ฉันเลยแซมน้องไปว่า “นี่ล่ะน๊า ที่เขาเรียกว่า ขี้ใหม่หมาหอม”
  • พอได้ของขวัญเป็นกล้องตัวใหม่มา ก็เห่อจนไม่สนใจของเก่าเลยนะ แบบนี้มันเข้าข่ายขี้ใหม่หมาหอม
  • คนรักกันใหม่ๆ ก็เหมือนขี้ใหม่หมาหอมนั่นแหละ อยู่กันไปสักพักเริ่มแสดงนิสัยที่แท้จริงของแต่ละคนออกมา นี่แหละเป็นช่วงที่ว่าจะรับกันได้หรือไม่
  • สุภาษิต “ขี้ใหม่หมาหอม” อธิบายอารมณ์นี้ได้อย่างดี เฉกเช่นเดียวกับที่คลองแสนแสบ อันเป็นเส้นทางสัญจรเดินเรือทุกวี่ทุกวันของคนกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งนั้น ก็ถึงขั้นมีการอวดอ้างส่งต่อกันอย่างเมามันส์ว่า การพายเรือเก็บขยะของผู้ว่าฯ ชะชะช่านี่แหละ กระตุ้นต่อมข้าราชการและพนักงาน กทม.ทั้งหลาย ให้ตื่นตัวกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยขึ้นต้นไม้ปะรังแตน ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ข. ขึ้นต้นไม้ปะรังแตน

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยขึ้นต้นไม้ปะรังแตน

ที่มาของสำนวน การปีนต้นไม้หนีจากอะไรซักอย่าง หรือปีนเพื่อเอาผลไม้ หรือตัดกิ่ง ฯลฯ การปีนต้นไม้ใหญ่ยังอันตรายที่จะเสี่ยงพลาดตกลงมาอีกด้วย ก็ดันมาเจอรังแตนอีกด้วย เรียกได้ว่าขึ้นไปก็อันตรายแล้ว ดันไปเจออะไรที่อันตรายอีก

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การพยายามหนีภัยอันตรายหรือปัญหาอย่างหนึ่ง แล้วต้องไปพบภัยอันตรายหรือปัญหาอีกอย่างหนึ่ง

โดยมีสำนวนนี้คล้ายกัน ใช้ในต่างสถานการณ์ของคนสมัยก่อน คือ หนีเสือปะจระเข้

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยขึ้นต้นไม้ปะรังแตน

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตขึ้นต้นไม้ปะรังแตน

  • เหมือนขึ้นต้นไม้ปะรังแตนจริงๆ ครอบครัวนี้ส่งลูกสาวไปเรียนต่างประเทศเพราะอยากให้ลูกห่างไกลจากผู้ชายที่มาเกาะแกะ แต่สุดท้ายลูกสาวก็มีแฟนอยู่ต่างประเทศ
  • ชีวิตคนเราบางครั้งมันก็เหมือนกับการขึ้นต้นไม้ปะรังแตน คิดว่าผ่านช่วงชีวิตที่แย่แล้วมาได้ หวังว่าจะเจอสิ่งที่ดีกว่า แต่ความจริงมันไม่สวยงามขนาด ดันมาเจอแย่กว่าอีกก็มี
  • อุส่าต์ย้ายบ้านมาใหม่เพราะเพื่อนบ้านเดิมชอบส่งเสียงดังไม่เกรงใจคนอื่น มาที่นี่นึกว่าจะได้อยู่อย่างสงบสุข ก็ต้องมาพบเจอปัญหาสัตว์เลี้ยงอีกขึ้นต้นไม้ปะรังแตนแท้ๆเชียว
  • อย่าเป็นคนหนีปัญหา เพราะสุดท้ายมันก็เหมือนขึ้นต้นไม้ปะรังแตน ปัญหาเก่ายังไม่แก้ หนีไปก็เจอปัญหาอีกอยุ่ดี จงใจเย็นๆ ค่อยๆ แก้ไปทีละอย่าง
  • สมชายเลิกลากับเมียเก่าเพราะเธอมีชู้ ได้เมียใหม่ก็เป็นคนติดการพนันอย่างหนัก นี่แหละเข้าสำนวนขึ้นต้นไม้ปะรังแตนของแท้เลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยขุดดินกินหญ้า ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ข. ขุดดินกินหญ้า

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยขุดดินกินหญ้า

ที่มาของสำนวน สำนวนนี้เปรียบเปรยถึงการกินอยู่อย่างเรียบง่าย การขุดดินคือ การประกอบอาชีพในการเกษตร การทำไร่เล็กน้อยๆ โดยใช้อุปกรณ์ในการทำ คือจอบ และเสียมเท่านั้นไม่ได้มีอุปกรณ์อื่นใดช่วยเลย กินหญ้าคือ การกินข้าว และ การเก็บพืชผักมากินเป็นอาหารหลัก การประกอบอาชีพแบบนี้ เป็นแบบพึ่งพาตนเอง รู้จักประมาณในการอยู่การกิน ไม่ต้องดิ้นรนให้มากมาย

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ทํางานกระท้อมกระแท้มพอเลี้ยงตัวไปวันหนึ่งๆ หรือการทำงานเล็กๆน้อยๆ แบบพอกิน พอเลี้ยงชีวิตไปวันๆ

สำนวนนี้ไม่ได้ใช้เชิงประชดว่ายากจน แต่อย่างใด แต่เป็นการสื่อการอยู่อย่างเรียบง่าย พอเพียงของคนสมัยก่อน

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยขุดดินกินหญ้า

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตขุดดินกินหญ้า

  • ถึงผมจะไม่ได้รวย มีเงินล้นฟ้า แต่ผมก็ยังทำมาหากินขุดดินกินหญ้า เลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องไปปล้นใครเขา
  • คุณพ่อผมเล่าให้ฟังว่า กว่าจะตั้งหลักปักฐานได้ พ่อกับแม่ต้องอดทนขุดดินกินหญ้าตามประสายากอยู่หลายปีทีเดียว
  • ดาราชื่อดังรุ่นเก่าได้ออกมาให้ข่าวว่า หลังจากหมดยุคตัวเอง เริ่มแก่มากขึ้น ไม่มีคนจ้างให้เล่นละคร ปัจจุบันก็ได้แต่ขุดดินกินหญ้าพอเลี้ยงตัวเองไปวันๆ
  • คนขุดดินกินหญ้าอย่างเราใครเขาจะยอมให้กู้หนี้ยืมสิน เขากลัวว่าจะไม่มีปัญญาใช้คืน
  • คนรวยที่มาจากไม่มีอะไรเลย ต่างอยู่แบบขุดดินกินหญ้ากันมาแล้วทั้งนั้น ตั้งใจทำงาน เก็บเงิน ลงทุน หาความรู้ รอเวลา อดทน นี่แหละกว่าจะผ่านมาได้ ไม่ได้ง่ายๆ เลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเป็นปี่เป็นขลุ่ย ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ป. เป็นปี่เป็นขลุ่ย

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ที่มาของสำนวน มาจากการบรรเลงดนตรีไทย ในวงปี่พาทย์ไม้แข็ง มีปี่เป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่าเพื่อดำเนินทำนองโหยหวนโลดลอย ในขณะเดียวกันก็ต้องกลมกลืนกับทำนองของเครื่องตีได้แก่ระนาดและฆ้อง ส่วนขลุ่ยก็เป็นเครื่องเป่าเพื่อดำเนินทำนองเช่นเดียวกับปี่ แต่เป็นเครื่องดนตรีประจำวงคนละประเภท จึงไม่ใช้เป่าด้วยกัน สำนวนนี้มักนิยมพูดว่า “เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย”

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ เข้ากันได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กลมเกลียวไปด้วยกัน พูดจาเออออรับกันไปได้อย่างต่อเนื่อง

นิยมนำมาใชืเปรียบเทียบในลักษณะประชดกับคนที่ไม่น่าจะเข้ากันได้แต่กลับเข้ากันได้เป็นอย่างดี

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเป็นปี่เป็นขลุ่ย

  • ตั้งแต่ว่าที่ลูกเขยขยันแวะมาเยี่ยมเยียน ทานอาหารที่บ้าน คุณแม่กับว่าที่ลูกเขยก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวหล่ะ
  • เด็กสองคนนี้ปกติก็เถียงกัน พอบอกว่าจะไปเที่ยวก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย
  • คนส่วนใหญ่มักจะมีเพื่อนสนิท เพื่อนรัก เพื่อนโปรด ที่มีนิสัยคล้ายกัน เหมือนกัน และรักกันมาก ทำให้เข้าใจกันดี เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเวลาคุยเรื่องที่มีความสนใจตรงกัน หรือชอบในเรื่องนั้นๆ เหมือนกัน
  • นายสมชายเป็นคนชอบพูดเล่นมุข ส่วนนายสมหมายก็ตอบรับมุขของนายสมชายได้เป็นอย่างดี เพื่อนๆ จึงชอบพูดว่าสองคนนี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ
  • แมนกับแพมเป็นแฟนที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากันเลย แต่ทั้งคู่กลับเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย รักกันดี ทำแต่สิ่งดีๆ ด้วยกันตลอด นี่แหละน้า คนเราตัดสินกันภายนอกไม่ได้จริงๆ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเข้าพกเข้าห่อ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ข. เข้าพกเข้าห่อ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเข้าพกเข้าห่อ

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงการนำเอาสิ่งของติดตัวไปด้วย หรือส่วนที่เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ไว้กับตนเองที่ชายผ้าที่นุ่งห่ม ซึ่งคนในสมัยโบราณจะนิยมกันมาก ส่วนห่อนั้นเป็นที่เก็บสะสมของชิ้นเล็กชิ้นน้อยหลายๆ ชิ้นมาห่อรวมกัน หรือชิ้นเดียวที่มีขนาดย่อมๆ รวบรวมมาห่อไว้เป็นห่อๆ โดยจะมีห่อเดียว หรือหลายห่อก็ได้ และเก็บไว้ภายนอกร่างกาย นั่นเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ เอาไว้เป็นของตนเอง, รู้จักเก็บไว้บ้าง, เก็บไว้ไม่สุรุ่ยสุร่าย

การเก็บเอาเงิน หรือทรัพย์สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ สะสมไว้เป็นส่วนของตัว หรือรู้จักขยักไว้เก็บบ้าง คือ เป็นคนรู้จักเก็บไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย อุปมาเสมือนดั่งว่าเก็บเข้าพกเข้าห่อ ไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเข้าพกเข้าห่อ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเข้าพกเข้าห่อ

  • บางคนหากินกับความศรัทธาของชาวบ้านที่มาทำบุญ แล้วนำเงินของชาวบ้าน เอาผลประโยชน์ มาเข้าพกเข้าห่อ
  • หาเงินหาทองได้ก็รู้จัก เข้าพกเข้าห่อ เสียบ้าง วันหน้าจะได้ไม่ลำบาก
  • ถ้าคุณอยากให้ทุกคนเชื่อ คนต้องแสดงความบริสุทธิ์ให้ได้ ว่าคุณไม่เคยนำเงินที่ทุกคนร่วมใจกับบริจาคเก็บเข้าพกเข้าห่อ
  • ถ้านายบริสุทธิ์ใจว่าเงินบริจาคที่นายรวบรวมได้ไม่เคยเก็บ เข้าพกเข้าห่อ ก็ควรจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น
  • ข้าราชการที่มีธรรมาภิบาลบริหารอย่างสุจริตยุติธรรม ไม่มีการกินตามน้ำ หรือรับเงินใต้โต๊ะ เงินทองก็จะไม่มีรั่วไหลไปเข้าพกเข้าห่อผู้ใดได้เลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเข้ารกเข้าพง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ข. เข้ารกเข้าพง

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเข้ารกเข้าพง

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงการเข้าไปในป่าที่มีต้นไม้ขึ้นรวมกันอยู่อย่างยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีดงหญ้า หรือดงไม้ที่เป็นหมู่ๆ ที่รกๆ ที่ขึ้นปะปนกันอย่างยุ่งเหยิง ตามปกติธรรมดาคนเราจะสัญจรไปมาก็ชอบที่จะเดินไปตามถนนหนทางที่ราบเรียบ ไม่มีป่าหญ้ารกชัฏ หรือมีขวากหนาม แต่ถ้ามีคนอุตริไม่ชอบเดินตามทางที่สะดวกสบาย กลับชอบเดินตามป่าตามดงที่มีขวากหนาม หรือแหวกป่าเดินมันคงเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากๆ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ พูดหรือทําไม่ถูกต้องกับเรื่อง ทำผิดๆ ถูกๆ เพราะไม่มีความชำนาญ มีแต่จะทำให้เสียหายยิ่งขึ้น

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเข้ารกเข้าพง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเข้ารกเข้าพง

  • นี่แหละผลของการที่ไม่ยอมเตรียมตัวมาให้ดีก่อนพูด พอขึ้นพูดจริงก็เลย เข้ารกเข้าพง จนหาที่ลงไม่ได้
  • ก่อนจะลงมือทำอะไรควรจะหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ไม่ใช่ใครบอกอะไรก็ทำตามไปเสียหมด เดี๋ยวจะพากันเข้ารกเข้าพงกันพอดี
  • รัฐบาลประยวย ร่าง พรบ. เงินกู้ 3 ล้านล้านบาท ทำผิดระเบียบผิดวิธีงบประมาณเข้ารกเข้าพง ไป แล้วยังรวบหัวรวบหางยกมือผ่านอีก พอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า พรบ. ฉบับนี้ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดรัฐธรรมนูญ ก็ยังดันทุรังไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลอีก
  • น่าเห็นใจจริงๆ เขายังขาดความรู้ความชำนาญอยู่มาก แต่คิดว่าตัวเองเก่งมีฝีมือ ใครเตือนอะไรก็ไม่ฟังจนตอนนี้เข้ารกเข้าพงไปไกลแล้ว
  • ก็เพราะเขาถือว่าตัวเองเก่ง ใครเตือนอะไรก็ไม่ฟัง เวลาทำจริงถึงไม่มีใครอยากทักท้วงปล่อยให้ เข้ารกเข้าพง ไปเสียอย่างนั้น

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ข. แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงเรื่องบุญ เรื่องวาสนา และบารมี แต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ ปุพเพกตปุญญตา หรือคุณความดีที่สะสมไว้อย่างสม่ำเสมอ แข่งพายเรือพอจะฝึกฝนมาแข่งได้ แต่บุญแข่งวาสนานั้นมันติดตัวแต่กำเนิดนั่นเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ อย่าไปแข่งขันกับคนที่มีบุญวาสนามากกว่า เพราะบุญวาสนาหรือบารมีของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน

ในยุคสมัยนี้ก็จริงอยู่ว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ ดังนั้นอย่าน้อยเนื้อต่ำใจถ้าเกิดมาไม่ได้มั่งมีอย่างใครคนอื่น ก็ไม่เป็นไร เกิดเป็นคนต้องสู้ชีวิต สร้างตัวเอง สร้างเส้นทางของตัวเอง แม้ไม่ได้ร่ำรวย ก็ขอให้มีความสุขในทางที่เลือก ไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร และสร้างสิ่งดีๆ ให้กับโลกใบนี้

เกิดมาจนคุณไม่ผิด แต่ถ้าคุณตายแล้วยังจนอยู่นั่นแหละความผิดของคุณเอง

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้

  • เรื่องบุญ เรื่องวาสนา และบารมี แต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ ปุพเพกตปุญญตา หรือคุณความดีที่สะสมไว้อย่างสม่ำเสมอ แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งวาสนาไม่ได้จริงๆ
  • เธออย่าไปอิจฉาที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเลย ฉันรู้ว่าเธอเก่งกว่า ทำงานได้ดีกว่า แต่ก็อย่างที่เขาว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้
  • แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาสแข่งกันไม่ได้ จริงหรือ?? คนที่เคยผ่านการสอบราชการมาหลายคนอยู่ บางคนก็ว่าไม่ได้อ่านไปเลย ทำไม่ได้เลย แต่สอบผ่าน สอบติด เพื่อนบางคนจบเกียรตินิยม มั้นใจว่าติดแน่ ก็ยังไม่ติด บางคนอ่านจะเป็นจะตายยังไม่ติดเลย เพราะที่อ่านไม่ออก ไอ้ที่ออกไม่ได้อ่าน
  • น่าอิจฉาฉันคงไม่มีวาสนาที่จะได้แต่งงานกับมหาเศรษฐีอย่างเธอ แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้จริงๆ
  • “วาสนาบารมี” เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าถ้าใครมีแล้วจะเป็นคนสมบูรณ์พูนสุขด้วยลาภยศและฐานะหน้าที่ คนมีวาสนาบารมีดีจะเป็นที่นับหน้าถือตาของบุคคลทุกชั้น แม้หากจะมีผู้ปองร้าย มีคนอิจฉาริษยา หรือมีคนคิดล้มอำนาจวาสนาด้วยการทำดีทำเด่นแข่งก็มักจะสู้ไม่ได้ แพ้ภัยตัวเองไป จึงมีคำพังเพยที่พูดกันติดปากว่า “แข่งเรือแข่งแพพอแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งกันยาก”

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ค. คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย

ที่มาของสำนวน เปรียบถึงการทำอะไรเสี่ยงๆ คนเดียวมันอันตรายกว่าไปสองคน โดยคนโบราณเล่นคำให้คล้องจองสละสลวย โดย คนเดียว หมายถึง ตัวเราเพียงลำพัง แล้วสองคน คนๆ นั้น สามารถเป็นใครก็ได้ จำนวนกี่คนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว คนรัก เพื่อน พี่ น้อง อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษา หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่รู้จักก็ตาม เช่น ชายที่ประสบความสำเร็จในชีวิตหลายคน มักมีผู้หญิงซึ่งก็คือ ภรรยา คอยให้กำลังใจ และสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเสมอ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การจะทำอะไรที่มีความเสี่ยง ทำสองคนย่อมดีกว่าคนเดียว เพราะถ้าไปคนเดียวอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ถ้าไปกันสองคนจะได้สามารถช่วยกันได้

โบราณท่านใช้ในการสอนให้ไม่ประมาท เป็นคนรอบคอบ ทำอะไรไม่เสี่ยงเกินไป งานไหนที่เสี่ยงหรือมีอันตราย ควรมีคนอื่นไปด้วย เผื่อจะได้ช่วยกันในเวลาคับขัน ดีกว่าไปคนเดียว ซึ่งถ้าผิดพลาดอะไรขึ้นมา จะแก้ไขได้ไม่ทันการณ์

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย

  • การขับรถมอเตอร์ไซค์เดินทางไกลข้ามจังหวัด ควรมีเพื่อนรวมขบวนไปด้วยกัน คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ เพราะอาจจะมีอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น หรือรถเสียกลางทางก็เป็นได้
  • มีปัญหาอะไรเล่าให้ฉันฟังได้นะ จะได้ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข อย่างที่เขาว่าคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย
  • การออกหาของป่า ล่าสัตว์ พรานป่า มักจะไปกันหลายคน มีเพื่อนย่อมดีกว่า คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย ในป่าอาจจะมีอันตรายจากสัตว์ป่า หรือหลงทางก็จะสามารถช่วยเหลือกันได้
  • ที่พวกเราผ่านพ้นปัญหาพวกนั้นมาได้เพราะ เรามีความสามัคคี ไม่ทิ้งกัน คือคติคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย
  • เบื้องหลังงของผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ ย่อมมีภรรยาที่ดีอยู่เบื้องหลังเสมอ ทั้งคู่ต่างเป็นแรงบวกให้กันไปข้างหน้าเสมอ เฉกเช่นคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย การเลือกคู่ชีวิตต้องเลือกให้ดี

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube