สุภาษิตคำพังเพยชาติคางคก ยางหัวไม่ตกก็ไม่รู้สึก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ชาติคางคก ยางหัวไม่ตกก็ไม่รู้สึก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยชาติคางคก ยางหัวไม่ตกก็ไม่รู้สึก

ที่มาของสำนวน เปรียบคนโง่กับคางคก ทำตัวอวดดี ชอบกระโดดไปเรื่อยตามธรรมชาติของมัน สุดท้ายก็โดนสัตว์นักล่าจับกิน หรือก็รถทับ อย่างที่ได้เห็นกันบ่อยๆ

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่ดื้อรั้นทำอะไรนอกลู่นอกทาง ทำในสิ่งไม่ดี แม้จะมีคนตักเตือนแต่ก็ไม่เชื่อฟังยังดื้อรั้นที่จะทำให้ได้ จนคนที่เตือนต้องปล่อยให้ทำไปจนกว่าจะรู้สึกด้วยตัวเอง

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยชาติคางคก ยางหัวไม่ตกก็ไม่รู้สึก

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตชาติคางคก ยางหัวไม่ตกก็ไม่รู้สึก

  • เด็กที่ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่หรือผู้ปกครอง เมื่อห้ามด้วยปากไม่เชื่อก็ต้องใช้ไม้เรียวเฆี่ยนทำให้เจ็บตัวเสียก่อนจึงจะรู้สึก อย่าเป็นเด็กชาติคางคก ยางหัวไม่ตกก็ไม่รู้สึก
  • ก่อนหน้านี้เขาก็เป็นพวกชาติคางคก ย่งหัวไม่ตกก็ไม่รู้สึก เคยรั้นจะขยายสาขาร้านอาหารโดยที่ยังไม่พร้อม ยังควบคุมคุณภาพไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงถึงได้รู้สึกตัวว่าพลาดอะไรไป
  • “เปรียบคนโง่ อวดฉลาด ชาติคางคก ยางหัวไม่ตก ก็ไม่รู้สึก ชอบผงก หัวเบ่ง ทำเก่งกล้า เมื่อธาตุแท้ ถูกปอก เผยออกมา ต้องขายหน้า อดสู อายผู้คนฯ” บทกลอนที่แสนเรียบง่ายไว้สอนคน
  • บางคนเคยเป็นคนเก่ง เคยเหนือกว่าผู้อื่น ก็จะมักจะกลายเป็นคนที่อวดดี ไม่ฟังใคร คนแบบนี้ ต้องปลอยให้เจอเอง อยากจะทำอะใร ก็ต้องปล่อยให้มีประสบการณ์ตรง ชาติคางคกยางหัวไม่ตกไม่รู้สำนึก คนแบบนี้หากไม่เจอเรื่องแย่ๆ เพราะความอวดดีของตนเอง ก็ยาก จะสำนึก และรู้จักคิด ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องให้ได้เจอกับประสบการณ์เลวร้ายอยากมาก จึงจะยอมเปลี่ยนตัวเอง
  • ผมเคยเตือนเขาแล้วว่าอย่าเข้าไปยุ่งกับเรื่องการเมืองแต่เขาก็ไม่ฟัง คนอย่างเขาเป็นพวกชาติคางคก ยางหัวไม่ตกก็ไม่รู้สึก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงเสือที่เป็นสัตว์ที่ดุร้าย ถือเป็นสัตว์ที่น่าเกรงกลัวในป่า โดยสัญลักษณ์ลายของมันเป็นสัญลักษณ์ของความเก่งกาจ กล้าหาญ สำนวนนี้ยังมีความหมายคล้ายๆ กับ “ชาติเสือไม่ทิ้งลาย” อีกด้วย

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การเกิดเป็นผู้ชายต้องทำตัวให้สมเกียรติของการเป็นลูกผู้ชาย เข้มแข็ง กล้าหาญ แสดงความเก่งกาจสมกับคำร่ำลือ โดยเฉพาะในมุมของชื่อเสียง และเกียรติประวัติของชายคนนั้น

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ

  • ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ! เกิดเป็นผู้ชายต้องกล้าหาญ เข้มแข็ง ดูแลปกป้องคนที่อ่อนแอ่กว่าได้ นี่แหละสุภาพบุรุษที่โลกต้องการ จำไว้ลูก
  • ผมถูกสอนมาว่าเกิดเป็นผู้ชายชาติเสือไม่ทิ้งลาย ต่อให้จะต้องเจออุปสรรค ต้องเจอกับโจรผู้ร้ายผมก็ไม่หวั่น
  • สมคำร่ำลือที่ว่าคุณเป็นพวกชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ เสียจริง ด้วยคนเพียงน้อยนิดกลับสามารถบุกเข้าไปช่วยตัวประกันมาได้โดยที่ไม่เสียกำลังพลแม้แต่คนเดียว
  • นายทหารคนนี้กล้าหาญต่อสู้กับข้าศึกศัตรูอย่างกล้าหาญไม่กลัวความตาย แบบนี้ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อจริงๆ
  • ถึงแม้ว่าเขาจะกลับมาประจำการที่กรมหลายปี แต่พอได้กลับไปชายแดนเขาก็ยังคงต่อสู้กับศัตรูอย่างไม่กลัวตายเหมือนเดิม สมแล้วที่เขาว่าชาติเสือไม่ทิ้งลาย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงนิสัยสุนัขหรือหมา แม้ว่าจะเลี้ยงดูและให้กินอาหารดีๆ หากมีโอกาสก็ยังอดไม่ได้ที่จะไปกินของเสียอยู่ดี

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนเลวยังไง สุดทายก็ยังเป็นคนเลว คนที่เคยทําชั่วมาก่อน ต่อให้ได้รับ การอบรมที่ดี หรือยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีก็ยังทําชั่วเหมือนเดิม

สำนวนนี้สอนคนให้รู้จักคน โดยคนไม่ดีหรือคนที่เคยประพฤติชั่วมาก่อน ต่อให้ภายหลังจะได้รับการอบรมเลี้ยงดู อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างไร ก็อดที่จะประพฤติตนเช่นเดิมไม่ได้

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้

  • นักการเมืองบางคนมันชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้จริงๆ แม่ง ปากบอกว่าจะกลับตัวทำเพื่อประชาชน สุดท้ายก็กลับกลอกโกงกินอยู่ดี
  • ชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้จริงๆ เด็กคนนี้เป็นเด็กกำพร้ามีนิสัยลักขโมยจนเป็นนิสัยต้องเขาโรงเรียนดัดสันดาน ต่อมาครอบครัวเศรษฐีมาพบเข้าจึงได้อุปการะเลี้ยงดู แต่สุดท้ายเด็กคนนี้ก็ได้พาพรรคพวกมายกเค้าถึงในบ้าน
  • สันดานโจรเหมือนเดิม! สมชายออกคุก สังคมให้โอกาสทำงานสุจริต ให้กลับเนื้อกลับตัว สุดท้ายชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้อยู่ดี เนรคุณลักขโมยเงินนายจ้าง นี่แหละหนอคน
  • ผมไม่วันให้อภัยแฟนที่ไม่เคารพผม แอบนอกใจผมแน่นอน เพราะยังไงสันดานออก ชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้ จับได้รอบนี้ รอบหน้าต้องทำอีกแน่นอน ผมไม่ไว้ใจคนที่ผมรัก แล้วตอบแทนผมแบบนี้
  • คนบางคนต่อให้ได้รับโอกาสที่ดีมากมายขนาดไหน มันก็ไม่เอา ฝักใฝ่แต่สิ่งไม่ดี เพราะหลงระเริง นี่แหละชาติหมาอดกินขี้ไม่ได้ ถ้าคนไม่อยากเปลี่ยนตัวเอง ยังไงมันก็ไม่มีวันเปลี่ยน

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยช้าเป็นการ นานเป็นคุณ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ช้าเป็นการ นานเป็นคุณ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยช้าเป็นการ นานเป็นคุณ

ที่มาของสำนวน คำว่า ช้าเป็นการ นานเป็นคุณ ซึ่งคู่กับคำว่า “ช้าเสียการ นานเสียกิจ” ดังได้บอกลูกไว้แล้ว คำว่าช้าเป็นการ นานเป็นคุณนี้หมายความว่า งานบางอย่างจะต้องทำด้วยความรอบคอบ ต้องทำไปตามระยะเวลาจะรีบเร่งทำไม่ได้ เพราะถ้ารีบเร่งทำอาจจะทำให้ผิดพลาดบกพร่องหรือล้มเหลวได้ ต้องทำแบบใจเย็นๆ ต้องรอเวลา ด้วยว่างานบางอย่างต้องรอเวลา ขึ้นอยู่กับเวลา มีการกำหนดเวลาเข้าไว้

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทํา ดีกว่าด่วนทํา

โบราณท่านใช้ในการสอนบุคคลให้มีความใจเย็น ให้คิดรอบคอบก่อนลงมือทำอะไร ไม่ทำอะไรแบบรีบๆ ลวกๆ ไม่บุ่มบ่าม เพราะว่าแทนที่ผลจะออกมาดี กลับจะจะออกมาในทางร้าย ทางเสียหายแทน

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยช้าเป็นการนานเป็นคุณ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตช้าเป็นการ นานเป็นคุณ

  • การตีมีดสมัยโบราณต้องใช้ความอดทัน ช้าเป็นการนานเป็นคน มีดบางประเภทต้องค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ รีบเร่งก็ไม่ได้ ไม่เช่นั้นก็ จะได้มีดที่ไม่ดี ไม่มีคุณภาพ หักง่าย เปราะ ไม่แข็งแรง
  • ต้นไม้ต้องได้รับการดูแล มันมีเวลาของมัน ออกดอกออกผลตามฤดู อย่าไปเร่งให้ออกดอกออกผลเพื่อเอามาขายเลยคุณภาพผลผลิตที่ได้จะออกมาไม่ดี ต้องถือคติช้าเป็นการนานเป็นคุณ
  • สำนวนช้าเป็นการนานเป็นคุณ ไม่ได้สอนให้เป็นคนเอื่อยเฉื่อยหรือขี้เกียจ แต่สอนให้รอบคอบ โดยเฉพาะการกระทำหรือการตัดสินใจที่มีความสำคัญ
  • การศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาตัวเอง บางทีก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป ช้าเป็นการนานเป็นคุณ เพราะกว่าจะสั่งสมความรู้และ ประสบการณ์ให้มีความชำนาญ ต้องใช้เวลา อย่างการเป็นช่างฝีมือ ต้องใช้เวลาอย่างมากในการฝึกฝน
  • การลงทุนก็เหมือนการปลูกต้นไม้ เลือกบริษัทดีๆ สร้างแต่ผลดีให้กับเรา ศึกษาอย่างละเอียดก่อนลงทุนช้าเป็นการนานเป็นคุณ ไม่ต้องรีบร้อน ของดีๆ มีให้เราซื้อเสมอ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสาร ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสาร

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสาร

ที่มาของสำนวน การปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างชายหญิงในสังคมไทย ซึ่งสอนให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว โดยผู้ชายเปรียบเหมือนข้าวเปลือกที่สามารถนำไปหว่านหรือเพาะปลูก งอกใหม่ได้อีก ส่วนผู้หญิงเปรียบเหมือนข้าวสารคือผ่านการขัดสีแล้วพร้อมที่จะนำไปหุงไม่สามารถนำไปปลูกได้อีก

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ชายนั้นเปรียบเสมือนข้าวเปลือก ตกไปที่ไหนก็สามารถเจริญงอกงามได้ แต่หญิงกลับเป็นเพียงข้าวสาร ที่ไม่อาจงอกงามบนพื้นดินได้อีก และมักถูกใช้เพื่อสอนให้หญิงไทยทั้งหลายรู้จักรักนวลสงวนตัวอยู่ร่ำไป

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสาร

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสาร

  • ไม่ว่าจะเกิดอะไร ยุคสมัยไหน คำสอนโบราณสอนคนให้เป็นคนดี อย่างเช่น สำนวนสุภาษิตชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสาร ความหมายที่เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง เข้าถึงจิตใจ ธรรมชาติของคน เพื่อให้ผู้คนนยึดหลักในทางที่ดี ตามประเพณี
  • ลูกเป็นผู้หญิงจะทำอะไรต้องระมัดระวัง ไม่ใช่ทำตัวห่ามๆ เที่ยวจนดึกดื่นแบบผู้ชาย อย่างที่โบราณว่าชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสาร ทำอะไรมีแต่จะเสียหายนะ
  • เกิดเป็นหญิงจะทำอะไรจะคบกับใครก็ดูแลตัวเองด้วย โบราณท่านว่า ชายข้าวเปลือก หญิงข้าวสาร ถ้ามีอะไรพลาดขึ้นมาเราก็มีแต่เสียกับเสีย ผู้ชายเที่ยวดึกกลับเช้าไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอก แต่เราเป็นหญิงจะไปทำแบบนั้นมันไม่งาม อย่างที่เขาว่า ชายข้าวเปลือก หญิงข้าวสาร นั่นแหละ เป็นสุภาษิตสอนหญิงที่ดี ถึงจะให้ท้ายผู้ชายมากไปหน่อยก็ตาม… แต่วัฒนธรรมต้นกรุงผู้ชาย มีอำนาจเหนือผู้หญิง มากกว่าปัจจุบัน
  • “ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ รักกันไว้ดีกว่าชังระวังการ”
  • ผู้ชายก็เหมือนข้าวเปลือกไปที่ไหนก็สามารถสืบพันธุ์ได้ แต่ผู้หญิงนั้นเหมือนข้าวสารเมื่อผิดพลาดเสียหายตกที่ไหนก็เน่า ยุคสมัยไหนก็ไม่เสื่อมคลายในโลกที่มีแต่การเรียกร้องความเท่าเทียม แต่คนเราจะฝืนธรรมชาติได้อย่างไร!?

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว

ที่มาของสำนวน ชายสามโบสถ์ หมายถึง บวชและสึกมามากกว่าสามครั้ง ส่วนหญิงสามผัว หมายถึง ผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมาเยอะ

“หญิงสามผัว ชายสามโบสถ์” ถูกนำมาสร้างเป็นนวนิยายเรื่อง ชายสามโบสถ์ ขึ้น และปรากฏในคำนำของไม้ เมืองเดิม ในการพิมพ์เรื่องชายสามโบสถ์ว่า

ผู้ใหญ่ท่านกล่าวว่า “ชายสามโบสถ์” เป็นผู้ที่ใครยากจะคบหาหรือคบไม่ได้เสียเลย ซึ่งก็เนื่องจากในสมัยที่กล่าวคำนั้น เมื่อผู้ใดได้เข้าวัดบวชเรียนเพราะสำนักศึกษาคงมีอยู่ตามวัดนั่นเองจึงเป็นผู้ฉลาดเฉลียว รู้ธรรมะสูงกว่าชาวบ้านสามัญ

แต่หากการบวชบ่อยสึกบ่อยย่อมทำให้ผู้อื่นเล็งไปว่าเป็นคนเหลวไหล สิ้นหนทางสิ้นคิดที่จะเป็นฆราวาสก็จำเป็นต้องผินหน้าเข้าวัดเพื่อล้างชั่วหรือจ้องโอกาสและช่องทางที่จะบ่ายหน้าสู่เพศฆราวาสอีก

และเป็นคำคู่กันไปกับ “หญิงสามผัว” ก็น่าจะมีความหมายเป็นทำนองเดียวกันว่า หญิงซึ่งมีเหย้าเรือนลูกผัวไปแล้วและมีอีกแลเลิกร้างกันไปอีก ก็ย่อมจะมีผู้เล็งเห็นว่าหากหญิงดีไหนเลยจะเกิดการเลิกร้างและได้เสียกันบ่อยอย่างหนึ่ง

อีกอย่างหนึ่ง การมีสามีมากก็ย่อมจะรู้และชำนาญในเล่ห์ผัวเล่ห์เมียมากขึ้นพร้อมมารยาสาไถยตามส่วน

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ตามความเชื่อของคนสมัยก่อนคือ ผู้ชายที่บวชแล้วสึกถึงสามหน ผู้หญิงที่มีผ่านชายมาหลายคน คบ-หย่า หลายหน ใช้พูดเป็นเชิงตําหนิว่าเป็นคนที่ใจโลเล ไม่น่าคบ

ณ ปัจจุบัน สำนวนนี้ใช้ในการสอนคนว่าคนที่ไม่ควรไปรัก หรือมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวด้วย เนื่องจากเป็นคนใจโลเล มีจิตใจไม่มั่นคง

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว

  • สมัยทุกวันนี้โลกเปลี่ยนสังคมเปลี่ยนหมดแล้ว ความเชื่อค่านิยมไม่เหมือนสมัยก่อน การที่ชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว คนที่มีผัวเดียวเมียเดียวก็มี คนที่มีผัวมากกว่าสามผัวก็เยอะจนนับไม่ถ้วน เพราะถ้าผัวไม่ดีเค้าก็ไม่รู้ว่าจะมีทำไม ทำไมจะต้องทน จึงเอาไว้สอนใจว่าคนที่จิตใจไม่มั่นคง โลเล จะดีกว่า
  • คนที่จะเป็นผู้นำได้ควรมีความเด็ดเดี่ยว มั่นคง ไม่ใช่เป็นชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว โลเล ไม่กล้าตัดสินใจแบบนี้ แล้วลูกน้องที่ไหนเขาจะนับถือคุณ
  • นี่…สมชาย เราเตือนนายแล้วนะว่าอย่าไปหลงรักผู้หญิงคนนั้น เพราะเธอคนนั้นมีจิตใจโลเลไม่มั่นคง ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า “ชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว” ไว้ใจไม่ได้
  • ฉันว่าเธอควรจะเลิกคบกับผู้ชายคนนี้ได้แล้ว ทั้งๆที่คบกับเธอแต่ยังไปหาสู่กับแฟนเก่า เธอจะฝากอนาคตไว้กับชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว ที่จิตใจโลเล ไม่มั่นคงแบบนี้ได้อย่างไร
  • ผู้หญิงสามผัว มีคนแรก ก็ไม่ถูกใจ หย่า มีคนที่สองก็ไม่ถูกใจ ก็หย่า มีคนที่สาม คุณคิดว่าจะมีคนที่สี่ไหมแหละ? ผู้ชายสามโบสถ์ บวชครั้งแรก แล้วก็สึก แล้วไปบวชอีกเป็นครั้งที่ สอง แล้วก็สึก แล้วบวชอีกเป็นครั้งที่ สาม คุณคิดว่าจะมีครั้งที่สี่ไหมแหละ? นี่แหละคือคนจิตใจโลเล ตามสำนวนชายสามโบสถ์ หญิงสามผัวเลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น

ที่มาของสำนวน ตามความเชื่อคนไทยโบราณคู่กับพระพุทธศาสนา มาจากไม้กายสิทธิ์ที่ปลุกเสกโดยพระสงฆ์องค์เจ้าที่เรียกว่าไม้กัลปังหา หรือกล่าวอีกนัยก็ไม้กายสิทธิ์ดีๆ นี่แหละ สามารถชี้เป็น ชี้ตาย ให้ได้สิ่งที่ต้องการได้ กล่าคนโบราณจึงเล่นคำสวนให้คล้องจองจึงเป็นที่มาของสำนวน

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ ว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น มักใช้กับคนที่มีอำนาจคับฟ้า ใช้ให้ตายให้เป็นได้ ทำอะไรก็ได้ ว่าอย่างไรเป็นอย่างนั้น

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น

  • ผู้นำโลกอย่างประเทศสหรัฐฯ สามารถชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็นได้ ถ้าต้องจัดการกับประเทศที่เป็นศัตรูโดยตรง จึงทำให้ไม่ค่อยมีประเทศไหนกล้ายุ่ง เพราะเทคโนโลยีต่างกันคนละชั้นเลย
  • ไม้ครู หรือไม้เท้ากายสิทธิ์ ชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น “ไม้กัลปังหา” ไม้ครูด้ามนี้เป็นของตกทอดกันมาจากที่บ้านอาจารย์ ชุม เลยครับ มีตำราอุปเท่ห์วิธีการใช้ให้ด้วย 1 เล่ม ชี้ต้นตาย ศัตรู ฉิบหาย หรือมีอันเป็นไป ทั้งยังสามารถขับไล่ภูตผีปืศาจได้ ส่วนปลายไม้เท้า วิเศษทางเมตตา ความสุขความเจริญ แก้ ถอดถอน ชี้อธิฐานโรคภัยที่เบียดเบียน
  • เธออย่าไปวิตกกับคำทำนายของหมอดูนักเลย ชีวิตเธอจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของต้วเอง หมอดูไม่ใช้ผู้วิเศษที่สามารถมาชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็นให้กับใครก็ได้
  • ประธานาธิบดีคนนี้มีอำนาจมากจริงๆ สามารถชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น กำหนดทิศทางให้กับเศรษฐกิจของประเทศนี้ได้
  • ผู้มีอำนาจบางคนสามารถชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น แต่เขากลับไม่ทำ เขาเลือกที่จะอยู่อย่างเรียบง่าย และเงียบสงบ กลับได้ผลดีและมีความสุขกว่าความทะเยอทะยานที่จะทำลายคนอื่น

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยชีปล่อยปลาแห้ง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ชีปล่อยปลาแห้ง

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยชีปล่อยปลาแห้ง

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึง ชี อุบาสิกาที่ถือศีล ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นคนใจบุญมาเปรียบ กับการปล่อยปลาแห้ง ที่ไม่ก่อให้เกิดความดีใดๆ เพราะปลาแห้งเป็นปลาที่ตายแล้ว

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ การกระทำที่แสร้งว่าเป็นคนดี คนใจบุญ มีเมตตากรุณา แต่ไม่มีความจริงใจ

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยชีปล่อยปลาแห้ง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตชีปล่อยปลาแห้ง

  • นักการเมืองก็เหมือนชีปล่อยปลาแห้ง ทำดีเอาหน้า เพื่อให้ประชาชนเลือกตน นี่แหละวงวารการเมืองไทย
  • ดาราคนนี้ชอบทำตัวเป็นชีปล่อยปลาแห้ง ชอบออกสื่อว่าเป็นคนใจบุญ รักเด็ก ชอบทำบุญกับสถานเด็กเด็กกำพร้า แต่จริงๆแล้วเธอก็สร้างภาพให้ดูดี
  • เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา คุณนายสายหยุดนำขบวนผ้าป่าไปทอดที่วัดแห่งหนึ่ง ชาวบ้านต่างพากันดีใจ ที่จะมีเงินสร้างโบสถ์ แต่หารู้ไหมว่าที่คุณนายทำไปนั้น ก็เพราะหวังจะให้ชาวบ้านสนับสนุนลูกชายของหล่อนที่จะลงสมัครนายก อบต. ในเดือนหน้า
  • เป็นเศรษฐีใหญ่แต่ทำตัวเหมือนชีปล่อยปลาแห่ง ทำเป็นใจบุญเอาของมาแจกจ่ายชาวบ้าน แต่ของเหล่านั้นเสียจนไม่สามารถใช้การได้แล้ว
  • อย่ามาทำตัวเป็นชีปล่อยปลาแห้งกับผม คุณทำลายความไว้ใจผมไปหมดแล้ว ผมไม่เหลือความเชื่อใจแม้แต่น้อย อย่ามาแสร้งทำดีกับผมเพื่อผลประโยชน์กับตัวเอง

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยใช้ไม้นวม ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ใช้ไม้นวม

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยใช้ไม้นวม

ที่มาของสำนวน มาจากวงปี่พาทย์ไม้นวม เป็นวงปี่พาทย์ที่มีลักษณะและรูปวงคล้ายคลึงกับวงปี่พาทย์ไม้แข็ง ยกเว้นแต่ไม้ที่ใช้ตีระนาดเอก จะเปลี่ยนเป็นไม้พันด้วยผ้า ถักด้วยด้ายสี สลับสวยงาม เวลาตีมีเสียงนุ่มนวลกว่าไม้ที่หุ้มรัก ซึ่งใช้ตีในวงปี่พาทย์ไม้แข็ง และเรียกไม้ตีที่พันด้วยผ้า ไม้นวมนิยมใช้ตีระนาดเอกในวงปี่พาทย์ ที่บรรเลงและขับร้องในสถานที่ภายในห้อง ไม่ต้องการเสียงดัง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การใช้วิธีการที่นิ่มนวล ประนีประนอมกัน

สำนวนนี้นั้นนิยมใช้กับการใช้วิธีที่นุ่มนวล ละมุนละม่อม ในการแก้ปัญหา แทนที่จะใช้ความรุนแรงเด็ดขาด ซึ่งมักใช้กับการแก้ปัญหาในขึ้นต้นก่อนที่จะใช้วิธีการที่หนักขึ้น ตรงกันข้ามกับสำนวนใช้ไม้แข็งนั่นเอง

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยใช้ไม้นววม

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตใช้ไม้นวม

  • รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ คนรักกันทะเลาะกัน ต้องรู้จักใช้ไม้นวม ห้ามใช้ไม้แข็ง เพราะความรักจะไม่ยืนยาวอย่างแน่นอน
  • ตำรวจยังคงใช้ไม้นวลเข้าไปเจรจาของคืนพื้นที่ จากผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันปิดถนน
  • ผู้จัดการบริษัทพบว่าช่วงนี้พนักงานมาทำงานสายกันมาก ไม่สนใจกฏระเบียบของบริษัท เขาเลือกที่จะใช้ไม้นวมเข้าแก้ปัญหาโดยการเรียกประชุมพนักงานทั้งหมดเพื่อทบทวนกฏระเบียบและตักเตือน แต่ก็ได้ย้ำว่าถ้าไม่ดีขึ้นก็คงต้องมีมาตรการลงโทษต่อไป
  • เด็กวัยนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ต้องใช้ไม้นวม ใช้วิธีที่นิ่มนวลคุยกับเด็กด้วยเหตุผล ไม่อย่างนั้นจะเตลิดเปิดเปิงไปกันใหญ่
  • นักเรียนชั้นนี้ซนมาก ใช้ไม้แข็งไม่ได้เลย ต้องใช้ไม้นวมจึงยอมเข้าเรียน

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยใช้ไม้แข็ง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ใช้ไม้แข็ง

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยใช้ไม้แข็ง

ที่มาของสำนวน เปรียบกับการไม้ตีระนาด โดยไม้มี 2 ส่วน ส่วนที่ใช้มือถือทำด้วยไม้ไผ่เหลากลม ตอนปลายที่ใช้ตีพอกด้วยผ้าชุบยางรักเมื่อตีจะมีเสียงกังวาน ใช้เฉพาะระนาดเอก, โดยปริยายหมายความว่า วิธีการเฉียบขาด, อำนาจเด็ดขาด

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การใช้วิธีการที่รุงแรง หนักหน่วง ไม่ยอมอ่อนข้อ แสดงถึงความเด็ดขาด

โบราณท่านนิยมใช้เปรียบเทียบถึงการสั่งสอนหรือการลงโทษด้วยมาตราการที่รุนแรง อันเนื่องมาจากการลงโทษด้วยวิธีการธรรมดานั้นไม่ได้ผลเสียแล้ว คำว่าใช้ไม้แข็งนิยมใช้กับลูกหลาน คนในปกครอง หรือลูกน้องที่กระทำความผิดอยู่เป็นประจำ

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยใช้ไม้แข็ง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตใช้ไม้แข็ง

  • เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ไม้แข็ง จับจริง ปรับจริง สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
  • ก็เพราะคุณเอาแต่ใช้ไม้นวมกับลูกทุกวันนี้มันถึงได้ใจ เห็นทีจะต้อง ใช้ไม้แข็ง ดัดนิสัยกันเสียบ้างแล้ว
  • ผู้อำนวยการโรงเรียนอาชีวะประกาศใช้ไม้แข็ง หากนักเรียนคนใดมีเรื่องทะเลาะวิวาท จะพ้นสภาพการเป็นนักเรียนทันที
  • การฝึกวิชาทหารถ้าไม่ ใช้ไม้แข็ง เสียเลยก็จะทำให้เสียการปกครองไปโดยปริยาย
  • เมื่อความอดยากคืนคลานทุกหย่อมหญ้า อย่าให้ประชาชนต้องช้ไม้แข็งจัดหนักรัฐบาล ที่เอาแต่กู้เงินและโกงกินประเทศ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube