“เทพจูปิเตอร์กับลิงซุกซน” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงการโอบรับความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง การไม่ควรเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ทุกคนย่อมมีความพิเศษต่างกัน
นิทานอีสปเรื่องเทพจูปิเตอร์กับลิงซุกซน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในดินแดนแห่งทวยเทพ เทพจูปิเตอร์ เป็นราชาแห่งทวยเทพทั้งปวง ได้จัดงานฉลองอันวิจิตรงดงามขึ้นในวังแห่งสรวงสวรรค์ สัตว์ทุกตัวได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานใหญ่ และแต่ละตัวจะได้รับของขวัญพิเศษเพื่อเป็นที่ระลึกถึงโอกาสนี้
Once upon a time, in the realm of the gods, Jupiter, the king of all gods, held a magnificent feast in the heavenly palace. All the animals were invited to attend the grand event, and each one was given a special gift to commemorate the occasion.
ในบรรดาแขกมีลิงที่ฉลาดและซุกซน เมื่องานเลี้ยงดำเนินไป ลิงไม่สามารถต้านทานนิสัยขี้เล่นของมันได้ และเริ่มเลียนแบบสัตว์อื่นๆ เขาเลียนแบบเสียงคำรามของสิงโต การบินของนกอินทรี และการเลื้อยของงู สัตว์อื่นๆ หัวเราะและพบว่าการแสดงตลกของลิง
Among the guests was a clever and mischievous monkey. As the feast progressed, the monkey couldn’t resist his playful nature and began to imitate the other animals. He copied the lion’s roar, the eagle’s flight, and the snake’s slither. The other animals laughed and found the monkey’s antics amusing.
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ลิงยังคงเลียนแบบทุกคน มันเริ่มรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง มันตระหนักว่ามันไม่มีความสามารถพิเศษเหมือนสัตว์อื่นๆ และเขาเริ่มรู้สึกอิจฉา
However, as the monkey continued to imitate everyone, he began to feel left out. He realized that he didn’t have any unique abilities like the other animals, and he started to feel envious.
เพื่อแก้ไขสถานการณ์ ลิงตัดสินใจเข้าใกล้เทพจูปิเตอร์และขอของขวัญพิเศษ มันกล่าวกับราชาแห่งทวยเทพว่า “โอ ท่านเทพจูปิเตอร์ ข้าได้สังเกตเห็นของขวัญอันน่าทึ่งที่คุณมอบให้กับสัตว์ทั้งหมด ข้าก็ปรารถนาที่จะมีพรสวรรค์พิเศษที่ทำให้ข้าแตกต่างจากสัตว์อื่นๆ”
To remedy the situation, the monkey decided to approach Jupiter and ask for a special gift. He said to the king of gods, “O Jupiter, I have observed the amazing gifts you bestowed upon all the animals. I, too, wish to have a unique talent that sets me apart from the rest.”
เทพจูปิเตอร์ยิ้มอย่างใจดีและตอบว่า “เจ้าลิง เจ้ามีพรสวรรค์ด้านความฉลาดและความเฉลียวฉลาดอยู่แล้ว ความเฉลียวฉลาดของเจ้าทำให้เจ้าสามารถเลียนแบบทักษะของผู้อื่นได้ และนั่นคือความสามารถพิเศษในตัวมันเอง”
Jupiter, with a kind smile, replied, “My dear monkey, you are already gifted with intelligence and wit. Your cleverness allows you to imitate the skills of others, and that is a special talent in itself.”
แต่ลิงไม่พอใจการตอบสนองของเทพจูปิเตอร์ เขาต้องการสิ่งที่พิเศษกว่านั้นเพื่อโอ้อวด ดังนั้นมันจึงยืนกรานว่า “ได้โปรด เทพจูปิเตอร์ ข้าขอให้คุณมอบของขวัญพิเศษที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดให้กับข้าได้”
But the monkey was not satisfied with Jupiter’s response. He wanted something more extraordinary to boast about. So, he insisted, “Please, dear Jupiter, I beg you to give me a unique gift that no other creature possesses.”
เทพจูปิเตอร์เห็นความมุ่งมั่นของลิงจึงยอมตามคำร้องขอ เขาล้วงมือเข้าไปในขุมสมบัติแล้วยื่นหางนกยูงหลากสีสันสวยงามให้กับลิง “เอาล่ะ” เทพจูปิเตอร์พูด “ข้าให้หางนกยูงแก่คุณ และเจ้าจะเป็นลิงตัวเดียวในโลกที่มีของขวัญเช่นนี้”
Jupiter, seeing the monkey’s determination, granted his request. He reached into his treasure trove and handed the monkey a beautiful and colorful peacock’s tail. “Here you go,” said Jupiter, “I give you the peacock’s tail, and you shall be the only monkey in the world to possess such a gift.”
ลิงดีใจและภูมิใจที่ได้สวมหางนกยูงตัวใหม่เดินนำหน้าสัตว์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาเดิน เขาก็ตระหนักว่าหางที่หนักและงดงามนั้นเป็นภาระมากกว่าการให้พร มันทำให้เขาสะดุดและไม่สามารถแกว่งผ่านต้นไม้ได้อย่างง่ายดายเหมือนเมื่อก่อน
The monkey was delighted and proudly wore his new peacock’s tail, parading in front of the other animals. However, as he walked, he realized that the heavy and magnificent tail was more of a burden than a blessing. It made him stumble, and he couldn’t swing through the trees as effortlessly as before.
ลิงรู้สึกอายและละอายใจจึงกลับไปหาดาวพฤหัสบดีและยอมรับความผิดพลาดของเขา “ข้าขอโทษ ท่านเทพจูปิเตอร์ผู้ฉลาด” ลิงพูด “ตอนนี้ข้าเข้าใจคุณค่าของความฉลาดของตัวเองแล้ว ข้าควรจะขอบคุณของขวัญที่ข้ามีอยู่แล้ว แทนที่จะโหยหาสิ่งอื่น”
Feeling embarrassed and ashamed, the monkey returned to Jupiter and admitted his mistake. “I apologize, wise Jupiter,” said the monkey, “I now understand the value of my own cleverness. I should have appreciated the gift I had instead of longing for something else.”
เทพจูปิเตอร์ให้อภัยเสมอ ยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล เจ้าลิง จำไว้ว่าความสุขที่แท้จริงอยู่ที่การยอมรับและใช้ประโยชน์สูงสุดจากพรสวรรค์และความสามารถที่เจ้ามีอยู่แล้ว”
Jupiter, always forgiving, smiled and said, “Do not worry, my dear monkey. Remember that true happiness lies in embracing and making the most of the talents and abilities you already possess.”
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ลิงก็ไม่อยากได้ของขวัญพิเศษจากผู้อื่นอีกต่อไป มันรวบรวมความเฉลียวฉลาดและไหวพริบของเขา ใช้มันเพื่อนำทางผ่านความท้าทายของชีวิต ดังนั้น มันจึงใช้ชีวิตอย่างสมถะและเติมเต็มชีวิต ทะนุถนอมของขวัญพิเศษจากเทพจูปิเตอร์
From that day on, the monkey no longer coveted the unique gifts of others. He embraced his intelligence and wit, using them to navigate through life’s challenges. And so, he lived a content and fulfilled life, cherishing his special gift from Jupiter.
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“จงชื่นชมและใช้ความสามารถและความสามารถเฉพาะตัวของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเป็นของขวัญที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่นๆ”
- จงขอบคุณสำหรับความสามารถพิเศษของคุณ: พวกเราแต่ละคนมีพรสวรรค์และความสามารถเฉพาะตัว สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักและชื่นชมสิ่งที่ทำให้เราพิเศษ แทนที่จะโหยหาสิ่งที่คนอื่นมี
- การเปรียบเทียบนำไปสู่ความไม่มีความสุข: เมื่อเราเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง เราอาจรู้สึกไม่คู่ควรและอิจฉา การเปิดรับจุดแข็งและพรสวรรค์ของเราเองสามารถนำไปสู่ความพึงพอใจและความมั่นใจในตนเอง
- โอบรับความเป็นเอกลักษณ์ของคุณ: โอบกอดคุณสมบัติที่ทำให้คุณเป็นตัวคุณ เฉลิมฉลองความเป็นตัวของตัวเองและใช้ความสามารถของคุณอย่างเต็มศักยภาพ
- ตั้งสติให้ดีว่าอยากได้อะไร: บางครั้งสิ่งที่เราปรารถนาอาจไม่เป็นประโยชน์อย่างที่คิด สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาผลของความปรารถนาของเราก่อนที่จะแสวงหาสิ่งใหม่
“Appreciate and make the most of your unique talents and abilities, as they are gifts that set you apart from others.”
- Be grateful for your unique talents: Each one of us possesses unique talents and abilities. It’s essential to recognize and appreciate what makes us special instead of longing for what others have.
- Comparison leads to unhappiness: When we constantly compare ourselves to others, we may feel inadequate and envious. Embracing our own strengths and talents can lead to contentment and self-confidence.
- Embrace your uniqueness: Embrace the qualities that make you who you are. Celebrate your individuality and use your talents to their fullest potential.
- Be mindful of what you wish for: Sometimes, the things we desire may not be as beneficial as we imagine. It’s crucial to consider the consequences of our wishes before seeking something new.
โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนเราถึงความสำคัญของการพอใจกับพรสวรรค์และพรสวรรค์เฉพาะตัวของเรา มันเตือนเราว่าความสุขที่แท้จริงมาจากการเห็นคุณค่าและใช้ประโยชน์สูงสุดจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว