“คนขี้เหนียวกับทองคำของเขา” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราในเรื่องอันตรายกับการยึดติดกับคนหรือสิ่งของ และภาพลวงตาของความมั่นคงในทรัพย์สินทางวัตถุ
นิทานอีสปเรื่องคนขี้เหนียวกับทองคำของเขา
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว คนขี้เหนียวคนหนึ่งได้สะสมเงินทองไว้มากมาย เขาหวงแหนทรัพย์สมบัติของเขาและจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในการนับและชื่นชมมัน เขาจะซ่อนทองไว้ในรูบนดิน และไปหาบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย
Once upon a time, There once was a miser who had accumulated a great amount of gold. He cherished his wealth and would spend hours counting and admiring it. He would hide his gold in a hole in the ground and visit it frequently to ensure it was safe.
วันหนึ่งคนขี้เหนียวพบว่าทองของเขาถูกขโมยไป เอาชนะความเศร้าโศกและความโกรธ เขาร้องไห้ออกมา และคร่ำครวญถึงการสูญเสียของเขา คนเดินผ่านไปผ่านมาได้ยินเสียงร้องจึงเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น
One day, the miser found that his gold had been stolen. Overcome with grief and anger, he cried out and lamented his loss. A passerby, hearing his cries, approached and asked what had happened.
คนขี้เหนียวอธิบายว่าทองของเขาถูกขโมยไป และเขาเสียใจมากกับการสูญเสีย คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอยากรู้เกี่ยวกับความผูกผันของคนขี้เหนียวกับทองคำของเขา จึงถามว่า “ทองคำของคุณจะมีประโยชน์อะไรหากคุณไม่สามารถเพลิดเพลิน หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้”
The miser explained that his gold had been stolen, and he was devastated by the loss. The passerby, curious about the miser’s attachment to his gold, asked, “But what good is your gold if you cannot enjoy it or use it for anything?”
คนขี้เหนียวถึงกับชะงัก และรู้ความจริงในคำพูดของผู้สัญจรผ่านไปมา ความหมกมุ่นกับการสะสมทองคำของเขาทำให้เขาไม่มีความสุขหรือพึงพอใจ เขาปิดกั้นความมั่งคั่งของเขา กีดกันผลประโยชน์และความสุขที่อาจเกิดขึ้นจากมันเอง
The miser paused and realized the truth in the passerby’s words. His obsession with hoarding his gold had brought him no joy or satisfaction. He had locked away his wealth, depriving himself of its potential benefits and pleasures.
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ความมั่งคั่งมีคุณค่าเมื่อนำมาซึ่งความสมหวัง ไม่ใช่แค่เมื่อถูกสะสมเท่านั้น”
- อันตรายจากการยึดติดมากเกินไป การยึดติดกับทองคำมากจนเกินไปของคนขี้เหนียวทำให้เขาทุกข์ยาก ความหมกมุ่นทำให้เขาไม่สามารถเพลิดเพลินกับความสุขที่เรียบง่ายในชีวิต และเชื่อมต่อกับผู้อื่นได้
- คุณค่าของการแบ่งปันและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การกักตุนความมั่งคั่งโดยไม่นำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ใดๆ ก็ไม่เกิดประโยชน์ที่แท้จริง การแบ่งปันทรัพยากรของเรา และการมีน้ำใจกับผู้อื่นสามารถทำให้เกิดความสุขและสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายได้
- ภาพลวงตาของความมั่นคงในทรัพย์สินทางวัตถุ คนขี้เหนียวเชื่อว่าการเก็บทองไว้จะช่วยให้ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทองคำของเขาถูกขโมยไป แสดงให้เห็นว่าทรัพย์สินทางวัตถุเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยหรือความสุขที่แท้จริงได้
- ความสำคัญของการหาความสมดุล แม้ว่าการออมและคำนึงถึงการเงินของเราจะเป็นเรื่องฉลาด แต่ก็มีความสำคัญเท่าเทียมกันในการสร้างความสมดุลระหว่างการออมและการเพลิดเพลินกับผลงานที่เราลงแรง การสะสมทรัพย์สมบัติเพื่อแลกกับความสุขของชีวิตสามารถนำไปสู่ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเสียใจ
“Wealth is valuable when it brings fulfillment and not just when it’s hoarded.”
- The danger of excessive attachment: The miser’s extreme attachment to his gold led to his misery. His obsession prevented him from enjoying life’s simple pleasures and connecting with others.
- The value of sharing and generosity: Hoarding wealth without using it for any purpose serves no real benefit. Sharing our resources and being generous with others can bring joy and create meaningful relationships.
- The illusion of security in material possessions: The miser believed that storing his gold would ensure its safety. However, his gold was stolen, showing that material possessions alone cannot guarantee true security or happiness.
- The importance of finding balance: While it is wise to save and be mindful of our finances, it is equally important to strike a balance between saving and enjoying the fruits of our labor. Hoarding wealth at the expense of experiencing life’s joys can lead to a life filled with regret.
โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้เตือนเราถึงอันตรายของการยึดติดมากเกินไป ความสำคัญของการแบ่งปันและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความจำเป็นที่จะต้องหาสมดุลระหว่างการประหยัดและการมีความสุขกับชีวิต มันกระตุ้นให้เราไตร่ตรองถึงลำดับความสำคัญของเราและพิจารณาคุณค่าที่แท้จริงของความมั่งคั่งที่มากกว่าการสะสมเพียงอย่างเดียว