“ลาเจ้าเล่ห์กับสัมมภาระของมัน” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงการหลอกหลวง และะผลที่ตามมา กับความมรับผิด และซื่อตรงต่อหน้าที่ของตนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
นิทานอีสปเรื่องลาเจ้าเล่ห์กับสัมมภาระของมัน
กาลครั้งหนึ่ง มีลาตัวหนึ่งแบกเกลือจำนวนมากไว้บนหลังของมัน ขณะที่มันเดินเคียงข้างเจ้านายของมัน ขณะที่พวกเขาข้ามลำธาร ลาเกิดสะดุดและตกลงไปในน้ำโดยบังเอิญ สิ่งที่ทำให้ลาประหลาดใจก็คือ ปริมาณของเกลือเบาลงเมื่อเกลือละลายในน้ำ ลารู้สึกโล่งใจ เดินทางต่อไปโดยบรรทุกของที่เบากว่ามาก
Once upon a time, an ass was carrying a heavy load of salt on its back as it walked alongside its master. As they crossed a stream, the ass stumbled and accidentally fell into the water. To the ass’s surprise, the load of salt became lighter as the salt dissolved in the water. Relieved, the ass continued its journey with a much lighter load.
วันรุ่งขึ้น ลากับเจ้านายก็ออกเดินทางไปตามทางเดิม คราวนี้ลาเจ้าเล่ห์ตั้งใจสะดุดและตกลงไปในลำธารโดยหวังว่าจะทำให้เกลือที่บรรทุกมาเบาลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แทนที่เจ้านายจะใช้เกลือ เจ้านายใช้ฟองน้ำแทน ซึ่งอุ้มน้ำไว้ และหนักขึ้น ส่งผลให้มันต้องแบกภาระหนักขึ้นบนหลัง
The next day, the ass and its master set off on the same route. This time, the cunning ass intentionally stumbled and fell into the stream, hoping to make the load of salt lighter again. However, instead of salt, the master had loaded the ass with sponges, which soaked up water and became heavier. As a result, the ass had to carry an even heavier burden on its back.
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“เจตนาหลอกลวงสามารถส่งผลย้อนกลับได้ และนำไปสู่ผลที่ตามมาที่หนักกว่า”
- อันตรายจากการหลอกลวง ความพยายามของลาที่จะหลอกลวงนายของมันกลับตาลปัตร ด้วยการพยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ด้วยการหลอกลวง ลาจึงลงเอยด้วยสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นคุณธรรมที่สำคัญ
- ผลที่ตามมาจากความโลภ การที่ลาอยากได้ของที่เบากว่าทำให้มันทำสิ่งที่ไม่ซื่อสัตย์ ความโลภในการเดินทางที่ง่ายกว่าส่งผลให้งานหนักขึ้น เรื่องนี้เตือนเราว่าความโลภมักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจ
- ความสำคัญของการยอมรับความรับผิดชอบ แทนที่จะพยายามหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ลาควรยอมรับภาระที่ได้รับ การยอมรับและปฏิบัติตามความรับผิดชอบของเราด้วยความขยันหมั่นเพียรและความซื่อสัตย์เป็นบทเรียนอันมีค่าสำหรับการเติบโตส่วนบุคคล
- พลังแห่งความจริง ในตัวอย่างแรก ลาได้ประโยชน์จากความจริงเมื่อเกลือละลายในน้ำ อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้การหลอกลวง ความจริงก็เปิดเผยตัวเอง ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ เรื่องราวเน้นพลังและคุณค่าของความจริง
“Deceitful intentions can backfire, leading to heavier consequences.”
- The danger of deceit and manipulation: The ass’s attempt to deceive its master backfired. By trying to take advantage of a situation through deception, the ass ended up in a worse position than before. Honesty and integrity are essential virtues.
- The consequences of greed: The ass’s desire for a lighter load led it to take dishonest actions. Its greed for an easier journey resulted in a more burdensome task. The story reminds us that greed often leads to unfavorable outcomes.
- The importance of accepting responsibilities: Instead of trying to evade its responsibilities, the ass should have accepted the burden it was given. Accepting and fulfilling our responsibilities with diligence and integrity is a valuable lesson for personal growth.
- The power of truth: In the first instance, the ass benefited from the truth when the salt dissolved in the water. However, when it resorted to deception, the truth revealed itself, leading to unfavorable consequences. The story emphasizes the power and value of truthfulness.
โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนเราถึงความสำคัญของความซื่อสัตย์ ซื่อตรง และการยอมรับความรับผิดชอบ มันเตือนถึงอันตรายของความโลภและการหลอกลวง เตือนเราว่าการแสวงหาทางลัดหรือการจัดการสถานการณ์อาจส่งผลด้านลบ ในท้ายที่สุด เรื่องราวนี้กระตุ้นให้เราเข้าใกล้ความรับผิดชอบของเราด้วยความซื่อสัตย์และความขยันหมั่นเพียร โดยเข้าใจว่าความจริงเป็นรากฐานของชีวิตที่มีคุณธรรมและเติมเต็ม