สุภาษิตคำพังเพยหัวแก้วหัวแหวน ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หัวแก้วหัวแหวน

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหัวแก้วหัวแหวน

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยสิ่งที่ใส่ประดับเข้าไปเป็นยอดของแหวนนั้น ส่วนมากมักจะเป็นเพชร หรือพลอยที่สวยงาม และมีค่ามีราคาแพงมากๆ มันจึงเป็นที่รักที่ชอบที่หวงแหนของเรา

สิ่งที่ประดับไว้บนหัวแหวนส่วนมากมักจะเป็นอัญมณีที่มีค่ามาก หรือเพชร พลอย เราจึงรัก และ ทะนุถนอมคอยดูแลมันอยู่ตลอดเวลา แทบจะไม่ให้คลาดสายตา ดังนั้นสิ่งใด หรือบุคคลใดที่เรารักใคร่ และห่วงใยมากๆ จึงประดุจดั่งว่าสิ่งนั้น หรือบุคคลผู้นั้นก็เสมือนดั่งว่าเป็น “หัวแก้วหัวแหวน”

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ สิ่งเป็นที่รักใคร่เอ็นดูมาก เป็นที่โปรดปรานมาก มักใช้กับคนที่เรารักใคร่เอ็นดู และโปรดปรานมากๆ ว่าเปรียบเสมือนดั่งเป็นหัวแก้วหัวแหวนของเรา

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหัวแก้วหัวแหวน

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหัวแก้วหัวแหวน

  • พ่อหมอกระต่ายใจสลาย สูญเสียลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ไม่เคียดแค้นตำรวจซิ่งบิ๊กไก์ชนลูกข้ามทางม้าลายเสียชีวิต แต่เสียใจมาก ไม่รู้เราจะอยู่กันอย่างไร
  • อาทิตย์นั้นเป็นลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวน ของคุณครูเพลง ครูศิลปะศิลปินแห่งชาติ
  • ลูกของเราได้ลืมตาดูโลก ธิดาตัวน้อยเปรียบเสมือนหัวแก้วหัวแหวนของเราทั้งคู่ เราจะรักและเลี้ยงดูลูกของเราให้ดีที่สุด
  • สิ่งที่เป็นหัวแก้วหัวแหวนของเรา ต้องดูแลรักษา ทะนุถนอมให้ดีที่สุด เพราะมันเป็นสิ่งมีค่าเทียบเท่าชีวิตของเรา
  • เปรียบสิ่งสำคัญคือหัวแก้วหัวแหวนของเรา เป็นสิ่งนำทางชีวิต เช่น เป้าหมายชีวิต หรือบุคคลที่เรารักมากที่สุด

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหักด้ามพร้าด้วยเข่า ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หักด้ามพร้าด้วยเข่า

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหักด้ามพร้าด้วยเข่า

ที่มาของสำนวนนี้ คำว่า “ พร้า ” ในสำนวนนี้ คือมีดใบใหญ่สำหรับใช้ฟัน ซึ่งมีด้ามจับที่แข็งแรง เปรียบเปรยถึงการที่จะหักด้ามพร้าด้วยเข่านั้นเป็นเรื่องยากมาก นอกจากจะหักไม่ได้แล้ว ยังทำให้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย โบราณท่านเปรียบคนที่ชอบใช้กำลังหรืออำนาจบีบบังคับเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการเอาไว้เสมือนกับว่าเป็นการหักด้ามพร้าด้วยเข่านั่นเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ หักโหมเอาด้วยกําลัง ใช้อํานาจบังคับเอา การทำอะไรโดยใช้กำลังรุนแรง หรือการใช้อำนาจบังคับให้ได้มาโดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น

นิยมนำมาใช้เมื่อบุคคลใดที่ใช้กำลังหรืออำนาจหรือบริวารที่มี บังคับ ขู่เข็ญ รวบรัดตัดความ เพื่อให้สมหวังในสิ่งที่ต้องการ โดยไม่สนใจความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่งสำนวนนี้นิยมนำมาใช้ในความหมายเชิงลบ

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหักด้ามพร้าด้วยเข่า

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหักด้ามพร้าด้วยเข่า

  • การศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ถ้านายดำจะพาชาวบ้านไม่กี่คนไปรบกับกองทัพของข้าศึก ก็เหมือนกับการหักด้ามพร้าด้วยเข่า ดังนั้นพวกเราต้องรอกำลังเสริมก่อน
  • บริษัทใช้วิธีหักด้ามพร้าด้วยเช่าโดยประกาศบังคับให้พนักงานมาทำงานในวันอาทิตย์ สุดท้ายพนักงานก็เลยพากันลาออกทำให้บริษัทเสียหายเป็นจำนวนมาก
  • นี่ลูก คนเรามีอะไรก็ต้องพูดจากันดีๆ อย่าเอาแต่ใจตัวเอง อย่าใช้อำนาจบีบบังคับผู้อื่นเหมือนหักด้ามพร้าด้วยเข่านะ
  • ยังไงพวกเธอสองคนก็เป็นพี่น้องครอบครัวเดียวกัน อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาเรื่องกันจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเลย หันหน้าพูดจากันดีๆ จะดีกว่า
  • สหรัฐพยายามกดดันจีนด้วยมาตรการทางการค้าต่างๆ กับจีนเป็นการกระทำที่หักด้ามพร้าด้วยเข่า ที่พยายามกีดกันสินค้าต่างๆ เนื่องจากจีนขโมยเทคโนโลยีการผลิตชิบสำคัญๆ ไป

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหอกข้างแคร่ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หอกข้างแคร่

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหอกข้างแคร่

ที่มาของสำนวน หอกที่ปักติดไว้กับแคร่ สำหรับผู้นั่งแคร่หยิบได้สะดวก การที่หอกปักติดอยู่กับแคร่ เพื่อประโยชน์ผู้นั่งแคร่นี้ อาจจะเป็นโทษก็ได้ เช่น บริวารที่ไม่มีอาวุธเมื่อคิดทรยศก็เป็นโอกาสที่จะฉวยหอกนั้นมาเป็นอาวุธใช้แทงผู้ที่นั่งแคร่ได้ง่ายทันที ดังนี้จึงเกิดสำนวน หอกข้างแคร่ หมายถึงศัตรูอยู่ข้างตัว หรือผู้ที่ตามปกติวิสัยไม่ถูกกันมาอยู่ด้วยกัน

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนใกล้ชิดที่จะคอยทำร้ายเมื่อใดก็ได้ หรือศัตรูอยู่ข้างตัว

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหอกข้างแคร่

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหอกข้างแคร่

  • ผู้นำระดับท้องถิ่น ถ้ามีหอกข้างแคร่แล้วเป็นไร? คล้ายผู้ประจบ ไม่ต้องสอพลอก็พอแล้ว คอยตอบคำถามที่ไม่ตรงประเด็น เบี่ยงเบน แล้วบอกแต่ของดีๆๆ ของที่เสนอแนะไม่ยอมบอก กลับบอกว่า.มีผู้ใส่ร้าย ผู้นำจะเป็นอย่างไร? คล่ายกับพระยากลาโหม สมัยอยุธยา พระเจ้าตากกราบทูลอย่างไร เจ้าพระยากลาโหมก็ตอบแทนทั้งหมด ผลที่สุดกรุงแตก ในทำนองเดียวกันนี้ ผู้นำคอยแล
  • หอกข้างแคร่โดยแท้ โรนัลโด้ โดนสโมสรอันเป็นที่รักหักหลัง พร้อมถีบหัวส่งออกจากทีม จากตำนานกลายเป็นไอ้โง่
  • พรรคเดโมแครต หอกข้างแคร่นัมเบอร์วันของในสภา ที่วันเดือนปีไม่เคยหลุดออกมา แต่มาว่อนโซเชียลเอาในวันที่มีปัญหากับวัน ครม.ที่รัฐมนตรีริพับลิกันบอยคอตพอดิบพอดี
  • น่าสงสารสมชายจริง สมปองเพื่อนสนิทกลับหักหลังแย่งแฟนสมชายไปดื้อๆ แบบนี้เข้าสำนวนข้างแคร่ชัดๆ
  • กองทัพเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สองมีความล้ำหน้ากว่าชาติอื่นเป็นอย่างมาก สุดท้ายโดนประเทศพันธมิตรอักษะด้วยกันอย่างอิตาลีหักหลังไปเข้าอีกฝ่าย นับเป็นหอกข้างแคร่ของเยอรมันโดยแท้

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหยิกเล็บเจ็บเนื้อ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หยิกเล็บเจ็บเนื้อ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหยิกเล็บเจ็บเนื้อ

ที่มาของสำนวนนี้คือ เป็นอาการใช้เล็บหัวแม่มือกดลงบนดินเหนียว หรือขี้ผึ้งเพื่อทำเครื่องหมายไว้ มันย่อมกระทบกระเทือนถึงเนื้อนิ้วหัวแม่มือให้มีความรู้สึกเจ็บเล็กๆ น้อยไปด้วย

ครอบครัวเป็นสถาบันพื้นฐานของสังคมที่ประกอบด้วยสามีภรรยา และหมายความรวมถึงลูกด้วย บางครอบครัวเป็นครอบครัวใหญ่อาจจะมี ปู่-ย่า ตา-ยาย น้า-อา ป้า-ลุง รวมอยู่ด้วยกัน ความผูกพันในระดับครอบครัวนี้ อาจจะพูดแบบสำนวนจีนว่า “มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” กล่าวคือ ถ้าผู้ใดมีความสุข ความสุขนั้นก็จะเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่นๆ ในครอบครัวด้วย และ ในทำนองเดียวกันถ้าบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้รับอุบัติเหตุเภทภัย หรือมีความเดือดร้อนทุกข์กายทุกข์ใจด้วยเรื่องราวต่างๆ ทุกคนในครอบครัวก็พลอยทุกข์กายทุกข์ไปด้วย

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ เมื่อกระทำความเดือดร้อนให้แก่คนใกล้ชิดก็จะมีผลกระทบถึงตัวผู้กระทำ หรือคนในพวกเดียวกันด้วย กล่าวคือถ้าเราได้กระทำความเดือดร้อนให้แก่คนที่สนิทชิดเชื้อ หรือใกล้ชิดกับเรา มันก็จะมีผลกระทบมาถึงตัวเราเอง หรือคนในพวกกลุ่มเดียวกันกับเราด้วย

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหยิกเล็บเจ็บเนื้อ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหยิกเล็บเจ็บเนื้อ

  • ตอนหนึ่ง ในเรื่อง “ไกรทอง” พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 “ใช่จะแกล้งแสร้งซ้ำทำเปรียบเปรย พี่ก็เป็นคนเคยคนเข้าใจ จะมาฟื้นฝอยหาตะเข็บ หยิกเล็บเจ็บเนื้อหรือหาไม่”
  • คนโบราณมีเทคนิคสอนลูกหลาน บางเรื่องไม่ต้องพูดให้ ยืดยาว ไม่ต้องยกแม่น้ำทั้งห้า แค่ใช้ถ้อยคำสั้นๆ เช่น หยิกเล็บเจ็บเนื้อ ก็เข้าใจกันได้
  • การที่พ่อแม่ลงโทษลูกด้วยการเฆี่ยนตี ไม่ใช่เจ็บเฉพาะลูกแต่พ่อแม่ก็เจ็บในจิตในใจด้วย เปรียบเสมือนกับว่า “หยิกเล็บเจ็บเนื้อ” นั่นเอง
  • หยิกเล็บเจ็บเนื้อ ล็อกดาวน์บ้านเมืองป้องกันโรคหมากับปัญหาปากท้อง ทำให้ปัญหาลดลงจริงหรือ?
  • ลูกชายของสมบุญทำเรื่องเสื่อมเสียอยู่เสมอๆ ครั้งสุดท้ายขโมยเงินของสมบุญไป สมบุญโกรธมาก คิดจะไปแจ้งตำรวจ แต่เพื่อนก็เตือนว่า เจ้าเปียมันก็ลูกแกเอง ถ้ามันถูกจับ แกเองก็จะเดือดร้อน มันก็หยิกเล็บเจ็บเนื้อนั่นแหละ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหมาสองราง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หมาสองราง

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหมาสองราง

ที่มาของสำนวน เนื่องจากคนไทยมักจะเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้าน มักจะสังเกตอาการพฤติกรรมต่างๆ ของสุนัขได้ดี จึงนำข้อสังเกตนั้นมาเป็นสำนวนเพื่อสั่งสอนคนหลายสำนวน และในสำนวนนั้นใช้คำว่า หมา โดยเปรียบคนที่ทำอาการไม่ดีต่างๆ ว่าเป็นหมานั่นเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ เปรียบเปรยถึงคนที่ทำตัวเข้าทั้งสองฝ่ายที่ไม่ถูกกัน หรือเป็นศัตรูกัน โดยหวังประโยชน์เพื่อตน

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหมาสองราง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหมาสองราง

  • นายเลือกมาเลยว่าจะอยู่ฝ่ายไหน ไม่ใช่ทำตัวเป็นหมาสองรางแบบนี้
  • ปล่อยเขาไปที่ที่ชอบเลิกยุ่งซะก็จบ ในสังคมทุกวันนี้ก็เป็นแบบนี้ ทำใจยอมรับมัน ตั้งสติแล้วยอม คนทุกวันนี้เป็นนกสองหัว หรือหมาสองรางในสังคมพบเจอทุกวัน
  • ผมไม่อาจเชื่อใจเธอ จะให้ฉันเชื่อใจหมาสองรางอย่างเธอได้ยังไง
  • บางคนออกทีวีวอนประชาชนอย่าออกมาไล่รัฐบาล ทั้งที่ตนเคยด่ารัฐบาลอยู่ข้างประชาชน แต่ทำตัวให้คนด่าเป็นข้าสองเจ้า หมาสองราง
  • คนที่ทำตัวเป็นหมาสองราง เป็นคนที่ไม่ควรคบหา และไปยุ่งด้วย คนพวกนี้มักเห็นแก่ตัว เห็นประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหมาในรางหญ้า ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หมาในรางหญ้า

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหมาในรางหญ้า

ที่มาของสำนวน มาจากนิทานอิสบ หมาในรางหญ้า หมาตัวหนึ่ง มันชอบแอบเข้าไปงีบหลับอยู่ในรางหญ้าของโรงนาอยู่เสมอ มันได้กระโดดเข้าไปในรางหญ้าของวัวแล้วก็ขดตัวลงบนฟางในรางนั้น แต่ไม่นานเท่าไหร่วัวก็กลับมาจากการทำงานในตอนบ่าย ก็ได้เข้ามาที่รางหญ้าเพื่อต้องการกินฟางข้าว

เจ้าหมาสะดุ้งตื่น มันรู้สึกโกรธเดือดดาลเป็นอย่างมาก มันยืนเห่าวัว และเมื่อวัวเข้าใกล้มันก็ทำท่าจะกัด ลุกขึ้นแยกเขี้ยวเห่าไล่วัว ไม่ให้กินหญ้า

วัวจึงพูดด้วยความอดกลั้นว่า “เจ้าหมาเกเร แม้แต่หญ้าที่เจ้าไม่กิน เจ้าก้ยังขัดขวางไม่ให้ข้ากินอีกรึ” สุดท้ายวัวจึงเดินออกไปจากที่ตรงนั้น แล้วไปกินฟางข้าวในรางอื่นรอบๆ โรงนาแทน

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ผู้ที่หวงในสิ่งที่ตนไม่ได้ใช้ประโยชน์ เปรียบเปรยถึงคนที่มีนิสัยพาล มักขัดขวางให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสมอ

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหมาในรางหญ้า

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหมาในรางหญ้า

  • ฉันเห็นว่าพี่สาวของฉันมีเสื้อผ้าเยอะแยะมากมาย บางตัวก็ไม่ได้ใส่แล้ว ฉันเลยเก็บเสื้อผ้าที่พี่ไม่ได้ใส่มาเป็นปีๆ ใส่กล่องเพื่อนำไปบริจาค พอพี่สาวมาเห็นเข้าก็โวยวายใหญ่ และให้ฉันเอาไปเก็บไว้ที่เดิม ฉันนึกในใจว่าทำตัวเป็นหมาในรางหญ้าไปได้
  • ยิ่งเมื่อนึกไปถึงการเมือง บางพรรคใหญ่ ที่ใช้แต้มต่อสารพัด อำนาจกฎหมาย อำนาจเงิน สื่อทั้งที่อยู่ในมือ สื่อที่ใช้เงินซื้อ และสื่อที่รักตัวกลัวภัย ก็ช่วยกันโหมประโคม น่าแปลก ที่ผลโพล ไม่ว่ากี่โพล ที่ออกมา คะแนนก็ทำท่าจะลดน้อยลง ต้นเหตุของเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อน ไม่ว่าคนใกล้ตัว คนไกลตัว ก็ดูจะรู้ๆกันทั้งนั้น เพราะเจ้าหมาในรางหญ้าตัวนั้น
  • หมาในรางหญ้ามาจากนิทานกรีกเก่าซึ่งได้รับการถ่ายทอดในเวอร์ชันต่างๆ มีการตีความอย่างหลากหลายตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาคำอุปมานี้ถูกใช้เพื่อพูดถึงผู้ที่ขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นมีบางสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ แม้ว่านิทานจะถูกกำหนดไว้ในนิทานอีสปในศตวรรษที่ 15 แต่ก็ไม่มีแหล่งข้อมูลโบราณที่กล่าวเช่นกัน
  • คนบางคนทำตัวแบบหมาในรางหญ้า เมื่อตัวเองไม่ได้อะไร ก็จะไม่ให้ผู้อื่นได้ดี คนแบบนี้มีจริงๆ ในสังคมของเราทุกวันนี้
  • ผมไม่ชอบพวกหมาในรางหญ้า เวลาทำงานกำลังไปได้สวยมักจะขัดขาผมอยู่เสมอ ผมไม่สามารถยืดหยัดกับคนประเภนนี้ได้ นอกจากจะไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นแล้ว ยังฉุดเราแย่ไปอีก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหนามยอกเอาหนามบ่ง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หนามยอกเอาหนามบ่ง

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหนามยอกเอาหนามบ่ง

ที่มาของสำนวน หนาม คือ ส่วนแหลมๆ ที่งอกออกจากต้นหรือกิ่งของต้นไม้บางชนิด เช่น หนามพุทรา หนามกุหลาบ ยอก หมายถึง ฝังอยู่ในเนื้อ หรือรู้สึกเจ็บแปลบคล้ายมีอะไรมาเสียดแทงอยู่. หนามยอก ในที่นี้หมายถึง หนามฝังอยู่ในเนื้อ ทำให้เจ็บแปลบ โดยทั่วไป เมื่อถูกหนามตำ เราจะใช้ของแหลมๆ เช่นเข็ม แทงที่เนื้อเพื่อสะกิดและเขี่ยเอาหนามออกมา อาการนี้เรียกว่า บ่งหนาม

ในสมัยโบราณเข็มที่สะอาดๆหายาก คนโบราณจึงนิยมใช้หนามที่มีขนาดพอเหมาะพอดีมาล้างให้สะอาด หรือ ลนไฟ แล้วใช้บ่งหนามที่ทิ่มตำเรา เพื่อนำมันออกมาจากเนื้อของเรา

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การตอบโต้ด้วยวิธีการทำนองเดียวกัน หรือการตอบโต้ฝ่ายที่ตรงข้ามเรา ด้วยวิธีการเดียวกันกับที่เขาทำกับเรา

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหนามยอกเอาหนามบ่ง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหนามยอกเอาหนามบ่ง

  • หนามยอกเอาหนามบ่ง! เมื่อ Twitter ต่อกรกับข่าวปลอมด้วย AI ที่สร้างข่าวปลอม
  • กลยุทธ์หนามยอกเอาหนามบ่ง ใช้ไวรัสเอดส์พิการมาต้านเอดส์/ทะลุกรอบ
  • น้องสาวฉันกินข้าวเสร็จเป็นต้องทิ้งถ้วยชามไว้ ไม่ยอมล้างเองสักที คุณแม่เลยดัดนิสัยแบบหนามยอกเอาหนามบ่ง พอถึงเวลาอาหารก็เหลือแต่จานที่ยังไม่ได้ล้างไว้ให้ เขาจึงต้องไปล้างจานเอง
  • หนามยอกเอาหนามบ่ง ชาวบางน้ำผึ้งเอาขยะมาทำทุ่นกักขยะ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าชื่นชมจริงๆ
  • หนามยอกเอาหนามบ่ง เคยได้ยินไหมยุทธการใช้โจรปราบโจร ใช้น้ำกั้นน้ำ ใช้ยุงลดปริมาณยุง

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหน้าสิ่วหน้าขวาน ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หน้าสิ่วหน้าขวาน

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหน้าสิ่วหน้าขวาน

ที่มาของสำนวนนี้ สิ่ว คือ เครื่องมือของช่างไม้หรือช่างทองเป็นต้น เป็นเหล็กแบนๆ ปลายคม มีด้ามสำหรับใช้ค้อนเป็นต้นตอกเพื่อให้ปลายสิ่วเจาะ เซาะ หรือดุนไม้หรือวัตถุต่างๆ ให้เป็นร่องหรือเป็นรูปตามต้องการ หน้าสิ่ว หมายความว่า อยู่หน้าคมสิ่ว อาจจะโดนคมสิ่วได้ง่ายๆ, ขวาน คือเครื่องมือสำหรับตัด ฟัน ผ่า หรือถากไม้ ทำด้วยเหล็กมีสันหนาปลายคม มีด้ามไม้สำหรับจับ หน้าขวาน ก็หมายถึง อยู่หน้าคมขวาน เวลาที่ช่างไม้กำลังใช้สิ่วหรือขวานทำงานอยู่ เรามักจะห้ามไม่ให้ใครเข้าไปใกล้อยู่ตรงหน้าคมสิ่วคมขวาน เพราะอาจพลาดพลั้งได้รับอันตรายได้ จึงมีสำนวนเปรียบเทียบภาวะที่อยู่ในระยะอันตราย

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ อยู่ในระยะอันตรายเพราะอีกฝ่ายหนึ่งกําลังโกรธหรือมีเหตุการณ์วิกฤต หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหน้าสิ่วหน้าขวาน

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหน้าสิ่วหน้าขวาน

  • ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน มีเหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมือง เธอยังจะมีอารมณ์ไปเที่ยวอยู่อีกนะ
  • อย่าเพิ่งให้หัวหน้าเข้าไปเจรจาตอนนี้เลย ทั้งสองฝ่ายกำลังทะเลาะกันอยู่ หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้อันตราย จะเจ็บตัวกลับมาเปล่าๆ
  • คนบางคนหิวแสง ทำได้ทุกอย่าง แม้ยามหน้าสิ่วหน้าขวานของบางคน กลับกลายเป็นแย่กว่าเดิม
  • ในยามที่บริษัทมีเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน พนักงานลาออกไปเป็นจำนวนมาก แต่ต้องผลิตสินค้าให้ทันตามกำหนดเดิม พวกคุณต้องร่วมไม้ร่วมมือกันรับผิดชอบงานที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เกี่ยงงานกันทำแบบนี้
  • เป็นทหารอย่าเข้าไปยุ่งกับการเมือง เวลาประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ในฐานะประเทศประชาธิปไตย เป็นช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ละเอียดอ่อน อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหน้าซื่อใจคด ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หน้าซื่อใจคด

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหน้าซื่อใจคด

ที่มาของสำนวนนี้คือ เปรียบเปรยถึงธรรมชาติของมนุษย์ว่าหน้าตาซื่อๆ ใสๆ แต่ภายในอาจจะอีกอย่าง อาจจะใช้นทางดีหรือไม่ดีก็ได้ “คนก็คือคน สองหน้าใส่หน้ากาก คนหน้าซื่อใจคดจริงๆ เราทุกคนบอกว่าต้องการสิ่งนั้น สิ่งนี้ ฟังดูดี แต่สุดท้ายเราโกหกเพราะเราทำเพื่อตัวเอง เราทำเพื่อสิ่งที่เราได้รับ”

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ มีสีหน้าดูซื่อๆ แต่มีนิสัยคดโกง, เสแสร้งเป็นทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็น หรือคนหน้าตาดูดี ดูซื่อๆ ไม่มีพิษ ไม่มีภัย แต่ภายในใจกลับตรงกันข้าม

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหน้าซื่อใจคด

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหน้าซื่อใจคด

  • ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจงเข้าใจเสียว่าคนหน้าซื่อใจคด รวมถึงตัวเราเองด้วย จงตระหนักข้อนี้ไว้เสมอในการใช้ชีวิต
  • บางครั้งเราก็ลืมตัวตนที่แท้จริงว่าเราเป็นผู้เชื่อในพระเยซูเราลืมว่าเราต้องรายงานทุกสิ่งต่อพระเจ้าเมื่อเราประพฤติเช่นนั้นเราก็ดำเนินชีวิตเหมือน ซึ่งเป็นการกระทำอย่างหน้าซื่อใจคด
  • ความหน้าซื่อใจคดเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดใจ เราเสแสร้งเพื่อให้คนอื่นชื่นชมเรา แต่ในใจเราไม่มีความสุขเลย คุณอยากมีชีวิตแบบนี้จริงหรือๆ?
  • สมชายเป็นเด็กวัดอยู่กับหลวงพ่อที่โดนชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แต่เขาเป็นคนหน้าซื่อใจคด แอบขโมยเงินวัดที่ประชาชนบริจาคมา แย่จริงๆ คนแบบนี้
  • สังคมทุกวันนี้คนหน้าซื่อใจคดมันเยอะ เวลาเลือกคบใครควรจะคบคนที่จริงใจ แม้จะมีไม่มาก แต่ก็ยังดีกว่าปวดสมองกับคนไม่ดี

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหน้าเนื้อใจเสือ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หน้าเนื้อใจเสือ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหน้าเนื้อใจเสือ

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงเนื้อเป็นสัตว์ป่า เช่น กวาง มีนิสัยเรียบง่าย ไม่ดุร้าย กินหญ้าเป็นอาหาร แต่เสือเป็นสัตว์สัญชาตญาณดุร้าย กินสัตว์ที่อ่อนแอกว่าเป็นอาหาร เราจึงนำมาหมายถึง คนที่มีจิตใจเมตตาปราณี และมีบุคลิกสงบเสงี่ยมว่าเนื้อ แต่ในทางตรงกันข้ามกับคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต และมีบุคลิกแข็งกร้าวกระโชกโฮกฮากว่าเสือนั่นเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ บุคคลที่มีหน้าตาแสดงความเมตตาปรานี แต่จิตใจเหี้ยมโหดคิดอาฆาตมาดร้ายตลอดเวลา

เปรียบเปรยถึงคนหน้าตาสงบเสงี่ยมสุขุมเยือกเย็นเปรียบประดุจดั่งเนื้อกวาง แต่จิตใจโหดเหี้ยมดุร้ายเปรียบประดุจดังเสือ

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหน้าเนื้อใจเสือ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหน้าเนื้อใจเสือ

  • พวกเจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ เป็นพวกหน้าเนื้อใจเสือ ชอบมาเสนอความช่วยเหลือดูใจดีมีเมตตา แต่จริงๆแล้วเหี้ยมโหดมาก หากใครกู้เงินไปแล้วไม่เอามาใช้คืน ระวังอัตรายจะมาถึงตัว
  • สังคมทุกวันนี้คนประเภทหน้าเนื้อใจเสือมีมาก หาความจริงใจไม่ค่อยได้ ไม่เหมือนสมัยโบราณที่มีแต่ช่วยเหลือซึ่งกัน และกันด้วยความจริงใจ
  • ถ้าเปรียบคนหน้าเนื้อใจเสือกับคนที่มีรูปชั่วตัวดำแต่น้ำใจดีหรือคนปากร้ายแต่ใจดีแล้ว คนหน้าเนื้อใจเสือนั้นไม่น่าไว้ใจและน่ากลัวที่สุด ส่วนคนที่มีรูปชั่วตัวดำแต่น้ำใจดีหรือคนปากร้ายแต่ใจดีเป็นคนที่ไว้ใจได้หรือน่าเคารพกว่า เพราะไม่ทำตนให้มีเวรมีภัยกับใครๆ เลย…
  • สหกรณ์ต้องเรียนรู้ และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างน้อยๆ ก็ควรสื่อถึงกันว่าสถาบันการเงินไหนมีพฤติกรรมอย่างไร และ ร่วมมือกันดำเนินมาตรการบางอย่างต่อสถาบันการเงินที่มีพฤติกรรมแบบหน้าเนื้อใจเสือ ยิ่งกว่านั้นเพื่อให้ขบวนการสหกรณ์มีที่พึ่งพิงทางการเงินที่มั่นคง ควรอย่างยิ่งที่คนในขบวนการจะต้องหารือกันอย่างจริงจังเพื่อให้ได้แนวทางหรือรูปแบบในการบริหารจัดการการเงินของขบวนการสหกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
  • สมชายภายนอกเป็นคนดี ชอบทำบุญ บริจาคเงิน แต่เมื่อโดนจับ โดนแฉต่อว่าทำธุรกิจสีเทา แถมยังค้ามนุษย์อีก เงินที่ได้มาเอามาทำดีบังหน้า คนแบบนี้หน้าเนื้อใจเสือจริงๆ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube