สุภาษิตคำพังเพยง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ง. ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงกล้วยเป็นผลไม้ที่ปอกง่ายกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ จึงถูกนำมาเปรียบเปรยว่า ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ง่าย สะดวก การกระทำอะไรที่ง่ายมากๆ เปรียบกับการปอกกล้วยเข้าปาก

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

ตัวอย่างการใช้สุภาษิต

  • ในปัจจุบัน คนที่ไม่เคยทำอาหารหรือทำอาหารไม่เก่ง ก็สามารถทำอาหารอร่อยๆได้ง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะเดี๋ยวนี้มีเครื่องปรุงอาหารสำเร็จรูปมากมายให้เลือกใช้
  • เดี๋ยวนี้ต่อให้คนไม่เคยทำอาหาร ก็สามารถทำอาหารได้ง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะมีเครื่องปรุงอาหารสำเร็จรูปขายกันมากขึ้น
  • สอบกลางภาคเทอมนี้ ดาวเรืองเตรียมตัวอ่านหนังสือมาเป็นอย่างดี จึงทำข้อสอบเสร็จเร็ว สบายๆ ง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
  • ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ถ้าเราฝึกฝน หัดใช้บ่อยๆ พอคล่องเมื่อไหร่ก็จะง่ายเหมือนการปอกกล้วยเข้าปาก
  • ถ้ามีความรู้กับบางสิ่งมันจะทำให้เรามั่นใจ ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาทำแล้วเหมือนปอกกล้วยเข้าปากปาก นั่นแหละ แสดงว่าเราเชี่ยวชาญมันแล้ว

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยม้าดีดกะโหลก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ม. ม้าดีดกะโหลก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยม้าดีดกะโหลก

ที่มาของสำนวน มาจากคำว่าม้าดีดโขก ซึ่งเป็นอาการของม้าเวลามันพยศ มันจะดีดโขก โขยกหน้าโขยกหลัง คำว่าโขกและโขยก แผลงเป็นโขลกและกะโหลกตามลำดับ ทำให้เกิดเป็นสำนวนม้าดีดกะโหลก  ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยอาการของม้าเวลามันพยศกับกิริยาท่าทาของผู้หญิงที่ไม่เรียบร้อย กระโดดกระเดก

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ผู้หญิงทื่มีกิริยากระโดกกระเดก ไม่มีความเรียบร้อย ไม่สำรวม สำนวนนี้มักใช้ตำหนิผู้หญิง

คนโบราณท่านนิยมใช้เปรียบเทียบถึงผู้หญิง หรือเด็กสาว ที่มีกิริยามารยาทไม่ค่อยจะเรียบร้อยนัก ชอบทำอะไรเปิ่นๆ กระโกกระเดก ลุกรี้ลุกรน ซึ่งก็มักจะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเสียหน้าหรือโดนตำหนิจากผู้อาวุโสอื่นได้

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยม้าดีดกะโหลก

 

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตม้าดีดกระโหลก

  • ดาวเรืองเป็นเด็กบ้านนอกมาเรียนต่อในเมืองกรุง ตอนมาอยู่ใหม่ๆดาวเรืองเดินกระโดดกระเดก ไม่เรียบร้อย และชอบเดินชนกระถางต้นไม้ เพื่อนๆจึงตั้งฉายาให้เธอว่าม้าดีดกระโหลก
  • พรุ่งนี้เราจะไปเยี่ยมคุณย่ากันนะลูก หนูต้องทำตัวเรียบร้อยหน่อยนะ อย่าทำเป็นม้าดีดกระโหลก ไม่งั้นโดนคุณย่าดุเอาแน่
  • แม่กลุ้มใจจริงๆ ลูกสาวคนนี้ชอบทำตัวเป็นม้าดีดกระโหลก ทำอะไรลุกลนไม่มีความเป็นผู้หญิงเอาซะเลย แล้วแบบนี้จะมีผู้ชายคนไหนมาสู่ขอ
  • แกทำตัวเป็นม้าดีดกระโหลกแบบนี้ ใครจะเอาไปทำเมียวะ ฉันละเหนื่อยใจกับแกจริงๆ
  • เมื่อก่อนแม่ชอบว่าฉันบ่อยๆ ว่าทำตัวเป็นม้าดีดกระโหลกไม่เรียบร้อย แม่เลยส่งให้ไปอยู่โรงเรียนประจำฝึกความเป็นกุลสตรี จนตอนนี้ญาติๆ ต่างก็แปลกใจทำไมฉันถึงเปลี่ยนไปได้

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยมีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ม. มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยมีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท

ที่มาของสำนวน มาจากบทกลอนของสุนทรภู่ “มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาทอย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจงอย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน” ในบทกลอนนี้มาจาก “สุภาษิตสอนหญิง” ในสำนวนนี้พูดถึงเงินน้อยๆ เมื่อเก็บหอมรอมริบด้วยเงินน้อยๆ นี่แหละ จะทำให้เป็นเงินก่อนใหญ่ได้

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การรู้จักเก็บหอมรอมริบ ค่อยเก็บสะสมเงินที่ละเล็กทีละน้อย เผื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย

โบราณท่านใช้เพื่อสอนให้เรามีความมัธยัสถ์ รู้จักอดออม ค่อยๆ เก็บสะสมเงินทองไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็มีมากไปเอง ให้รู้จักเก็บเงินเก็บทองแบบค่อยเป็นค่อยไป

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยมีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตมีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท

  • สมัยเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่จะสอนเสมอว่า มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท ให้รู้จักเก็บออมที่ละเล็กทีละน้อย จนตอนนี้เรียนจบ ก็มีเงินเก็บเป็นหลักหมื่นแล้ว
  • การสร้างนิสัยการออมเงินเป็นเรื่องดี ยิ่งจะมีรายได้เพียงน้อยนิด ก็ต้องออม ต้องเก็บ เพราะหากมีปัญหาการเงินจะลำบาก มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท เก็บเล็ก เก็บน้อยไปเรื่อยๆ สักวันก็จะมีเงินมากขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
  • การรู้จักเก็บหอมรอมริบ ค่อยเก็บสะสมเงินที่ละเล็กทีละน้อย เผื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน แต่สำหรับยุคนี้ดูเหมือนว่า แม้การออมโดยหยอดเหรียญลงในกระปุกออมสินจะไม่ลำบาก แต่การจะนำเหรียญที่เก็บออมมาได้รวมกัน เพื่อฝากเงินเข้าบัญชีธนาคาร อาจกลายเป็นว่า ลำบากกว่าที่คิด
  • เจ้าศักดิ์มันเก่งวะ ซื้อรถใหม่โดยไม่เป็นหนี้เลย มันบอกฉันว่าเก็บเงินเรื่อยๆ มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท เดี๋ยวก็ครบ
  • สมชายศึกษาการลงทุนหุ้น และลงทุนในสิ่งที่ตัวเองเข้าใจเท่านั้น ต้นทุนเขาไม่สูง ค่อยๆ ออมหุ้นจากพอร์ตเล็กๆ สู่พอร์ตหลายร้อยล้านภายใน 10 กว่าปี นี่แหละมีสลึกถึงบรรจบให้ครบบาทในรูปแบบของหุ้น
  • อยากได้อะไรก็ค่อยๆ เก็บเงินเอานะลูก มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าไปเป็นหนี้โดยไม่จำเป็น

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยมาเหนือเมฆ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ม. มาเหนือเมฆ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยมาเหนือเมฆ

ที่มาของสำนวน โบราณแผนการรบทางอากาศในยุคแรกเริ่มของการบิน เทคโนโลยียุคนั้นยังไม่ก้าวหน้ามีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือ เรดาห์ล้ำสมัยตรวจคลื่นความถี่ ตรวจอุณหภูมิจับไอร้อน ได้เหมือนยุคนี้ การขับเครื่องบินรบต้องอาศัยทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของนักบินแทบจะล้วนๆ การ “บินเหนือเมฆ” ก็เป็นกลยุทธหนึ่งในการพรางตาบินโฉบแฝงตัวไปตามเมฆบุกเข้าไปในแนวของฝ่ายข้าศึกแล้วจึงโจมตี จึงมีความหมายในทำนองว่า อยู่ดีๆ ศัตรูมาจากไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ มีความคิดหรือชั้นเชิงเหนือผู้อื่นมาหรือปรากฏขึ้นโดยไม่คาดหมาย คาดไม่ถึง มักใช้เปรียบเปรยถึงคนนิ่งๆ ที่มีสติปัญญา ความคิดเฉียบแหลม

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยมาเหนือเมฆ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตมาเหนือเมฆ

  • โคราชมาเหนือเมฆเสนอจัดงาน“พืชสวนโลก 2029” เล็งโลเคชั่น 2,500 ไร่อำเภอคง ต่อยอดเนรมิตแลนด์มาร์คท่องเที่ยวใหม่
  • เห็นเขาเป็นคนนิ่งๆ เรื่อยๆ เฉื่อยๆ แต่พอถึงเวลาที่ต้องแสดงความสามารถเมื่อไหร่ เขาก็จะมาแบบเหนือเมฆ ทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คิดว่าเขาจะทำได้ สุดยอดจริงๆ
  • บริษัทใหม่มาเหนือเมฆ ขยายธุรกิจใหญ่ โดยไม่ต้องเพิ่มทุน รุกขยายธุรกิจเทคโนโลยีเต็มตัว ด้วยการสนับสนุนทั้งด้านนักลงทุนรายใหญ่ และรายย่อย
  • บริษัทเล็กๆ เดี๋ยวนี้มาเหนือเมฆ สามารถร่วมทุนบริษัทใหญ่ ถือหุ้น 50% ลุยธุรกิจกัญชง – กัญชาครบวงจร เพิ่มศักยภาพธุรกิจติดปีกสุดแกร่ง
  • โจรสมัยนี้มักจะมาเหนือเมฆ สรรหาวิธีการใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงมาได้ตลอด เราต้องคอยระวังตัวเองให้มากขึ้นเพื่อลดช่องโหว่งที่อาจเป็นโอกาสให้โจรได้

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยฝากปลาไว้กับแมว ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ฝ. ฝากปลาไว้กับแมว

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยฝากปลาไว้กับแมว

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงลักษณะนิสัยแมว โดยแมวมีนิสัยชอบกินปลาเป็นอาหารอยู่แล้ว ถ้าเรานำปลาไปฝากมันไว้ หรือให้มันเฝ้าดูแล ด้วยสัญชาตญาณของมัน มันคงต้องกินปลาเป็นอาหารแน่ๆ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การที่เราฝากสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้กับคนที่ชอบสิ่งนั้น ย่อมสูญหายได้ง่าย หรือถ้าเราไว้วางใจคนที่ไม่ควรไว้วางใจก็มีโอกาสที่จะผิดหวัง และมีโอกาสที่จะสูญเสียสิ่งของต่างๆ ได้

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยฝากปลาไว้กับแมว

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตฝากปลาไว้กับแมว

  • เอาเงินไปให้คนอื่นลงทุน ก็เหมือนฝากปลาไว้กับแมว เอาเงินเราไปทำอะไรจริงก็ไม่รู้ แล้วมาบอกได้ผลตอบแทนเท่านั้นเท่านี้ อย่าโลภเลย ไม่งั้นหมดตัวแน่
  • เป็นอย่างไรหล่ะเธอไม่หน้าไว้ใจให้เขาเป็นคนดูแลเงินก้อนนี้เลย เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังมีปัญหาเรื่องการเงิน ฝากปลาไว้กับแมวแท้ๆ เชียว
  • ฝากเงินไว้กับคน ก็เหมือนฝากปลาไว้กับแมว ถ้าอยากจะฝากเงินไปฝากที่ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ธนาคาร
  • ฉันไม่น่าฝากปลาไว้กับแมวเลย อุส่าห์ไว้เนื้อเชื่อใจเห็นเขาทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันช่วยเหลือกัน สุดท้ายก็แย่งแฟนฉันไปจนได้
  • นี่คุณ! เอาเงินไปออมทองกับใครก็ไม่รู้ ไม่น่าเชื่อถือเลย เหมือนคุณเอาปลาฝากไว้กับแมว รีบไปเอาเงินคืนมา ก่อนที่จะทำให้ครอบครัวเราเดือดร้อน

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยทำนาบนหลังคน ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ท. ทำนาบนหลังคน

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยทำนาบนหลังคน

ที่มาของสำนวน ในสมัยก่อนอาชีพการทำนาเป็นอาชีพหลักของคนไทย จึงมักถูกใช้เป็นตัวอย่างเรื่องการทำมาหากิน ส่วนการทำนาบนหลังคนนั้น เปรียบเปรยถึงการทำมาหากินบนความเดือดร้อนของผู้อื่น(หลังคนอื่น)

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การหาประโยชน์จากผู้อื่นโดยใช้วิธีเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบและขาดความมีมนุษยธรรม

โบราณท่านเปรียบเอาไว้ถึงคนที่ชอบเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ฉกฉวย หรือขูดรีดผู้อื่น เพื่อประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยทำนาบนหลังคน

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตทำนาบนหลังคน

  • เมื่อไหร่พวกทำนาบนหลังคนจะหมดไป น่าเห็นใจคนหาเช้ากินค่ำต้องอยู่ในวังวนหนี้นอกระบบ หาเงินมาได้แต่ละวันก็ต้องเอาไปใช้หนี้ซะหมด เมื่อไหร่จะได้ลืมตาอ้าปาก
  • สมหมายเป็นเศรษฐีใหญ่ประจำหมู่บ้าน มีที่ดินมากมายหลายร้อยไร่สุดลูกหูลูกตา แต่ความร่ำรวยของเขาเกิดจากการทำนาบนหลังคน เพราะที่ดินดังกล่าวเขาได้มาจากการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงให้แก่ชาวบ้านที่ไม่รู้หนังสือ โดยหลอกให้ชาวบ้านเซ็นสัญญาต่างๆ แล้วให้เอาโฉลดมาค้ำประกัน
  • พวกปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยสูงเกินจริง ทำนาบนหลังคนชัดๆ ชาวบ้านตาดำๆ จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายดอกเบี้ยโหดขนาดนี้ให้พวกมัน
  • ช่วงที่บ้านเมืองเดือดร้อน มันมีพวกที่ขายของขาดแคลนในราคาที่สูงเกินเหตุโดยหวังกำไรเพิ่มขึ้น โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของผู้อื่น สร้างตัวเองด้วยการทำนาบนหลังคน คงจะภูมิใจในชีวิตสุดๆ(ประชด)
  • นักการเมืองบางคนสร้างตัวเองด้วยการทำนาบนหลังคน ตอนแรกหาเสียงพูดดิบพูดดี หลังจากประชาชนเลือกเข้าสภากลับหักหลังเสียงประชาชน เพื่อเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองอย่างเดียว

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ต. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ที่มาของสำนวน เป็นพุทธพจน์ที่มุ่งให้มนุษย์มีความเพียรในการทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง เชื่อมั่นในศักยภาพของการเป็นมนุษย์ที่สามารถลงมือทำได้ ดังเช่นพระพุทธองค์ที่ทรงเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ยังสามารถพัฒนาจนพ้นทุกข์ ล่วงรู้ธรรมมากมาย และทรงนำพาผู้อื่นให้พ้นทุกข์ได้ตามไปด้วย

สำนวนที่คล้ายกัน ชาติเสือจับเนื้อกินเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การจะทำการใดๆ พยายามทำด้วยตัวเองอย่างสุดความสามารถ และเพียรพยายาม ก่อนที่จะไปพึ่งพา ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพราะในบางสถานการณ์ผู้อื่นก็อาจจะไม่สามารถช่วยเหลือได้

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

  • ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เป็นหลักในครองชีวิตตนเอง ดูแลตนเองไม่ให้เป็นที่เดือดร้อนพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูง หรือผลที่สุดที่จะไปกระทบต่อตนเองเดือดร้อนนั่นเอง
  • ถ้าอยากชนะการประกวดเธอก็ต้องหมั่นฝึกซ้อม ฝึกฝน พยายามให้เต็มที่ เพราะตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่มีใครช่วยเธอได้นะ อยู่ที่ตัวของเธอเอง
  • พระพุทธดำรัสนี้ชี้ให้เห็นว่า ตนเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของตนได้ เฉกเช่นการรับประทานอาหาร เมื่อตนรับประทานเอง ก็ย่อมอิ่มเอง จะอิ่มแทนผู้อื่นไม่ได้ และผู้อื่นจะรับประทานแล้วอิ่มแทนเราก็ไม่ได้
  • การพยายามทำอะไรด้วยตนเองคนเดียว ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อาจจะมีความยากลำบาก โดยเฉพาะในเรื่องการทำธุรกิจ แต่ก็เป็น เรื่องจำเป็นและมีความสำคัญ เพราะเมื่อกิจการใหญ่โตขึ้น หากมีปัญหาต่งๆ เกิดขึ้น ก็จะสามารถแก้ไขได้ ความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ต้องให้โตแบบปิรมิด การได้ผ่านอุปสรรคต่างๆ จะทำให้แข็งแกร่งรู้วิธีรับมือ
  • ชีวิตจะสอนให้เราเติบโตด้วยความยากลำบากเสมอ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เพราะมีแต่ตัวเราเองทำให้ตัวเราดีขึ้นได้ โดยเริ่มจากความคิด และการลงมือทำอย่างจริงจัง

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ด. เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด

ที่มาของสำนวน สำนวนนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยมีใจนิยมยกย่องให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่ย่อมมีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวหรืออาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมรู้ และตระหนักดีว่าสิ่งใดควร และไม่ควร ถ้าเราเดินตามทางที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติย่อมประสบกับความสำเร็จอย่างสะดวกสบาย หรือการปฏิบัติตนตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ถึงแม้ว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นสิ่งที่ผิด ตัวเราเองก็ไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง (ผู้บังคับบัญชา หรือ เจ้านาย ต้องรับผิดชอบ) แต่ถ้าเราเดิน หรือคิดนอกกรอบท่าน ถ้าโชคดีก็อาจจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าโชคไม่ดีก็อาจจะพลาดพลั้งผิดหวังได้ แต่ถ้าเราเดินตามท่านจะประสบความสำเร็จอย่างเดียว ถ้าเราเป็นคนกล้าได้กล้าเสียก็ลองเสี่ยงดู การคิดนอกกรอบอาจจะประสบผลสำเร็จอย่างสูงสุดก็ได้

สรุปความหมายของสำนวนนี้คือ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การประพฤติตามอย่างผู้ใหญ่ย่อมสะดวก ปลอดภัย กล่าวคือไม่ว่าจะทำสิ่งใดถ้าทำตามแบบอย่างที่ผู้ใหญ่ได้เคยทำไว้ จะทำได้อย่างสะดวก ถูกต้อง จะไม่มีอุปสรรคใดๆ เลย

โบราณท่านนิยมใช้เปรียบเทียบให้เห็นว่าการเชื่อฟังผู้ใหญ่ ผู้ที่อาวุโสกว่า รวมถึงการประพฤติปฏิบัติตนตามแบบอย่างที่ดีงามของท่านเหล่านั้น ย่อมนำความปลอดภัยและความเจริญมาสู่ตน เนื่องจากผู้อาวุโสเหล่านั้นมีประสบการณ์ ผ่านอะไรมามาก ย่อมรู้ดีว่าทำอย่างไรดี อย่างไรไม่ดี

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด

  • แม่ชอบพูดเสมอๆ ว่าเดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด ปลูกฝังว่ารับราชการแล้วดี มีอนาคตมีหน้ามีตา ญาติพี่น้องแต่ละคนที่รับราชการก็เป็นใหญ่เป็นโตกันทั้งนั้น
  • คุณเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ จงดูแบบอย่างรุ่นพี่ๆ ว่าเขาทำอย่างไรกัน แล้วก็ทำตามอย่างพวกเขา จงยึดถือสุภาษิตที่ว่าเดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัดไว้ก่อน
  • พ่อแม่สอนลูกหลานเกี่ยวกับหลักการทำงาน หรือการประพฤติปฏิบัติตน ให้ เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด ทำตามผู้ใหญ่ วิธีคิดของคนรุ่นเก่า ก็จะมีความปลอดภัย มีโอกาสประสบความสำเร็จ มากกว่า การคิดเอง หรือทำอะไรโดยขาดความระมัดระวัง
  • เธอจะทำอะไรก็ควรดูแบบย่างคนรุ่นก่อนๆ เขาเคยปฏิบัติมาคนโบราณท่านยังกล่าวว่า เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
  • เวลาผู้หลักผู้ใหญ่เตือนอะไรก็ฟังไว้บ้าง ท่านเคยอาบน้ำร้อนมาก่อน อะไรที่เสี่ยงๆ ท่านต้องเตือนเป็นธรรมดา อย่างโบราณเขาว่าเดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด แถมยังฝึกให้ตัวเรานั้นรอบคอบก่อนจะทำอะไรมากขึ้นต่างหาก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเด็ดบัวไม่ไว้ใย ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ด. เด็ดบัวไม่ไว้ใย

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเด็ดบัวไม่ไว้ใย

ที่มาของสำนวน มีที่มาจากบัวซึ่งเป็นพืชน้ำชนิดหนึ่ง มีเหง้ายาวอยู่ในโคลนตม ดอกและใบอยู่เสมอน้ำ หรือชูขึ้นพ้นน้ำ ก้านบัวมีใย ซึ่งเมื่อหักจะมีใยยืดออกมาบางๆ โยงก้านบัวไม่ให้ขาดจากกันอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหักและดึงอย่างแรง ใยก็จะขาด จึงนำมาเปรียบกับคนที่เคยรู้จัก สนิทสนมหรือเป็นญาติพี่น้องกัน ถ้าผิดใจหรือโกรธกันอย่างเด็ดขาด ก็ยังควรมีเยื่อใย จึงใช้สำนวนนี้ในเชิงตัดพ้อว่า เด็ดบัวไม่ไว้ใย หรือใช้ว่า เด็ดดอกไม่ไว้ขั้ว เด็ดบัวไม่ไว้ใย

นอกจากนี้มีอีกสำนวนหนึ่งที่มีความหมายคล้ายกันว่า เด็ดปลีไม่มีใย ปลี ในที่นี้หมายถึงปลีของกล้วย ซึ่งมีใยเหมือนใยบัว

สรุปความหมายของสำนวนนี้คือ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การตัดขาดกัน ตัดญาติขาดมิตร ไม่มีเยื่อใยต่อกัน ไม่มีความสัมพันธ์ ไม่เกี่ยวข้องกันอีก นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปทั้งสองฝ่ายจะตัดขาดความสัมพันธ์กันอย่างสิ้นเชิง ไม่สนใจใยดี หรือไม่อินังขังขอบกันอีกต่อไป

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเด็ดบัวไม่ไว้ใย

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเด็ดบัวไม่ไว้ใย

  • เราคบกันมาเป็นสิบปี แต่เธอกลับใส่ร้ายป้ายสีโยนความผิดร้ายแรงมาให้กันแบบนี้ จะเด็ดบัวไม่ไว้ใยกันเลยใช่ไหม
  • เธอกับฉันคบกันมาตั้งนานมาผิดใจกันด้วยเรื่องเล็กน้อย จะเด็ดบัวไม่ไว้ใยเชียวหรือ ไว้ใจเย็นๆ ค่อยมาคุยกันอีกที
  • พอสิ้นบุญผู้ใหญ่ ญาติพี่น้องต่างก็แย่งชิงทรัพย์สมบัติมาเป็นของตน ทะเลาะกันจนถึงขั้นตัดบัวไม่ไว้ใยกันเลย
  • สมชายกับสมหมายเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พอโตขึ้นป้อมกับตู่ได้หลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน ทำให้ทั้งสองทะเลาะกัน และต้องตัดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันชนิดที่ว่า เด็ดบัวไม่ไว้ใย
  • หนุ่มๆ สาวๆ สมัยนี้เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย เรียกว่ายังตัดไม่ขาดยังเหลือเยื่อใยอยู่ ถ้ามันถึงที่สุดก็จงพิจารณาให้ดีๆ แล้วใจกล้าๆ ลองเด็ดดอกไม่ไว้ขั้ว เด็ดบัวไม้ไว้ใย ดูสักครั้งเถอะ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเฒ่าหัวงู ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ฒ. เฒ่าหัวงู

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเฒ่าหัวงู

ที่มาของสำนวน มาจากความเชื่อตั้งแต่ก่อนสมัยคริสตกาลมีความเชื่อว่าซาตานแปลงกายเป็นงูมาหลอกให้อีฟและอดัม กินแอปเปิ้ลแล้วทั้งคู่โดนขับจากสวรรค์ งูคือสิ่งที่เลวร้าย บางความเชื่อจากนักจิตวิทยาเปรียบได้ว่าสมองมนุษย์มีพฤติกรรมความชั่วร้ายแฝงอยู่ หนึ่งในความชั่วร้ายนั่นคือเรื่องกามารมณ์ งูโดนเปรียบกับอวัยวะเพศชาย ฉะนั้นชายที่มีความชั่วร้ายโดยเฉพาะเรื่องกามารมณ์ จะโดนเปรียบเป็นงู แต่ทั้งหมดคือความเชื่อจากฝั่งตะวันตก ส่วนคติความเชื่อจากคนไทยเชื่อว่า งูคือสัตว์ที่มีพิษร้ายผู้ใดที่มีความชั่วร้าย คนสมัยก่อนจะเปรียบเป็นงู จนกระทั่งเรียกคนที่มีจิตใจชั่ว คนทรยศหรือโจรว่าเป็นพวกอสรพิษ และผู้เฒ่าสมัยก่อนคนใดที่มีจิตใจสกปรก คิดเรื่องกามารมณ์กับเด็กสาวคราวลูก จิตใจมีราคะ แทนที่จะเข้าวัดเข้าวา เปรียบได้กับความคิดที่มาจากสมองที่เป็นงู จึงเรียกรวมว่าเฒ่าหัวงู สอดคล้องกับแนวคิดฝั่งตะวันตก

สำนวนที่คล้ายกัน เฒ่าชราในตาทารก, เสือเฒ่าจำศีล

สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนแก่ คนที่มีอายุมากๆ มีบุคลิกชอบเกี้ยวพาราสี มีเล่ห์เหลี่ยมหรือกลอุบายหลอก เด็กสาวคราวลูก ส่อไปในทางกามารมณ์

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเฒ่าหัวงู

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเฒ่าหัวงู

  • ตำรวจได้รวบจับเศษรฐีเฒ่าหัวงู ที่กำลังล่อลวงเด็กสาวในที่สาธารณะใจกลางกรุงเทพ
  • สมชายเป็นคนที่มีอายุแล้วแต่กลับชอบไปเที่ยวจีบคนที่อายุน้อยๆ เหมือนเฒ่าหัวงูเลย
  • เฒ่าหัวงูของจริงๆ มานะชายที่อายุมากแล้ว แทนที่จะเข้าวัดเข้าวา แต่กลับหมกมุ่นในกามารมณ์ ชอลล่อหลวงหญิงสาวมาทำมิดีมิร้ายอยู่เสมอ นับได้ว่าเป็นภัยสังคมอีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องระวัง
  • ผู้ชายอายุมากแล้ว บางคนก็แอบมีแฟนเด็ก หรือมีหญิงสาวคราวลูกหลานมาติดพัน ครั้นจะดุด่า นินทา ว่าเป็น เฒ่าหัวงู ก็คงจะไม่ยุติธรรม เพราะไม่ได้ตั้งใจ เด็กมาเอง บางนั้นมีเงิน จึงเป็นที่หมายปองของเพศตรงข้าม ทั้งสาวแก่ แม่ม่าย หรือหญิงสาวคราวลูกหลานก็ตามที เพราะคบแล้วสบายมีเงินใช้
  • ระวังคนแก่ประเภทเฒ่าหัวงูให้ดีๆ อย่าไปหลงคารมกับคนประเภทนี้ อยู่ให้ห่างที่สุด เพื่อตัวลูกเอง
  • เราอาจจะรวม “เฒ่าหัวงู” ไปถึงคนที่ชอบร่วมประเวณีกับเด็กไม่ว่าชายหรือหญิง หรือในที่ทำงาน อาจจะมีเฒ่าเกย์ที่ชอบลูกน้องผู้ชายแต่คำว่า “เฒ่าหัวงู” ก็ยังไม่สามารถนำมาใช้กับ เจ้านายหญิงที่ใช้อำนาจในการลวมลามทางเพศกับลูกน้องผู้ชายหรือผู้หญิงด้วยกันได้

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube