นิทานอีสป เรื่อง “เด็กชายโลภมากกับถั่วเฮเซลนัท” ไทย-Eng

นิทานอีสปเด็กชายโลภมากกับถั่วเฮเซลนัท ไทย-Eng
X
Advertisements

“เด็กชายโลภมากกับถั่วเฮเซลนัท” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงความอันตรายของความโลภ คุณค่าของความพอประมาณ การรับฟังความคิดเห็นที่มีคุณค่าจากผู้อวุโส และการเรียนรู้จากความผิดพลาด

นิทานอีสปเรื่องเด็กชายโลภมากกับถั่วเฮเซลนัท

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เด็กหนุ่มคนหนึ่งพบต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยต้นฟิลเบิร์ตที่สุก และอร่อย (หรือที่เรียกว่าเฮเซลนัท) ด้วยความตื่นเต้นและหิว เด็กชายเอื้อมมือไปหยิบถั่วอย่างกระตือรือร้นมาใส่ภาชนะ อย่างไรก็ตาม มือของเขาดันติดอยู่ในคอแคบๆ ของภาชนะที่ใส่ถั่ว

Once upon a time, a young boy came across a tree full of ripe and delicious filberts (also known as hazelnuts). Excited and hungry, the boy eagerly reached out to grab the nuts. However, his hand became stuck in the narrow neck of the container holding the nuts.

ไม่ว่าเด็กชายจะดึงแรงแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถปล่อยมือได้ รู้สึกผิดหวังและสิ้นหวัง เขาเริ่มร้องไห้และดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเด็กชายและถามว่าเกิดอะไรขึ้น

No matter how hard the boy pulled, he couldn’t free his hand. Feeling disappointed and desperate, he started crying and attracting the attention of passersby. One of them, an old man, approached the boy and asked what had happened.

เด็กชายอธิบายสถานการณ์ของเขาผ่านน้ำตาของเขา ชายชรามองดูสถานการณ์และแนะนำอย่างชาญฉลาดว่า “อย่าโลภมาก เด็กน้อย แบมือของเจ้า และปล่อยถั่วสักสองสามชิ้น แล้วมือของเจ้าจะออกมาโดยง่าย”

Through his tears, the boy explained his predicament. The old man looked at the situation and wisely suggested, “Don’t be so greedy, my child. Open your hand and let go of a few filberts. Then your hand will easily come out.”

ตามคำแนะนำของชายชรา เด็กชายโยนถั่วบางส่วนออกจากมือ ด้วยภาระที่ลดลง เขาสามารถเลื่อนมือออกจากภาชนะ และในที่สุดก็เป็นอิสระ

Following the old man’s advice, the boy dropped a few of the filberts from his hand. With the reduced load, he was able to slide his hand out of the container and was finally free.

นิทานอีสปเด็กชายกับถั่วเฮเซลนัท

Advertisements


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความโลภมักนำไปสู่การติดกับดัก แต่การปล่อยวางสามารถนำไปสู่อิสรภาพได้”

  • อันตรายของความโลภ ความละโมบของเด็กชายที่ต้องการคว้าไส้กรองทั้งหมดในคราวเดียวทำให้มือของเขาติดขัด มันเตือนเราว่าความโลภอาจทำให้เรามองไม่เห็นผลของการกระทำของเรา และทำให้เราติดอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์
  • คุณค่าของความพอประมาณ คำแนะนำของชายชราที่ให้โยนถั่วบางส่วนออกจากมือ เขาสอนถึงความสำคัญของความพอประมาณ บางครั้งเราต้องละทิ้งความปรารถนาที่มากเกินไปและพอใจกับปริมาณที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบ
  • คำแนะนำที่ชาญฉลาด การขอคำแนะนำจากผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีสติปัญญาและประสบการณ์ สามารถช่วยให้เราพบวิธีแก้ปัญหาของเรา คำแนะนำที่เรียบง่ายแต่ชาญฉลาดของชายชราช่วยให้เด็กชายเอาชนะสถานการณ์ของเขาได้
  • การเรียนรู้จากความผิดพลาด ประสบการณ์ของเด็กชายทำหน้าที่เป็นบทเรียนในการเรียนรู้จากความผิดพลาด ด้วยการตระหนักถึงผลที่ตามมาจากความโลภของเขา และปรับเปลี่ยนการกระทำของเขา เขาสามารถแก้ไขสถานการณ์และปลดปล่อยตัวเองได้

“Greed often leads to one’s entrapment, but letting go can lead to freedom.”

  • The dangers of greed: The boy’s greediness in wanting to grab all the filberts at once led to his hand getting stuck. It reminds us that greed can blind us to the consequences of our actions and cause us to get trapped in undesirable situations.
  • The value of moderation: The old man’s advice to release a few filberts teaches the importance of moderation. Sometimes, we need to let go of our excessive desires and be content with a reasonable amount to avoid negative consequences.
  • Wise counsel: Seeking advice from others, especially those with wisdom and experience, can help us find solutions to our problems. The old man’s simple yet wise suggestion helped the boy overcome his predicament.
  • Learning from mistakes: The boy’s experience serves as a lesson in learning from mistakes. By recognizing the consequences of his greed and adjusting his actions, he was able to rectify the situation and free himself.

โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้เตือนเราถึงอันตรายของความโลภและความสำคัญของความพอประมาณ กระตุ้นให้เราแสวงหาคำแนะนำที่สุขุม เต็มใจละทิ้งความปรารถนาที่มากเกินไป และเรียนรู้จากความผิดพลาดของเรา การทำเช่นนั้น เราสามารถหลีกเลี่ยงการติดอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย และมีชีวิตที่สมดุลและเติมเต็มมากขึ้น

นิทานอีสปเรื่องอื่นๆ

The Æsop for Children

Advertisements