สุภาษิตคำพังเพยหมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด

ความหมายของสุภาษิตหมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงการหามหมู การที่คนสองคนใช้บ่าแบกหามหมู ก็อย่าเอาคานไม้เข้าไปช่วยสอด แทนที่จะช่วยให้งานสำเร็จเร็วขึ้น กลับทำให้การหามหมูต้องลำบากกว่าเดิมนั่นเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การเข้าไปขัดขวางแทรกแซง ผลประโยชน์หรือขัดขวางการกระทำใดๆ ที่คนอื่นเขาทำอยู่ แล้วจวนใกล้จะประสบความสำเร็จอยู่แล้ว

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด

  • วิเชียรเป็นช่างทำเก้าอี้ ซึ่งรับงานมาจากลูกค้าและทำใกล้จะเสร็จแล้ว อยู่ๆวิชิตเพื่อนของเขาก็เดินเข้ามาบอกให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้ วิเชียรเลยตำหนิไปว่าหมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด
  • เห็นชาวต่างชาติกำลังถูกแม่ค้าหลอก เลยแสดงตัวทักท้วงแม่ค้าว่าขายสินค้าราคาเกินจริง แต่กลับถูกแม่ค้าตอกกลับมาว่าหมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด
  • กานดาบอกให้หัวหน้ายกงานที่วิภาทำให้เธอทำต่อ วิภาจึงบอกกานดาว่า หมูเขาจะหามอย่าเอาคานเข้าไปสอด อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว จะยกมาเพื่อ!?
  • งานที่เขาทำกันจวนจะเสร็จอยู่แล้วไม่ต้องไปช่วยเขาหรอก มันจะเข้าตำราหมูเขาจะหาม เอาคานเข้าไปสอด
  • รัฐบาลร้องให้ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งกำลังดำเนินการไปได้ด้วยดี และไม่อยากจะให้ฝ่ายใดเข้ามาขัดขวาง เหมือนคำพังเพยที่กล่าวว่า “หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด”

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements


สุภาษิตคำพังเพยหมาเห่าใบตองแห้ง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หมาเห่าใบตองแห้ง

ความหมายของสุภาษิตหมาเห่าใบตองแห้ง

ที่มาของสำนวน เป็นสำนวนที่เปรียบเทียบกับหมาที่ชอบเห่าใบตองแห้ง คือเห่าใบกล้วยที่แห้งติดอยู่กับต้น เวลาลมพัดใบกล้วยแห้งจะแกว่งหรือเสียดสีกัน มีเสียงแกรกกราก  หมาเห็นอะไรไหวๆ หรือได้ยินเสียงแกรกกรากก็จะเห่าขึ้น แต่ก็เห่าไปอย่างนั้นเอง ไม่กล้าไปกัดใบตองแห้ง กิริยาของหมานี้จึงนำมาเปรียบกับคนที่ชอบพูดจาเอะอะในลักษณะที่อวดตัวว่าเก่งกล้า แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้กล้าสมกับคำพูด

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่พูดเอะอะแสดงวาจาว่าเป็นคนเก่งกล้าไม่กลัวใคร แต่จริงๆ แล้วขี้ขลาดและไม่กล้าจริง

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหมาเห่าใบตองแห้ง

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหมาเห่าใบตองแห้ง

  • พวกคุณอย่าทำตัวเป็นหมาเห่าใบตองแห้งอยู่เลย ทำเป็นอวดเก่งไปตะโกนด่าว่าเขาลับหลัง พอเขาจะเอาจริงขึ้นมาก็ขี้ขลาด ไม่กล้าสู้
  • คนพวกนี้หมาเห่าใบตองแห้งทั้งนั้น ได้แต่ตะโกนด่าเขาลับหลัง ถ้าเขาเอาจริงก็ขี้คร้านจะวิ่งหนีไม่ทัน
  • ก่อนขึ้นชกสมชายได้คุยโม้โอ้อวดไว้มากมายว่าตนเก่งอย่างโน้นอย่างนี้ จะคว่ำคู่ชกให้ได้ภายในยกแรก แต่พอขึ้นเวทีกลับหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ตรงกับสำนวนไทยที่ว่าหมาเห่าใบตองแห้ง
  • รองหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่า การใช้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเปรียบเสมือนหมาเห่าใบตองแห้ง แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะหลังจากมีการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงมายาวนานก็ไม่สามารถยุติการ ชุมนุมได้ มีแต่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
  • ถ้าอยากจะบวกก็เข้ามา อย่าทำตัวเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง คนจริงเขาไม่พูดเยอะกัน!

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements


สุภาษิตคำพังเพยหมาหวงก้าง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หมาหวงก้าง

ความหมายของสุภาษิตหมาหวงก้าง

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงหมาที่ได้ก้างปลามา เพราะหมานั้นไม่สามารถกินก้างปลาได้เนื่องจากสำรอกก้างปลาไม่เป็นเหมือนแมว การที่หมาได้ก้างปลาไปถึงไม่มีประโยชน์แม้จะหวงไว้ก็กินไม่ได้อยู่ดี

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่หวงของในสิ่งที่ตนเองไม่มีสิทธิ ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ไม่ต้องการ แต่ก็กันท่าเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ใช้ประโยชน์จากของสิ่งนั้น

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหมาหวงก้าง

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหมาหวงก้าง

  • เมื่อก่อนสมชายกับสมพรเคยคบหาเป็นแฟนกัน ซึ่งตอนนี้เลิกกันแล้ว… แต่เวลามีผู้ชายอื่นมาคุยกับสมพร สมชายจะคอยกันท่าทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ทั้งๆที่ตนไม่ได้มีสิทธิ์อะไรเพราะเลิกกับสมพรแล้ว
  • เจ้าของพื้นที่ตรงนี้เขาปล่อยเช่าและผมก็ได้ตกลงเช่าเรียบร้อยแล้ว คุณจะมาทำเป็นหมาหวงก้างอ้างว่าได้เล็งพื้นที่นี้ไว้ก่อนแล้วได้อย่างไร
  • ถึงขั้นต้องขยี้ตากันเลยทีเดียว เมื่อนักร้องลูกทุ่งสาว ธัญญ่า อาร์สยาม เจ้าของฉายา “สาวอีสานมหัศจรรย์” เจ้าของซิงเกิล “หมาหวงก้าง” โพสต์รูปชุดว่ายน้ำริมสระ ทำเอาหนุ่มๆถึงกับตะลึงในความเซ็กซี่ ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวยืนยันว่าแฟนคลับเข้าใจ ไม่มีดราม่าให้กลุ้มใจ
  • เจ้าของข้อมูลอาจจะมีข้อมูลอันมีค่า แต่ใช้ไม่เป็นเลยหวงเอาไว้เป็นหมาหวงก้าง ยิ่งหน่วยราชการแล้วยิ่งเป็นหมาหวงก้างข้อมูล ข้ออ้างใหญ่ที่ใช้เป็นประจำคือเป็นความลับของทางราชการ
  • คนประเภทหมาหวงก้างนอกจากจะเป็นพิษแล้ว ยังทำลายตัวเองด้วยนิสัยของตนเอง และไม่มีใครอยากจะคบประเภทนี้แน่นอน สำรวจตัวเองด้วยว่าเราเป็นแบบนี้ไหม?

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements


สุภาษิตคำพังเพยหมาหยอกไก่ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หมาหยอกไก่

ความหมายของสุภาษิตหมาหยอกไก่

ที่มาของสำนวน ปกติธรรมดาธรรมชาติของหมา ถ้าเป็นหมาพรานซึ่งเจ้าของเลี้ยงไว้เพื่อล่าสัตว์ เมื่อมันเห็นสัตว์มันจะเข้าทำการกัดให้สัตว์ตัวนั้นตาย เพื่อให้เจ้าของได้นำสัตว์ตัวนั้นมาทำเป็นอาหาร ถ้าเจ้าของไม่เอาสัตว์ตัวนั้น มันก็จะกินเป็นอาหารของมัน แต่ถ้าเป็นหมาที่เลี้ยงไว้เฝ้าบ้านมันจะเชื่อง ส่วนใหญ่มันจะเล่นกับสัตว์เลี้ยงที่เจ้าของเลี้ยงไว้ แต่ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ ที่มันกินได้ด้วยสัญชาตญาณของนักล่ามันก็อาจจะจับสัตว์นั้นเป็นอาหาร แต่มันได้รับการเรียนรู้จากเจ้าของว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ อาทิเช่น เป็ด, ไก่ หรือหมู เจ้าของห้ามทำอันตรายมันก็ไม่ทำอันตรายสัตว์เหล่านั้น แต่ก็มีหมาบางตัวที่เลี้ยงไม่เชื่องมันก็จ้องจะกินสัตว์เลี้ยงเหล่านี้อยู่ ถ้าหากเจ้าของไม่อยู่ หรือเจ้าของเผลอ โดยทำทีเล่นทีจริงหยอกล้อสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น เช่น ทำเป็นหยอกล้อกับไก่ ท่าว่าจะกัดไก่ แต่ก็ไม่กัดจริง เพราะเจ้าของไก่อยู่ จึงได้แต่ทำท่าล้อหลอกไปมา รอโอกาสให้เจ้าของไก่เผลอ และ ไก่เผลอตัว จึงจะทำการกัดไก่จริงๆ

หมาหยอกไก่ ก็คือ หมาหลอกล้อเล่นกับไก่ หรือ หมาทำทีเล่นทีจริงกับไก่

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ อาการที่ชายหยอกล้อหญิงในทำนองชู้สาวเป็นทีเล่นทีจริง เปรียบเปรยถึงการที่ผู้ชายพูดจา หรือแสดงอาการหยอกล้อ แซว พูดทีเล่นทีจริงกับผู้หญิงในทำนองชู้สาว

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหมาหยอกไก่

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหมาหยอกไก่

  • นายชิงชัย ชอบมาทำเป็นหมาหยอกไก่ กับพนักงานสาวๆ ในออฟฟิศของเขาเป็นประจำ
  • นายสมคิดชอบทำหมาหยอกไก่ กับพนักงานสาวๆ ที่เข้าใหม่เป็นประจำ ใครๆเขาก็รู้กันทั่ว
  • ระวังผู้ชายประเภทหมาหยอกไก่ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พูดไปเหมือนไม่คิด ความจริงคือมันคิดอย่างที่มันพูดนั่นแหละ มีโอกาสเมื่อไหร่… ไม่เหลือ
  • อย่าไปหลงคารมเชียวนะ ผู้ชายเดี๋ยวนี้ก็ชอบบริการเสน่ห์ ทำเป็นหมาหยอกไก่ไปเรื่อย ไม่ได้คิดจริงจังอะไรหรอก
  • จากกระแสข่าวผู้บริหารสื่อคุกคามทางเพศ ที่ครบกำหนด 90 วัน ตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่รายงานผล ว่า จากที่ได้ยินข้อมูลมาผลการสอบสวนจะออกไปในลักษณะ “หมาหยอกไก่” ทำให้เรื่องออกมาไม่รุนแรง เป็นความเจ้าเล่ห์วงการสื่อ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หมาหยอกไก่มันก็อยู่ในชุดความคิดของการล่วงละเมิดทางเพศอยู่ดี…
  • นี่สมชายอย่ามาทำตัวหมาหยอกไก่ใส่ฉัน ถ้าชอบหรือจะจีบฉันก็บอกตรงๆ ฉันไม่ชอบที่ให้ใครมาล้อเล่นกับฉัน

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements


สุภาษิตคำพังเพยหมาลอบกัด ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หมาลอบกัด

ความหมายของสุภาษิตหมาลอบกัด

ที่มาของสำนวน โดยปกติธรรมดาธรรมชาติของหมา ถ้ามันจะกัดใครมันจะกัดซึ่งๆ หน้า ชนิดที่เห็นตัวกันเลย ถ้ามีหลายตัวมันก็จะมารุมล้อมช่วยกัน แต่ก็มีบางตัวที่ชอบทำแบบเซื่องๆ ซุ่มมากัด แบบนี้นับว่าเป็นอันตรายมากๆ มากกว่าที่ทำท่าทำทางว่าจะกัดซะอีก เพราะหมาลอบกัดมันมากัดเมื่อไรเราไม่รู้ตัวเลย

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่ไม่กล้าสู้ซึ่งๆ หน้า ดีแต่ลอบทำร้าย นินทา กลั่นแกล้ง ผู้อื่นลับหลัง ผู้อื่นลับหลัง โดยที่ผู้ถูกกระทำไม่รู้ตัว

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหมาลอบกัด

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหมาลอบกัด

  • คนก็คือคน ปัจจุบันนี้พวกหมาลอบกัดมีมากในสังคม เราจะทำอะไรต้องระวังตัวอยู่เสมอ ถึงแมม้เราจะไม่ได้ทำอะไรใครไวว้ก็ตาม
  • อย่าทำตัวเป็นหมาลอบกัดหน่อยเลย คุณมาลอบทำร้ายกันแบบนี้ มีปัญหาอะไรมาพูดคุยกันตรงๆ เลยดีกว่า
  • ผบ.ทบ.ซัดโจรใต้หมาลอบกัด โยงแก๊งยา-ของเถื่อน
  • หมาลอบกัด! กรณ์ ซัดแรงหลังรถหาเสียงชุมพรถูกดักยิง ฉะการเมืองตกยุค
  • เดี๋ยวนี้พวกนักการเมือง หรืออันธพาลชอบใช้วิธีแบบหมาลอบกัด ทำให้บางครั้งตำรวจก็ไม่สามารถปกป้อง หรือหาผู้กระทำผิดมาลงโทษได้

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements


สุภาษิตคำพังเพยหนูตกถังข้าวสาร ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หนูตกถังข้าวสาร

ความหมายของสุภาษิตหนูตกถังข้าวสาร

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงข้าวสารก็เป็นอาหารที่หนูชอบอยู่แล้ว เมื่อหนูเผอิญพลัดตกลงไปในถังข้าวสาร มันจึงไม่ดิ้นรนที่จะขึ้นมาจากถังนั้น เพราะในถังมีอาหาร(ข้าวสาร) ให้มันกินได้อย่างอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว มันจึงชอบใจมากๆ ที่วาสนาของมันดี ที่ได้พลัดตกลงมาในถังข้าวสาร มันจึงอยู่ในถังข้าวสาร และกินข้าวสารอย่างมีความสุขสบายอย่างสุดๆ เลย

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ผู้ชายที่มีฐานะไม่ค่อยดี ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ร่ำรวย กล่าวคือผู้ชายที่มีฐานะไม่ค่อยดี แต่เผอิญไปได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ร่ำรวย หรือที่มีฐานะดี จึงมีความสุขใจ และสบายกาย ไม่ต้องทนลำบากตรากตรำทำงานให้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอย่างเมื่อก่อนอีก ก็เปรียบเสมือนดังว่าหนูตกถังข้าวสารนั่นเอง

สำนวนนี้มักใช้เป็นคำพูดประชดประชัน ดูถูกดูแคลนหรืออิจฉาริษยามากกว่าด้านดี

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหนูตกถังข้าวสาร

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหนูตกถังข้าวสาร

  • นายเชิดนี่เป็นหนูตกถังข้าวสารชัดๆ ได้แต่งงานกับคนรวย ทั้งๆที่บ้านฐานะยากจน ทำงานเป็นเด็กเสริฟร้านอาหาร อยู่ๆก็มีผู้หญิงรวยๆ มาชอบพออีก อะไรจะโชคดีขนาดนั้น
  • นายสำรวยไปรับจ้างทำงานที่ร้านค้าของเก่า แต่โชคดีที่ลูกสาวเถ้าแก่มาชอบพอ เลยได้แต่งงานกัน แบบนี้มันเข้าตำราหนูตกถังข้าวสาร อย่างแท้จริง
  • นิทานหนูตกถังข้าวสาร เศรษฐีคนหนึ่งรักลูกสาวมากจึงอยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝาแต่ยังหาเจ้าบ่าวให้ไม่ได้ พ่อจึงบอกว่าถ้าเจอผู้ชายมือสากๆ ให้บอกพ่อที แล้วเรื่องนี้ก็ไปถึงหูชายเกียจคร้านจึงออกอุบายนำข้าวเหนียวมาแช่แล้วไปผึ่งลมให้แห้ง แล้วไปหาลูกสาวเศรษฐีเพื่อขอน้ำกินพอได้สัมผัสมือก็พบว่ามือสากจึงนำเรื่องไปบอกพ่อและทั้งคู่ก็ได้ครองรักกัน
  • คนนอกวงการเวลาคบกับคนในวงการมักโดนกระแสสังคมหาว่าเป็นหนูตกถังข้าวสารจนต้องพิสูจน์ตัวเองหนักมาก เพื่อคบหาดูใจกัน แต่ในที่สุดโชคชะตาก็ช่วยพลิกชีวิต เขาก็มีชื่อเสียงเพราะทำเพจชิมอาหาร ทำให้กล้าขอแต่งงาน จนมีครอบครัวที่น่ารักอย่างในวันนี้
  • ในฐานะลูกผู้ชายการเป็นหนูตกถังข้าวสารไม่ใช่ว่าจะดีเลย เพราะต้องพึ่งฝ่ายหญิง ซึ่งการเป็นลูกผู้ชายต้องกล้าท้าทายชีวิต กล้าสู้ชีวิต สร้างฐานะด้วยลำแข้งตนเองด้วยความอดทนเข้มแข็งถึงจะหล่อหลอมให้เป็นลูกผู้ชายเต็มตัว สุดท้ายการได้เมียหาใช่ความสำเร็จในชีวิต

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements


สุภาษิตคำพังเพยหนีร้อนมาพึ่งเย็น ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หนีร้อนมาพึ่งเย็น

ความหมายของสุภาษิตหนีร้อนมาพึ่งเย็น

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงสถานที่ร้อนๆ หมายถึง ที่ที่ไม่มีความสบาย ชีวิตยากลำบาก หนีมาสถานที่เย็นๆ คือ สถานที่ที่มีความสบาย ความสงบสุข หรือมีชีวิตที่ดีกว่าที่เก่า สำนวนนี้มักนิยมใช้ในเชิงอพยพ หรือหนีจากปัญหาต่างๆ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การหนีจากที่ที่มีความเดือดร้อนมาอาศัยอยู่ในที่ที่มีความสงบสุข

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหนีร้อนมาพึ่งเย็น

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหนีร้อนมาพึ่งเย็น

  • ถ้ำโชรันเช ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและมีความสำคัญของแคว้นแวร์คอร์ส อยู่ใกล้ๆกับเมืองกรีโนเบิล ในประเทศฝรั่งเศส ช่วงนี้ต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนชมความสวยงามกันหนาแน่นเพิ่มขึ้นจากเดิมราว 10% เนื่องจากเกิดคลื่นความร้อนนานาประเทศ ทำให้ผู้คนหนีร้อนลงมาเที่ยวถ้ำที่มีอุณหภูมิอยู่ราวๆ 15 องศาเซลเซียส
  • คนจีนสมัยก่อนที่อพยบมาอยู่ประเทศไทย ก็เหมือนหนีร้อนมาพึ่งเย็น เพราะสมัยนั้นประชาชนชาวจีนถูกกดขี่ข่มเหง ประสบภัยธรรมชาติค่อนข้างถี่ทำให้ทำมาหากินไม่ได้ จึงอพยบย้านถิ่นฐานมาประเทศไทยเพราะคิดว่าประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ เป็นอู่ข้าวอู่น้ำอย่างไรก็ไม่อดตาย
  • คนเมียนมา “หนีร้อนมาพึ่งเย็น” นโยบายจัดการแรงงานต่างชาติของไทยตอบโจทย์ขาดแคลน
  • ฮือฮาฝูงผึ้งหลวงหนีร้อนมาพึ่งเย็น ทำรังใต้คางองค์พระพุทธสิงห์หนึ่งองค์ใหญ่ ของวัดป่าห้วยบง จ.พะเยา ชาวบ้านเชื่อ บารมีของหลวงพ่อใหญ่ ช่วยปกปักรักษาคุ้มภัยให้แก่ฝูงผึ้งหลวง จึงยึดเป็นที่ทำรัง
  • ชีวิตเมื่อถึงจุดที่ลำบากสุดๆ มักจะไม่มีทางเลือกมากนัก นอกจากหนีร้อนมาพึ่งเย็น เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม ทั้งตัวเอง ครอบครัว จึงทำให้หลายๆ ประเทศนั้นมีผู้อพยพมากขึ้น

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements


สุภาษิตคำพังเพยหนักไม่เอาเบาไม่สู้ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ห. หนักไม่เอาเบาไม่สู้

ความหมายของสุภาษิตหนักไม่เอาเบาไม่สู้

ที่มาของสำนวน เปรียบเทียบถึงคนที่มีนิสัยอ่อนแอ ไม่สู้งานหนัก หรืองานเบาใดๆ ทั้งนั้น เกียจคร้านไม่อยากทำงานอะไรเลย ไม่มีความอดทนที่จะทำงาน เกียจคร้านต่องานทุกชนิด

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่ไม่มีความอดทนที่จะทำการงาน เกียจคร้าน ไม่สู้งาน ไม่อดทน ไม่ชอบทำงานหนัก รักความสบาย

สำนวนนี้มักพูดถึงคนที่มีนิสัยเกียจคร้าน ไม่สู้งาน อะไรนิดอะไรหน่อยก็ท้อแท้เหนื่อยหน่าย ทำไม่ไหว ซึ่งคนทั่วไปก็ดูออกว่าได้มีสาเหตุมาจากที่ว่างานนั้นหนักเกินกำลัง แต่เกิดจากความขี้เกียจสันหลังยาว ไม่สู้งานสู้การต่างหาก

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยหนักไม่เอาเบาไม่สู้

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตหนักไม่เอาเบาไม่สู้

  • การทำงานร่วมกับคนอื่นนั้น เราต้องตั้งใจทำให้เต็มที่นะลูก อย่าทำตัวแบบหนักไม่เอาเบาไม่สู้ คนอื่นเขาจะว่าเอาได้
  • เด็กคนนี้ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจแบบลูกคุณหนู ไม่สู้งาน หนักไม่เอา เบาไม่สู้ เลยไม่สามารถทำงานที่ไหนได้นานซักที่เลย
  • การเกิดเป็นคนบนโลกใบนี้ สิ่งสําคัญ ก็คือ การดูแลตัวเอง พึ่งพาตัวเอง บางคนขยันทำมาหากินก็ได้ดี บางคนขี้เกียจ หนักไม่ เอาเบาไม่สู้ขี้เกียจทำงาน ชีวิตก็ย่อมไม่ประสบความสำเร็จ ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามผลการกระทำของแต่ละคน
  • คนที่ขยันและอดทน ย่อมมีอนาคตดีกว่าคนที่หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ทุกบริษัทไม่มีที่ไหนชอบคนที่เกียจคร้าน
  • ที่ชีวิตลุงศักดิ์ยังต้องลำบากอยู่ทุกวันนี้ ก็เป็นเพราะเมื่อก่อนไม่สู้งาน ไม่มีความอดทน หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ผู้ใหญ่ก็เลยไม่ให้การสนับสนุน

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements


สุภาษิตคำพังเพยเสน่ห์ปลายจวัก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ส. เสน่ห์ปลายจวัก

ความหมายของสุภาษิตเสน่ห์ปลายจวัก

ที่มาของสำนวน คนไทยโบราณมักจะอบรมสั่งสอนลูกผู้หญิงทุกคนให้ทำอาหารเป็น ทำงานบ้านให้เป็น ไม่ใช่เพื่ออื่นใด แต่เพื่อนาคตของพวกเธอในการออกเหย้าเฝ้าเรือน หนึ่งในเสน่ห์ที่มัดใจผู้ชายนั้นคือเสน่ห์ปลายจวัก

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ เสน่ห์ที่เกิดจากฝีมือปรุงอาหารให้โอชา มักใช้กับผู้หญิงที่ต้องทำหน้าที่แม่บ้านแม่เรือน อย่างเช่น การทำอาหาร ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของผู้หญิง

สำนวนนี้ใช้กับภรรยาที่ทำหน้าที่ดูแลสามีจัดการบ้านเรือน ทำอาหารได้ดีมีฝีมือเลิศเลอ เป็นที่ต้องปาก ประกอบกับงานบ้านงานเรือนไม่ขาดตกบกพร่อง รวมๆ แล้วจึงเรียกว่าเสน่ห์ปลายจวัก

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเสน่ห์ปลายจวัก

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเสน่ห์ปลายจวัก

  • สาวๆ สมัยนี้ไม่ค่อยจะเข้าครัว ทำอาหารกันไม่เป็น อาศัยซื้อกินเป็นหลัก ไม่มีเสน่ห์ปลายจวักกันแล้ว ไม่เหมือนสมัยก่อนเลยนะ
  • ตามทัศนคติของคนยุคก่อน ก็คือ ผู้หญิงที่มีฝีมือและความชำนาญในการปรุงอาหารจนสามีติดใจโดยไม่คิดปันใจไปให้หญิงอื่น และเป็นที่รักของสามีตลอดไป คนโบราณของไทยนั้นได้เปรียบเทียบถึงผู้หญิงที่หน้าตาสดสวย เมื่อถึงคราวแต่งงานลงครองเรือนแต่ทำกับข้าวปรุงอาหารให้สามีทานไม่เป็น ผลสุดท้ายก็จำเป็นต้องเลิกรากันไป แตกต่างกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งหน้าตาไม่ได้สดสวยงดงามอะไรมากนัก เมื่อถึงคราวครองเรือนกับสามีกับปรนนิบัติพัดวีและปรุงอาหารให้สามีได้ทานจนติดใจ เรียกว่า “เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตัวตาย”
  • ซุปฟักทองนิสัยดี แถมมีเสน่ห์ปลายจวักเป็นที่ร่ำลือ ด้วยความที่หญิงเป็นสาวรักสุขภาพและดูแลรูปร่างหน้าตามาแต่ไหนแต่ไร จึงมักคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ ที่ทานอร่อยและต้องดีต่อสุขภาพเพื่อสามีอีกด้วย
  • ภรรยาของเขาชอบเข้าครัว ฝึกทำอาหารกับคุณแม่ตั้งแต่เด็กๆ โตมาเลยมีเสน่ห์ปลายจวัก ที่ใครๆต่างก็ขอมาลองชิมฝีมือ
  • แม่บ้านบางคนการซื้ออาหารเจ้าอร่อย หรือจากร้านดีๆ มาให้สามีหรือคนที่บ้านกิน เพียงแค่รู้จักร้านดีๆ รู้จักร้านอร่อย กินอาหารอร่อยเป็น แล้วนำมาจัดการในครอบครัว นับเป็นเสน่ห์ปลายจวักแบบสตรีรุ่นใหม่จริงๆ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements


สุภาษิตคำพังเพยสีซอให้ควายฟัง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

X
Advertisements

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ส. สีซอให้ควายฟัง

ความหมายของสุภาษิตสีซอให้ควายฟัง

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงคน เซ่อคนโง่ หรือคนที่ดูฉลาดแต่กลับไม่ฉลาด ดั่งควายตัวโตกลางทุ่งนาถึงจะมีคนไปสีซออันแสนไพเราะให้ฟัง แต่ควายก็ได้สนใจฟังไม่ผู้ที่สีซอก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากควายเลยเสียแรงและเสียเวลาไปโดยใช่เหตุ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การสอนหรือแนะนำสิ่งต่างๆให้กับคนที่มีความรู้น้อย ปัญญาทึบ ไม่ว่าจะสอนกี่ครั้งก็ยังไม่เข้าใจหรือไม่ตั้งใจที่จะฟัง ไม่ยอมทำตาม หัวไม่เอาอะไรเลย ทำให้ผู้สอนนั้นเสียเวลาเปล่า

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยสีซอให้ควายฟัง

Advertisements


ตัวอย่างการใช้สุภาษิตสีซอให้ควายฟัง

  • ครูแดงหนักใจกับเด็กกลุ่มนี้มากไม่สนใจที่ครูสอนเลย เวลาเรียนก็เล่นแต่โทรศัพท์มือถือ สอนเท่าไหร่ บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยจำ เหมือนสีซอให้ควายฟัง
  • อย่าไปสีซอให้ควายฟังเลย ถ้าเขาไม่มีเหตุผลและยังไม่เปิดใจยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นพูดไปก็เปล่าประโยชน์
  • เด็กชายเป็ด เอาการบ้านมาทำ ขณะที่คุณครูกำลังสอนในห้องเรียน ซึ่งเด็กชายเป็ดไม่ได้สนใจที่จะฟังคุณครูสอนเลย เหมือนกับสีซอให้ควายฟัง
  • การพูดถึงคนที่ไม่ฉลาด คนโง่ สอนอะไร ก็ยากจะเข้าใจ หัวไม่เอาเลย อย่าไปสีซอให้ควายฟัง หรืออย่าไปสอนอะไรเลย สอนไปก็เสียเวลาเปล่า เพราะสมองไม่ดี โง่ เรียนรู้อะไรได้ช้ามาก เสียเวลา
  • อย่าไปสอนคนที่ไม่พร้อมที่จะรับรู้ แม้ว่าเราจะหวังดีแค่ไหนก็ตาม เพราะจะทำให้เขาและเรารู้สึกแย่ เหมือนสีซอให้ควายฟัง และเหมือนยื่นข้าวให้กับคนที่อิ่มแล้ว

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

Advertisements