สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ป. ปู่โสมเฝ้าทรัพย์
ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยปู่โสมเฝ้าทรัพย์
ที่มาของสำนวน มาจากเรื่องเล่าสมัยโบราณที่ว่า ชายชื่อ โสม เป็นเศรษฐี เมื่อตายไปยังหวงแหนสมบัติ ก็กลายเป็นผีถือกระบองมาเฝ้ารักษาสมบัติของตน ไม่ยอมไปผุดไปเกิดใหม่ จึงเกิดเป็นสำนวนว่า โสมเฝ้าทรัพย์ หรือปู่โสมเฝ้าทรัพย์ นั้นเอง
โดยชื่อที่ใช้เรียกผีหรือวิญญาณที่ทำหน้าที่เฝ้าทรัพย์สมบัติที่เป็นสมบัติล้ำค่าหรือสมบัติของชาติ เช่น กรุสมบัติในอาณาจักรอยุธยา เป็นต้น ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ทำหน้าที่คล้ายเจ้าที่เจ้าทาง หรือเทพารักษ์ที่พิทักษ์ทรัพย์สมบัติเหล่านี้เอาไว้
สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่เฝ้ารักษาทรัพย์สมบัติอยู่เฉยๆ โดยที่ตนเองไม่ได้ใช้ และกันไม่ให้ผู้อื่นได้ใช้ด้วย
กล่าวคือ คนที่หวงแหนสมบัติมากๆ ตนเองก็ไม่ได้ใช้และไม่ให้ผู้อื่นได้ใช้ด้วย เมื่อตายไปวิญญาณก็ไม่ไปผุดไปเกิด อยู่คอยเฝ้ารักษาสมบัติเหล่านั้นไม่ให้ใครเอาไป
ตัวอย่างการใช้สุภาษิตปู่โสมเฝ้าทรัพย์
- เรื่องราวตำนานปู่โสมเฝ้าทรัพย์ของวัดกุฎีดาว เริ่มจากพระองค์เจ้าพีระพงษ์ภานุเดช ได้รับสมุดข่อยโบราณจากพระสงฆ์รูปหนึ่ง มีลักษณะเป็นกระดาษข่อย เขียนอักษรไทยโบราณด้วยสี แต่ตัวอักษรได้ซีดจางเป็นสีขาวไปจนหมด อีกด้านหนึ่งเป็นผ้าเยื่อไม้มีอักขระไทยโบราณ เขียนด้วยหมึกสีดำ มีรอยวาดแสดงที่ตั้งโบสถ์ เจดีย์ของวัดกุฎีดาว แสดงตำแหน่งที่ฝังขุมทรัพย์ถึง 16 แห่ง
- คุณลุงแกเคยลำบากตราตรำมาก่อน พอตอนนี้มีสมบัติ มีฐานะร่ำรวยก็เลยหวงสมบัติมากกลัวว่าลูกหลานจะเอาไปผลาญจนหมด เลยทำตัวเหมือนปู่โสมเฝ้าทรัพย์เข้าไปทุกที
- ภาพยนตร์ไทยเรื่องผีที่ประทับใจข้าพเจ้ามากคือ “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” แม้ข้าพเจ้าจำเรื่องไม่ได้ แต่จำเพลงที่บรรเลงเป็นภูมิหลังได้ เขาใช้เครื่องดนตรีไทย เพลงเช่นนี้เมื่อข้าพเจ้าเล็กๆ มีละครเรื่อง “แม่ศรีไพรวัลย์” มาแสดงที่วิกข้างบ้าน เวลาผีมาเขาก็บรรเลงเพลงดังกล่าว สุนัขหอนกันทั้งตลาด ผู้แสดงก็ขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กัน เวลาที่พี่ๆ น้องๆ ของข้าพเจ้าจะเล่นผีหลอกกัน ก็ร้องเพลงนี้เป็นประจำ น่ากลัวทุกที
- ความจริงว่าเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ มีความโกรธเคืองผู้ที่มาลักลอบขุดสมบัติโดยไม่ได้ทำตามแบบแผน จึงได้สาปแช่งผู้ขุดสมบัติไม่ให้ทำมาค้าขึ้น
- สมชายทำตัวเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ มีสมบัติแต่กลับเก็บไว้คนเดียว ไม่ให้ลูกหลาน จนแทบไม่มีใครอยู่ด้วย สงสัยตายไปคงจะเฝ้าสมบัติอยู่อย่างนั้นแหละ