สุภาษิตคำพังเพยเคาะกะลาให้หมาดีใจ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ค. เคาะกะลามาเกิด

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเคาะกะลาให้หมาดีใจ

ที่มาของสำนวน มาจากเวลาคนสมัยก่อนที่จะเรียกหมาให้มากินอาหาร ก็จะเคาะกะลาเป็นสัญญาณ หมาได้ยินเสียงเคาะกะลาก็รีบมา แต่กลับไม่ให้ข้าวมัน เรียกให้มันมาแล้วดีใจเก้อ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การหลอกให้มีความหวัง

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเคาะกะลาให้หมาดีใจ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเคาะกะลาให้หมาดีใจ

  • อย่าไปเชื่อคนคนนี้ วันๆ เอาแต่หลอกคนอื่นให้มีความหวังว่าจะรวยขึ้น ชีวิตดีขึ้น แต่แท้จริงแล้ว
  • เคาะกะลาให้หมาดีใจเพราะแปลว่าก่อนเอาข้าวให้หมากิน คนให้จะเคาะกะลาก่อนทุกครั้ง แล้วก็เอาข้าวให้หมา เมื่อเรียนรู้เรื่อยๆ ว่าเคาะกะลาแปลว่าได้กินข้าว ต่อไปแค่เจ้าของเคาะกะลา แม้ไม่เห็นข้าวหมาก็ดีใจแล้ว
  • รัฐบาลฯ ชุดนี้ หลอกให้เราดีใจ เหมือนโดนหลอกให้เรามีความหวัง สุดท้ายก็ทำไม่ได้อย่างที่พูดไว้ เคยบอกอะไรไว้กับประชาชน มันทำกันไม่ได้จริงๆ เคาะกะลาให้หมามันดีใจเล่นๆ จริงๆ
  • ระวังผู้หญิงคนนี้ให้ดี ชอบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผู้ชายมาจีบหลายคนหลอกเอาเงิน หลอกให้ความหวัง โดนกันมาหลายต่อหลายคนแล้ว
  • “เธอเคาะกะลาให้หมาดีใจ หรอกให้ครั่งไคร้ หรอกให้รักเธอมานาน แกล้งทำว่าเธอรักกัน เหมือนเธอนั้นไม่ใช่ซาตาน แท้จริงเธอคือนางมาร ในคราบนางฟ้า” เพลง เคาะกะลา – นายแดง

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเคาะกะลามาเกิด ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ค. เคาะกะลามาเกิด

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเคาะกะลามาเกิด

ที่มาของสำนวน มาจากคนไทยในสมัยก่อน โดยเวลาเลี้ยงหมา จะใช้กะลาใส่อาหารให้กิน เวลาจะเรียกหมาให้มากินอาหาร ก็จะเคาะกะลาเป็นสัญญาณ หมาได้ยินเสียงเคาะกะลาก็รีบมา

ความเชื่อที่มีมาตั้งแต่อดีต เชื่อกันว่าสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่จะมาเกิดในท้องนั้นคอยหาโอกาส ที่จะมาเข้าท้องอยู่ทั่วไป พอสบโอกาส ก็จะรีบตะลีตะลานเข้าท้องทันที อย่างดาวร่วงที่เรียกว่า ดาวจุติ โบราณเขาห้ามไม่ให้ทัก ใครเห็นไปทักเข้า เขาว่าจะไปเข้าท้องหมา

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่มีนิสัยสันดานชั่วช้า เลวทราม

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเคาะกะลามาเกิด

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเคาะกะลามาเกิด

  • วิธีแก้ปัญหาเวลาเจอคนเคาะกะลามาเกิด คืออยู่ให้ห่างที่สุด ไม่ผูกมิตร ไม่ต้องอยากรู้จัก แบบนี้เราจะเก็บพลังงานชีวิตของเราได้เยอะมาก ไม่ต้องหัวเสียกับคนพวกนี้
  • สันดานโจรแก้ไม่หาย ต้องจับขังลืม พวกเคาะกะลามาเกิด พวกนี้ต้องอยู่ในที่ที่มีการควบคุม เพราะมีแต่จะสร้างปัญหาให้แก่สังคม
  • เด็กแถวบ้านมีนิสัยเกเรทาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นก็ไม่ตั้งใจเรียนและยังเป็นอันธพาล หาเรื่องคนโน้นคนนี้ไปทั่ว มีชาวบ้านที่เดือดร้อนหลายคน มาบ่นกับคุณป้าสายหยุดว่า เด็กคนนี้เคาะกะลามาเกิดจริงๆ
  • เลือกคบเพื่อนต้องเลือกให้ดีนะลูก บางคนมันเป็นพวกเคาะกะลามาเกิด หวังแต่ประโยชน์จากคนอื่น พอได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็ไม่เห็นค่าของเรา คนแบบนี้มีเยอะ
  • “แต่บุราณเคาะกะลาเรียกหมารู้ ว่าข้าวอยู่ยังกะลานำมาให้ หรือถึงคราจะจุติชาติต่อไป ก็เคาะเรียกรู้ได้ไม่ช้าที จึงเปรียบเหมาะเคาะกะลาว่าละม้าย ดุจผู้คล้ายชิงหมามาเกิดนี่ นิสัยทรามต่ำช้าบรรดามี ทุกถิ่นที่เขาแช่ง… และชิงชัง ฯ” กลอนเคาะกะลามาเกิด

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยคลื่นใต้น้ำ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ค. คลื่นใต้น้ำ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยคลื่นใต้น้ำ

ที่มาของสำนวน มาจากคลื่นในมหาสมุทร โดยปกติคลื่นในมหาสมุทรจะมีความยาวช่วงคลื่นที่สม่ำเสมอมองเห็นได้ไม่ยากนัก แต่คลื่นใต้น้ำเป็นคลื่นที่ไม่สามารถมองเห็นได้ แต่เมื่อเคลื่อนที่มาใกล้ถึงฝั่งเนื่องจากพื้นที่ตื้นมากขึ้น จึงจะเกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่ขึ้น

คลื่นในมหาสมุทรที่มีช่วงคลื่นยาวสม่ำเสมอและยอดเรียบ เคลื่อนตัวมาจากแหล่งกำเนิดที่อยู่ไกลมาก คลื่นใต้น้ำเป็นคลื่นที่มองเห็นไม่ชัดเมื่ออยู่ในทะเลลึก แต่เมื่อเคลื่อนที่ถึงฝั่งจึงเป็นคลื่นขนาดใหญ่ ชาวเรือถือว่าเป็นสัญญาณบอกเหตุจะเกิดพายุ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การเคลื่อนไหวหรือกระทำการอย่างเงียบๆ เพื่อรอดำเนินการทำอะไรบางอย่าง ซึ่งดูภายนอกเหมือนไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ สำนวนนี้ใช้ในทางการเมืองอยู่บ่อยๆ

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยคลื่นใต้น้ำ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตคลื่นใต้น้ำ

  • ท่ามกลาง “คลื่นใต้น้ำ” ปั่นป่วนกระบวนการทางความคิดให้ต้อง “ปรับทัศนคติ” ผู้ใต้บังคับบัญชาพา “นาวา” นอกเครื่องแบบเดินหน้าได้อย่างลงตัว
  • บริษัทน้องใหม่ที่ก้าวกระโดดจากบริษัทเล็กๆ มาเป็นบริษัทที่ค้าขายข้ามชาติได้อย่างรวดเร็ว แม้จะดูภายนอกว่าทุกฝ่ายทำงานประสานกันเป็นอย่างดี แต่คนในบริษัทรู้ดีว่า บรรดาหุ้นส่วนต่างมีปัญหาข้อขัดแย้งกันรุนแรงอยู่ภายใน
  • กองทัพบกซึ่งเป็นคลื่นใต้น้ำ อาจจะตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งมิอาจจะคาดเดาได้ มันช่างน่าเป็นห่วงกับสถานการณ์จริงๆ
  • “คลื่นเอ๋ยคลื่นใต้น้ำ อยู่ลึกล้ำซ่อนเร้นเกินเห็นได้ ซัดกระแทกแทรกเลาะเซาะภายใน นับเป็นภัยร้ายมาก… ยากระวัง เหมือนเรื่องในองค์กรร้อนระอุ วันประทุมิอาจจะคาดหยั่ง แต่ภายนอกดูว่าสงบจัง ภายในพังเมื่อไหร่… ไม่รู้เอย”
  • คลื่นใต้น้ำซัดเรือ 2 พี่น้องล่ม พี่ชายหมดแรงจมน้ำ น้องชายฮึดว่ายน้ำลากพี่เข้าฝั่ง

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ค. คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงผืนหนังของสัตว์ทั่วไป ย่อมจะมีผืนเล็กกว่าผืนเสื่อเสมอ โดยปกติแล้วผืนหนังสัตว์หายากและทำยากกว่าเพราะหนังสัตว์ที่ขนาดจำกัดเพราะมาจากธรรมชาติของขนาดสัตว์นั้นๆ และผืนเสื่อสามารถสานเองจึงสามารถกำหนดขนาดได้ตามต้องการ จึงเปรียบว่าโดยปกติแล้วคนรักเรามักน้อยกว่าคนที่เกลียดเรา เพราะมันเป็นธรรมชาติของสังคมมนุษย์

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนรักมีน้อย คนชังมีมาก โดยปกติแล้วคนที่จะรักเราชอบเรานั้นมีน้อยกว่าคนที่ไม่ชอบเรา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ

  • เธออย่าไปวิตกกังวลกับคำกล่าวหาเหล่านั้นเลย คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ มีคนรักก็มักจะมีคนอิจฉา คอยจ้องทำลาย
  • การอยู่ในตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูง ย่อมจะมี คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ เพราะคนส่วนใหญ่มีความอิจฉาที่คนอื่นได้ดี กว่า แม้จะเป็นคนดี มีประโยชน์อย่างไร ก็ตาม ซึ่งจะเห็นความจริงข้อดีได้อย่างชัดเจนเมื่อมีเหตุให้ต้องตกต่ำ หมดวาสนา
  • แม่บอกฉันว่าจะทำอะไรก็ต้องระมัดระวังตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกริยาวาจาเพราะสังคมปัจจุบันหาคนที่รักจริงใจต่อกันยากหนักหนา แม้บางครั้งเป็นเพื่อนกันมานานก็อาจจะเกลียดเราอยูในใจก็ได้ ให้ถือสำนวนสุภาษิตที่ว่าคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ
  • คนที่เป็นที่สนใจ มีชื่อเสียง มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด อย่างที่เขาว่าคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ เป็นธรรมดาของมนุษย์
  • ฉันเป็นคนที่เชื่อใจคนยาก เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา และรู้ว่าคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ ฉะนั้นเวลาฉันจะทำอะไรแต่ละครั้งก็จะระมัดระวังเป็นพิเศษ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยไก่ดีตีหล้าๆ ไก่ขี้ข้าตีเอาๆ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ก. ไก่ดีตีหล้าๆ ไก่ขี้ข้าตีเอาๆ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยไก่ดีตีหล้าๆ ไก่ขี้ข้าตีเอาๆ

ที่มาของสำนวน มาจากการชนไก่ โดยไก่ดีตีหล้าๆ คือไก่ที่ไม่ตีคู่ต่อสู้แบบมั่วๆ ไปเรื่อยๆ แต่ไก่ดีนั้นจะตีคู่ต่อสู้ในจุดตาย หรือจุดสำคัญที่จะทำให้คู่ต่อสู้เจ็บหนักและพ่ายแพ้ไปในที่สุด ส่วนไก่ขี้ข้าตีเอาๆ ก็คือไก่ที่เอาแต่ตีคู่ต่อสู้แบบมั่วๆ สะเปะสะปะ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ คนฉลาดย่อมมีความสุขุมรอบคอบ ไม่แสดงท่าทีออกมาให้ผู้อื่นเห็น ในทันทีทันใด ส่วนคนโง่มักชอบแสดงอะไรออกมาโดยไม่คิดและทํา ให้คนอื่นพลอยไม่ชอบไปด้วย

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยไก่ดีตีหล้าๆ ไก่ขี้ข้าตีเอาๆ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตไก่ดีตีหล้าๆ ไก่ขี้ข้าตีเอาๆ

  • จะลงทุนในตลาดหุ้นตรงรู้จักหวะใจเย็นๆ ไม่ใช่จะใส่ทุกจุด เหมือนดั่งไก่ดีตีหล้าๆ ไก่ขี้ข้าตีเอาๆ จังหวะดีกดให้สุด จังหวะไม่ดีอย่ามั่ว เพราะเดี๋ยวเงินจะหายหมดแน่นอน
  • นักมวยขวัญใจชาวไทยขึ้นชกกับคู่ต่อสู้ชาวกุนขแมร์ นักมวยไทยใช้ลีลาและชั้นเชิงในการชกเก็บคะแนน ผิดกับคู่ต่อสู้ที่มุ่งบุกชกอย่างเดียวแต่ทำแต้มไม่ได้ จนในที่สุดกรรมการก็ตัดสินให้สมจิตรชนะ ได้รับเหรียญทองในการการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค เข้าสำนวนไก่ดีตีหล้าๆ ไก่ขี้ข้าตีเอาๆ
  • “อันไก่เก่งเพ่งตีที่จุดดับ ย่างขยับมาดมั่นมิหันเห ไก่กระจอกออกท่าว่าโงเง ทั้งบุ่มบ่ามโผเผเอาหัวซุน คนฉลาดมาดดีที่สมอง รู้ดำริตริตรองหมดข้องขุ่น กระทำกิจคิดพิเคราะห์ด้วยเหมาะดุล ไม่หัวหมุนเหมือนไก่… ไร้ฝีมือฯ”
  • ไก่ผมเป็นไก่ดีตีหล้าๆ เพราะการเลี้ยงดู การเลือก ไม่ใช่เลือกมั่วๆ อย่างกับไก่ขี้ข้าตีเอาๆ การชนไก่ต้องใช้สมองและประสบการณ์ด้วย
  • ไก่ดีตีหล้าๆ ไก่ขี้ข้าตีเอาๆ เปรียบดั่งคนฉลาดจะรู้จักพินิจพิจารณาก่อนที่จะทำอะไรลงไป ผิดกับคนโง่ที่มุ่งแต่จะทำโดยไม่พินิจพิจารณาให้ดีเสียก่อน

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ก. ใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก

ที่มาของสำนวน เปรียบถึงคนที่เป็นชาวประมงหรืออยู่ใกล้ชิดกับน้ำย่อมมีความรู้เกี่ยวกับปลา เกี่ยวกับสัตว์น้ำ หาปลาได้เก่ง ส่วนนายพรานก็เช่นกัน หากินอยู่ในป่าย่อมมีความรู้เกี่ยวกับนกเกี่ยวกับสัตว์ป่า ล่านก ล่าสัตว์ได้เก่ง จึงเปรียบกับคนที่อยู่ใกล้สิ่งไหนก็ต้องย่อมรู้สิ่งนั้นเป็นอย่างดี

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ คนเราต้องอยู้ใกล้ชิดกันถึงจะรู้จักนิสัยใจคอกัน

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก

  • ใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก อยู่ที่ไหนรู้จักปรับตัวเสมอ เหมือนดั่งนิสัยคนต้องดูให้จริต นิสัยใจคอว่าเข้ากันได้ไหม
  • กว่าคนเราจะรู้นิสัยใจคอกันต้องอยู่ใกล้กัน เหมือนดั่งใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก การจะรู้ใจคอจริงๆ ต้องรู้จักกันระดับหนึ่ง
  • คู่รักคู่นั้นเขาอยู่ด้วยกันมานานเกินสิบปี ย่อมรู้ใจกันดี ทำอะไรเข้าขากันดีมาก นี่แหละใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นกจริงๆ
  • เขาจะแวะซื้อข้าวขาหมูไปฝากเมียทุกครั้ง เพราะเขารู้ว่าเธอชอบรับประทานข้าวขาหมูเจ้านี้ เช่นเดียวกับเมียที่เตรียมน้ำเก๊กฮวยมีฟองให้เขาทุกครั้งหลังเลิกจากงาน แบบนี้รู้จักกันดีดั่งใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก
  • ก่อนจะแต่งงานกันต้องรู้นิสัยใจคอกันดี ดั่งใกล้น้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก เพราะมันเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตเหมือนกัน เพราะอาจตัดสินว่าชีวิตจะดีขึ้นหรือแย่ลงได้เลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยฟ้าสางเดือนดับ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ฟ. ฟ้าสางเดือนดับ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยฟ้าสางเดือนดับ

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงเมื่อฟ้าเริ่มสาง(ท้องฟ้าตอนใกล้รุ่งเช้า) แสงเดือน แสงดาว ย่อมดับ และหายไป และมีดวงอาทิตย์ที่สว่างจ้าขึ้นมาแทน จึงเปรียบกับเดือนดาวเหมือนคนที่หมดรัศมี และเปรียบดวงอาทิตย์เป็นคนที่รัศมีดีกว่ามาแทน

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่หมดรัศมี หมดอำนาจบารมี เพราะมีผู้ที่มีอำนาจหนือกว่าหรือมีราศรีมากกว่าขึ้นมาแทนที่

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยฟ้าสางเดือนดับ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตฟ้าสางเดือนดับ

  • ตอนนี้ผมก็อยู่ในสถานะที่เรียกว่าฟ้าสางเดือนดับ เพราะมีนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงเกิดขึ้นมากมาย กล้าเสี่ยง กล้าลงทุน คนรุ่นเก่าอย่างผมก็คงต้องวางมือ
  • เมื่อมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงกว่ามาแทนที่คนรุ่นเราก็ถูกบังรัศมีไปโดยปริยาย เหมือนที่เขาว่าฟ้าสางเดือนดับ มันเป็นธรรมชาติของชีวิตตามแต่ละเจน
  • ปัจจุบันมีดาราหน้าใหม่สะสวยเกิดขึ้นมากมาย ก็ทำให้ดารารุ่นเก่าๆ อย่างพวกเราถูกบดบังรัศมีเหมือนฟ้าสางเดือนดับ
  • พอถึงฤดูโยกย้ายทีไรเราจะเห็นผู้บังคับบัญชาหลายคนอยู่ในสภาพฟ้าสางเดือนดับเพราะคำสั่งโยกย้ายเสมอ
  • ทุกชีวิตขึ้นได้ย่อมลงได้ มันเป็นธรรมชาติของชีวิต ฟ้าสางเดือนดับก็ต้องเกิดขึ้นกับทุกคน เพราะฉะนั้นจงใช้ชีวิตให้อยู่ทางสายกลางจะดีที่สุด ไม่ต้องคาดหวังสิ่งใดมาก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ค. คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงคนที่อยู่ในเหตุการณ์ สถานการณ์นั้นๆ อยากออก แต่อีกคนกลับอยากเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ สถานการณ์นั้นๆ เอง เช่น การทำงาน ชีวิตคู่ ฯลฯ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่มีความเห็นสวนทางกัน คนที่ไม่เคยเห็นไม่เคยเจอก็อยากเห็นอยากเจอ ส่วนคนที่เคยเห็นแล้วเคยเจอแล้ว รู้แล้วก็ไม่อยากอยู่ในสภาพนั้น

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า

 

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า

  • ยุคสมัยนี้ข้าราชการบ้านเราคนในอยากออก คนนอกอยากเข้าจริงๆ บางคนชอบความท้าทายอะไรใหม่ๆ คงไม่เหมาะกับราชการ แต่บางคนชอบความเดิมๆ เรื่อยๆ ก็เหมาะกับงานนี้ จงเลือกงานให้ดี
  • คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า เป็นคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อยๆ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ที่ทำงานใหม่นั้นจะดีอย่างที่วาดฝันไว้หรือไม่! อย่างเหตุการณ์หนีเสือปะจระเข้กับบริษัทเก่าที่เราพยายามแทบตายให้ หลุดพ้น ออกมาให้ได้ กลับกลายเป็นที่ๆ ดีซะกว่าบริษัทใหม่ที่เพิ่งเริ่มงานไปซะอีก ถึงตอนนั้นจะกลับมาเห็นคุณค่าบริษัทเดิม ก็สายไปแล้ว
  • เป็นเรื่องถกเถียงกันมานานแล้วว่ามีชีวิตคู่กับอยู่เป็นโสดอย่างไหนดีกว่ากัน คนมีครอบครับแล้วก็ยากจเป็นโสดอยากจะมีอิสระ ไม่ต้องมีภาระอะไร ส่วนคนโสดก็อยากจะมีครอบครัว มีลูก อย่างที่เขาว่าคนในอยากออกคนนอกอยากเข้าจริงๆ
  • คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า! 6 ความทุกข์ของคนโสดที่ไม่ทันได้นึกถึง! 1. เหงา 2. ไม่มีคนคอยดูแลในวันที่อ่อนแอ 3. อยู่ๆ ก็กลายเป็นคนขี้อิจฉา 4. มักจะเป็นส่วนเกินของคนมีคู่เสมอ 5. รู้ตัวอีกที ตัวเลือกที่มีก็น้อยเหลือเกิน 6. มักโดนถามคำถามสุดช้ำใจ
  • ขณะที่คนไกลอยากกลับบ้าน ด้วยเหตุผลว่า อยู่หนใดก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา คนในประเทศเอง กลับรวมตัวกันในโซเชียลมีเดีย จนมีสมาชิกกลุ่มเป็นล้านที่เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยมีวัตุประสงค์เดียวกัน คือ ‘การย้ายประเทศ’ จากสถานการณ์นี้ หากมองเผินๆ ย่อมเข้าตำรา “คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า”

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยสิบคนเข้าไม่เท่าหนึ่งคนออก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ส. สิบคนเข้าไม่เท่าหนึ่งคนออก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยสิบคนเข้าไม่เท่าหนึ่งคนออก

ที่มาของสำนวน มาจากคนรับใช้ในสมัยก่อน หากคนรับใช้ซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่ที่อยู่รับใช้มานานได้ออกไป แม้ว่าจะได้รับคนรับใช้ใหม่เข้ามาหลายคน ก็ยังไม่รู้ใจและรู้งานเท่ากับคนเก่าที่ออกไป

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่มาทำงานใหม่ที่ยังด้อยประสบการณ์ ถึงแม้ว่าจะรับเข้ามาทำงานหลายคน แต่ก็ยังมีความสามารถเทียบเท่าคนเก่าเพียงคนเดียวที่ลาออกไปไม่ได้

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยสิบคนเข้าไม่เท่าหนึ่งคนออก

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตสิบคนเข้าไม่เท่าหนึ่งคนออก

  • “สิบคนเข้าไม่เท่าหนึ่งคนออก สิบวาจาไม่เท่าหนึ่งการกระทำ”
  • พนักงานที่อยู่ในบริษัทนี้มานาน เข้าใจระบบการทำงานและรู้ใจผู้จัดการเป็นอย่างดี เมื่อคนเก่าได้ลาออกไป แม้ว่าจะหาคนใหม่มาแล้วก็ตาม แต่ผู้จัดการก็ยังรู้สึกว่าการทำงานล่าช้า ไม่คล่องตัวเหมือนแต่ก่อน สิบคนเข้าไม่เท่าคนหนึ่งออกจริงๆ
  • กว่าจะสอนงานให้พนักงานใหม่ ก็ต้องดูประสบการณ์อีกว่าทำไหวหรือเปล่า ผิดกับคนเก่ารู้ระบบดีทุกอย่าง อย่างที่เขาว่าจริงๆ สิบคนเข้าไม่เท่า
  • สิบคนเข้าไม่เท่าหนึ่งคนออก ไม่ว่าคนใหม่จะเก่งแค่ไหน ถ้ายังทำงานไม่เป็น ไม่รู้จักสถานที่ดีก็ไม่สามารถแทนคนเก่าได้ เพราะประสบการณ์
  • วิชิตเขาอยู่กับหัวหน้าคนนี้มานาน เป็นที่ไว้ใจของหัวหน้าให้ทำงานแทนหลายๆ ส่วน แต่หัวหน้าต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น ลูกน้องคนใหม่ก็ไม่สามารถแทนวิชิตได้เลย นี่แหละสิบคนเข้าไม่เท่าหนึ่งคนออก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยหน้าชื่นอกตรม ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หน้าชื่นอกตรม

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยหน้าชื่นอกตรม

ที่มาของสำนวน เปรียบถึงอากัปกิริยาภายนอกดูสดใส ร่าเริง ชื่นมื่น ดูแล้วไม่น่าจะทุกข์อะไร แต่จริงๆ ภายในใจ ภายในอก กลับมีทุกเข็ญ ไม่สบายอกสบายใจเลย

สำนวนที่คล้ายกัน หวานนอกขมใน

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ที่ทำเป็นร่าเริงแต่ในใจมีทุกข์ หน้าชื่นอกตรม ก็ว่า กล่าวคือ คนที่แสร้งทำทีเป็นร่าเริงมีความสุข ทั้งที่ในใจเป็นทุกข์

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหน้าชื่นอกตรม

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหน้าชื่นอกตรม

  • แพมกำลังอยู่ในภาวะหน้าชื่นอกตรม สุดระทมเพราะรักร้าว ต้องมาเลิกกันก่อนวันแต่งงาน
  • ดาราสาวต้องทำเป็นหน้าชื่นอกตรม เพราะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมารักษาอาการป่วยของคุณพ่อ
  • คนทุกคนต้องพบอุปสรรคในชีวิต ไม่มีชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ว่าจะรวยหรือจน ทุกคนเกิดมาต้องชดใช้กรรม หน้าชื่นอกตรมมีถมไป จงอย่าน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง
  • เธอเป็นภรรยานายตำรวจใหญ่ที่มีชื่อเสียง ต้องแสดงภาพว่าชีวิตคู่มีความสุขดี แต่จริงๆแล้วเธอคงหน้าชื่นอกตรมเพราะมีข่าวเล็ดลอดมาว่านายตำรวจใหญ่คนนี้มีภรรยาน้อย
  • แม่เพิ่งเสียพ่อไปได้เดือนกว่า จากการไปรบ วันๆ ได้แต่เก็บอาการหน้าชื่นแต่อกตรม แอบสังเกตุอยู่บ่อยๆ ว่าแกร้องไห้ แกเลี้ยงลูกชายคนเดียว

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube