สุภาษิตคำพังเพยพร้างัดปากไม่ออก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ พ. พร้างัดปากไม่ออก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยพร้างัดปากไม่ออก

ที่มาของสำนวน ในสมัยโบราณภาชนะที่ใส่ของหมักของดองมักจะเป็นขวด หรือไห ชนิดต่างๆ ซึ่งจะต้องมีไม้เป็นท่อนกลมๆ ที่มีขนาดเท่าๆ กับปากขวด หรือไห นั้นเป็นที่ปิด เวลาปิดจะมีกรรมวิธีต่างๆ ที่ทำให้ฝาปิดเหล่านั้นแน่นที่สุดมิให้อากาศเข้าได้ ถึงเวลาจะเปิดจึงต้องมีอุปกรณ์ในการเปิด แต่บางคนก็มักง่ายใช้พร้าขนาดใหญ่ๆ มางัดออก แต่บางครั้งปิดแน่นมากๆ ขนาดนำพร้ามางัดฝาปิดปาก มันก็ไม่ออก จึงเป็นที่มาของสำนวนนั่นเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ อาการที่นิ่ง เงียบ ไม่ค่อยพูด ไม่ยอมเปิดปาก

ใช้พูดถึงคนที่พูดน้อยมาก คนที่ปิดปากเงียบอยู่ตลอดเวลา หรือไม่ยอมพูดอะไร ชนิดที่ว่า พร้างัดปากไม่ออก ไม่ว่าจะใช้วิธีบังคับ หรือหว่านล้อมอย่างไรก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยพร้างัดปากไม่ออก

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตพร้างัดปากไม่ออก

  • เขารู้สึกมีปมด้อย ตอนเด็กๆ เพื่อนมักชอบล้อเลียนที่เขาพูดไม่ชัดครั้นโตมาเลยเป็นพวกพร้างัดปากไม่ออก
  • ผู้ที่กระทำความผิดแม้จะถูกจับได้ ก็มักจะไม่ยอมเปิดปากพูด พร้างัดปากไม่ออก ทำอย่างไร ก็ไม่ยอมพูดอะไร แม้จะมีหลักฐาน บางคนก็ยังไม่ยอมรับ ต้องส่งฟ้องศาลให้จำนนต่อหลักฐานอย่างเดียว
  • เจ้าจงพูดน้อยแบบพร้างัดปากไม่ออก ดีกว่าพูดแกว่งปากหาเสี้ยนไปเรื่อยนะลูก
  • พอเขาถูกจับโกหกได้ก็ได้แต่นั่งก้มหน้านิ่งเงียบ ไม่พูดไม่จาอะไรเลย อุปมาเสมือนดั่งว่า เป็นคนที่พร้างัดปากไม่ออก
  • คนที่ปากหนัก สุขุมนุ่มลึก ไม่ค่อยพูดมาก ซึ่งคนกลุ่มนี้มักทำมากกว่าพูด หรือที่ชอบเรียกกันว่าพูดน้อยต่อยหนัก

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ พ. เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก

ที่มาของสำนวน สำนวนนี้พูดได้อย่างตรงตัวโดยมาจากมิตรสหาย โดยเพื่อนในสำนวน จึงเป็นทั้งเพื่อนกิน และเพื่อนตายของคนไทยในยุคที่ก้าวเข้าสู่สมัยใหม่ หรือความทันสมัย

และถึงแม้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เพื่อน’ ของผู้คนในสังคมไทยยุคก่อนที่ล่วงเข้าสู่ความทันสมัย จะมีดีกรีผิวเผิน และชืดชาในระดับของ ‘คนรู้จัก’ ที่มีกันให้เกลื่อนในชีวิตของใครต่อใคร แต่ ‘เพื่อนตาย’ ของคนในยุคโน้นก็คงหาได้ยากกว่าบางคนในยุคนี้อยู่ดี

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ เพื่อนที่คอยประจบคบเราเพื่อหวังผลประโยชน์เข้าตัวนั้นหาง่าย ส่วนเพื่อนที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขในยาทที่เราลำบากมีปัญหานั้นหายาก

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก

  • เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายากจริงๆฉันเคยช่วยเหลือเขายามที่เขาลำบาก แต่ตอนนี้ถึงคราวฉันลำบากแต่เพื่อนทั้งหลายก็ทำเป็นไม่รู้จักกัน
  • เพื่อนกินหาง่าย แต่เพื่อนตายได้นาฬิกา หรือเพื่อนที่ว่าคือความหมายก่อนยุคทันสมัย ก็บางคนเขามีเพื่อนตายมากเสียจนมีนาฬิกาหรู 20 กว่าเรือนกันเลยนี่เนอะ
  • สมชายถูกรางวัลที่หนึ่งได้เงินมาหลายล้าน เมื่อเพื่อนๆ ของเขาทราบข่าว ก็พากันมาหาเขา ด้วยความรักเพื่อนสมชายก็ซื้อของแจกเพื่อน บ้างก็พาไปเลี้ยงร้านหรู เมื่อเธอเงินหมดและจำเป็นจะต้องใช้เงิน โทรหาเพื่อนคนไหนก็ไม่มีใครรับสาย นี่แหละเพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก
  • ลองคิดดีๆนะว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้ จริงๆแล้วเขาหวังผลประโยชน์อะไรจากเธอหรือเปล่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายากนะ
  • ‘เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก’ คงจะเป็นอีกหนึ่งสุภาษิตที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ แถมมักจะนึกเอง เออเอง บวกเข้าด้วยการมโนกันไปเองว่า สุภาษิตบทนี้คงจะเก๋ากึ้กระดับปฐมบรมเก่าทีเดียว แต่เอาเข้าจริงแล้ว สุภาษิตที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นไอแบบฝรั่งจ๋ามาแต่ไกล

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยเพื่อนเราเผาเรือน ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ พ. เพื่อนเราเผาเรือน

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเพื่อนเราเผาเรือน

ที่มาของสำนวน เปรียบถึงเพื่อนสนิทเราคิดไม่ดีกับเรา ต้องการเผาทำลายบ้านเรือนของเรา ในที่นี่หมายถึง การกระทำหักหลัง ทำไม่ดีต่างๆ นาๆ ต่อเรา

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ เพื่อนสนิท หรือคนที่เราไว้ใจแต่เขาไม่จริงใจ และกลับนำความเดือดร้อนมาให้ หรือหักหลังเพื่อนกันเองโดยที่เราไม่เคยได้ระแวง

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยเพื่อนเราเผาเรือน

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเพื่อนเราเผาเรือน

  • เพื่อนเราเผาเรือน เพราะความสนิทชิดใกล้ มันเปลี่ยนหัวใจบางคน
  • สองคนนี้เคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เพื่อนเราเผาเรือน เลยทำให้ทั้งคู่มีเรื่องบาดหมางใจกันจนถึงทุกวันนี้
  • ไม่คิดเลยว่าเพื่อนเรา(จะ)เผาเรือนเพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ ขนาดนี้เสียทีที่คบหากันมาตั้งนาน
  • ไม่คิดเลยว่าเพื่อนที่สนิทที่สุดจะหักหลังกันได้ อุส่าต์ให้ความช่วยเหลือทุกครั้งที่หล่อนมีปัญหา แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเพื่อนเราเผาเรือน
  • ไอ้เราก็ไว้เนื้อเชื่อใจมันให้มันมาทำงานด้วย สุดท้ายกลับยักยอกเงินบริษัทไปแบบนี้มันเพื่อนเราเผาเรือนแท้ๆ
  • เธอโทรหาฉันในวันที่นอนอยู่ข้างใคร เธอกอดเพื่อนฉัน ปากบอกว่ารักฉันมากมาย เพื่อนเราจ้องจะเผาเรือน ซ้ำเธอเองยังยื่นไฟ เด็ดจริงจริงน้ำใจ รักกันมาเท่าไหร่ ยังเชือดลง

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยพอก้าวขาก็ลาโรง ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ พ. พอก้าวขาก็ลาโรง

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยพอก้าวขาก็ลาโรง

ที่มาของสำนวน คนสมัยก่อนเปรียเปรยถึงพฤติกรรมมัวแต่โอ้เอ้กว่าจะก้าวขาเดินทางออกจากบ้านได้ โขน ละคร หรือลิเก ที่กำลังแสดงอยู่ ก็เลิกทำการแสดงแล้ว กล่าวคือไปไม่ทันได้ชม โขน ละคร หรือลิเก เพราะมัวโอ้เอ้เอาแต่แต่งหน้า ทาแป้ง หรือเลือกเสื้อผ้าที่จะสวมใส่อยู่ แสดงว่าทำอะไรไม่ทันเหตุการณ์

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ บุคคลที่ทำอะไรอืดอาดยืดยาดโอ้เอ้ชักช้าไม่ทันเหตุการณ์ ชักช้าจนทำให้เสียการ

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยพอก้าวขาก็ลาโรง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตพอก้าวขาก็ลาโรง

  • โลกเขาไปต่อไหนถึงกันแล้ว นายยังยึดติดกับสิ่งเดิมๆ พอก้าวขาก็ลาโรงจริงๆ แบบนี้
  • ที่ธุรกิจของเขาต้องเป็นผู้ตามอยู่ตลอดเวลาเพราะเป็นพวกพอก้าวขาก็ลาโรง กว่าจะคิดทำการตลาดส่งเสริมการขายก็ช้ากว่าคู่แข่งทุกที
  • เธอเสียเวลากับการแต่งตัวโอ้เอ้ชักช้านานเกินไป จึงไปไม่ทันรถเที่ยวแรก เพราะพอก้าวขาก็ลาโรงแล้ว
  • ถ้าเธอคิดจะทำสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับพวกนี้ต้องตามแฟชั่นให้ทัน พอจับกระแสได้ก็ลงมือทันทีเลย ไม่ใช่กว่าจะลงมือทำพอก้าวขาก็ลาโรงแล้ว
  • นี่สมชาย! ให้เกียรติคนอื่นด้วยการเคารพเวลาของคนอื่นด้วย ไม่ใช่พอก้าวขาก็ลาโรง ทำธุรกิจ ทำงานการทำงานนะ ไม่ใช่เด็กเล่นขายของ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยแพแตก ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ พ. แพแตก

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยแพแตก

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงแพไม้ไผ่ หรือไม้ซุงได้แตกแยกออกจากกันกระจัดกระจาย ลอยไปตามกระแสน้ำจนไม่มีสภาพเป็นแพอยู่อีกแล้ว

ตามปกติธรรมดาธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแพไม้ไผ่ หรือแพซุง หรือแพอะไรก็แล้วแต่ ที่มันสามารถอยู่รวมกันเป็นแพได้ เพราะมีเชือกมัดเหนี่ยวรั้งให้มันอยู่รวมกัน เมื่อเชือกขาดไม่ว่าไม้ไผ่ หรือไม้ซุงก็ย่อมถูกน้ำพัดให้กระจัดกระจายไปไม่สามารถที่จะรวมกันเป็นแพต่อไปได้

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ลักษณะที่ครอบครัวแตกกระจัดกระจายกันไปเพราะขาดผู้นำครอบครัว หรือญาติพี่น้องหรือคนที่เคยอยู่ร่วมกันกระจัดกระจายกันไป

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยแพแตก

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตแพแตก

  • หลังจากที่บริษัทล้มละลายก็เหมือนแพแตกพนักงานเก่งๆ ที่มีอยู่ก็แยกย้ายไปคนละทิศละทาง เพื่อเอาตัวรอดกันต่อไป
  • เมื่อถึงคราวเทศกาลวันสงกรานต์ หรือเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ตลอดกระทั่งวันเข้าพรรษา หรือวันออกพรรษา พวกเหล่าลูกๆหลานๆ ต่างก็จะถือโอกาสมาเคารพกราบไหว้พ่อแม่ และทำบุญทำทานด้วย เมื่อสิ้นบุญท่านไปแล้ว ลูกๆ ต่างก็แยกย้ายกันไปตามแต่ชะตาชีวิต ไม่มีวันที่จะหวนคืนมารวมกันได้อีก เหมือนเมื่อครั้งที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่วันสงกรานต์ก็ยังกลับมาบ้านมารดน้ำดำหัว และ ขอพรพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่เสียชีวิตไปแล้วก็คงหาจุดยึดเหนี่ยวไม่ได้ก็เปรียบเสมือนหนึ่งว่าแพแตก
  • คุณแม่เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวในอดีตที่เมื่อคุณตาเสียชีวิต ตอนนั้นก็เหมือนแพแตก ญาติพี่น้องต่างคนต่างไปกันคนละทิศละทาง แต่ละคนต้องดิ้นรนเพื่อชีวิตในวันข้างหน้า กว่าญาติพี่น้องจะได้มาพบเจอกันอีกก็ผ่านไป 30 กว่าปีแล้ว
  • พ่อและแม่ เป็นศูนย์รวม เป็นที่ยึดเหนี่ยวของลูกๆทุกคน โบราณกล่าวไว้ว่า สิ้นพ่อสิ้นแม่เหมือนแพแตก ลูกๆ ต่างก็กระจัดกระจายแยกย้ายกันไปเหมือนดังแพแตก ไม้ซุงต่างก็ถูกน้ำพัดพรากจากกันไปคนละทิศคนละทาง
  • ในเมื่อศูนย์กลางที่เป็นที่เคารพได้จากไปแล้ว ถึงคราวต้องแพแตก ทุกคนต้องไปมีชีวิตของตัวเองต่อไป

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยพ่อพวงมาลัย ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ พ. พ่อพวงมาลัย

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยพ่อพวงมาลัย

ที่มาของสำนวน มาจากบทละครเรื่องสังข์ทอง ตอนรจนาเลือกคู่ กล่าวถึงนางรจนา ธิดาคนสุดท้องของท้าวสามลออกมาเลือกคู่ ครั้งแรกออกมาเลือกพร้อมด้วยพี่นางทั้งหก กับกษัตริย์ร้อยเอ็ดหัวเมือง แต่ไม่ชอบใจใคร จึงไม่ได้มอบพวงมาลัยให้ผู้ใด

ท้าวสามลขัดใจจึงให้เกณฑ์คนมาทั้งเมืองให้เลือกใหม่ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ตลอดจนพระสังข์ทอง ซึ่งปลอมเป็นเงาะเที่ยวเล่นอยู่กับเด็กเลี้ยงควายก็ไปพามาให้เลือก ครั้งหลังนี้ รจนาเพียงแต่อยากดูเงาะเท่านั้นเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ด้วยกุศลเคยเป็นเนื้อคู่กันมา จึงดลใจให้นางเห็นรูปจริงของพระสังข์ซึ่งซ่อนอยู่ชั้นใน ก็ต้องใจรัก จึงเสี่ยงพวงมาลัยให้เจ้าเงาะ

จึงเปรียบถึงชายหนุ่มที่ปล่อยตนตามสบายๆ ยังไม่ได้ทำการทำงานเป็นหลักฐานมั่นคง เปรียบเสมือนดั่งนางรจนาที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกผู้ใดมาเป็นคู่ครอง จึงถือพวงมาลัยวนไปวนมา และมองดูเจ้าชายจากร้อยเอ็ดหัวเมืองที่มาให้เลือกคู่ไปเรื่อยๆ โดยไม่มอบให้ผู้ใดนั่นเอง

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ชายที่ปล่อยชีวิตตามสบาย ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่ยอมตั้งตัวหรือทําการงานเป็นหลักฐาน

สำนวนนี้ใช้ไว้สอนและเตือนสติผู้ชายในการครองตนถ้ามัวแต่โอ้เอ้ไปมา ปล่อยตัวไปตามสบายๆ เรื่อยๆ ไม่ทำการทำงานเป็นหลักฐาน ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน นั่นก็คือทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยพ่อพวงมาลัย

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตพ่อพวงมาลัย

  • เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องสร้าง ทำตามฝัน มีเป้าหมายชีวิต ไม่ใช่ทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยไปวันๆ แบบนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนเขาเอาหรอก
  • คุณตาเห็นหลานชายของตระกูลยังทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย ไม่ลงมือทำอะไรเสียทีจึงวางแผนบังคับให้เขามารับหน้าที่บริหารงานในบริษัท
  • มาลีต้องการสร้างครอบครัว แต่แฟนของเธอยังทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย ปล่อยตัวไปตามสบายๆ ไม่รู้ว่าเธอต้องรอไปถึงเมื่อไหร่
  • แพรวอยากจะแต่งงานสร้างครอบครัวแต่แฟนหนุ่มขอเธอยังทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยลอยไปลอยมาวันๆ ไม่มีเป้าหมายเสียที ไม่รู้ว่าเธอต้องรอไปถึงเมื่อไหร่
  • สมชายทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยไปวันๆ อยู่ไปวันๆ ตามประสาคนชิลๆ ก็ไม่ผิดแปลกอะไร ถ้าเขาทำในสิ่งที่เขามีความสุข แค่ไม่เดือดร้อนคนอื่นก็พอ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยมะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมี ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ม. มะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมี

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยมะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมี

ที่มาของสำนวน มาจากธรรมชาติของต้นมะพร้าวที่ออกลูกครั้งแรกนั้นจะดกจนน่าตกใจ ซึ่งไม่เคยพบมาก่อนหรือผิดปกติ ตามธรรมชาติของมะพร้าวจะออกจั่นประมาณ 8-10 จั่นเท่านั้น และแต่ละจั่นจะเติบโตกลายมาเป็นทะลายไม่ถึง 10 ทะลาย

ถ้าหากมะพร้าวต้นใดออกจั่นมากกว่า 10 จั่นขึ้นไป เจ้าของย่อมแสดงอาการผิดปกติเพราะดีใจหรือแปลกใจมากๆ อุปมาอุปไมยกับ “ยาจกตื่นมี” ซึ่งหมายถึง คนยากไร้ที่ไม่ค่อยมีเงินทอง ประสบโชคลาภได้เงินจำนวนมากโดยไม่คาดฝัน ก็ดีอกดีใจเลี้ยงฉลองกันใหญ่โตด้วยไม่เคยได้โชคลาภเงินทองมากมายมาก่อน

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ อาการของคนเห่อหรือตื่นเต้นในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมีไม่เคยได้ จนออกหน้าเกินพอดี

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยมะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมี

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตมะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมี

  • ในที่สุดฉันก็ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเสียที รอมาเกือบทั้งชีวิต ขอดีใจแบบมะพร้าวตื่นดก ยาจากตื่นมี สักวันเถอะ
  • ดูสามีภรรยาคู่นั้นซิทำเป็นพวกมะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมีไปได้ ตั้งแต่ลูกชายเขาซื้อรถมาให้ทั้งคู่ก็พากันอวดรถยนต์ ขับรถวนโชว์รอบหมู่บ้านได้ทุกวี่ทุกวัน
  • โคลงกระทู้สุภาษิต มะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมี เอาไว้ดังนี้ “มะพร้าว หมากชุ่มชื้น นองชล ตื่นดก ดอกออกผล เพียบพื้น ยาจก ที่แสนจน รับแจก ทานแฮ ตื่นมี ดีใจล้น โลดเต้นตามกัน”
  • เขาว่าคนรวยจริงมักจะไม่อวดรวย แต่คนไม่เคยรวยมักจะอวดรวย เขาใช้คำว่า มะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมี เขาว่าได้แสบมาก คนทั้งหลายเหล่านี้ขาดความมั่นใจในตนเอง ก็เลยต้องเอาเครื่องประดับมาช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ ทำให้กลายเป็นเป็นประเภทตู้เพชรตู้ทองเคลื่อนที่
  • สมชายเหมือนนั่งทับทอง นายทุนมาซื้อที่ดินของเขา ด้วยเงินมหาศาล ดีใจเหมือนมะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมี สบายไปทั้งชาติเลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ฟ. ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

ที่มาของสำนวน สำนวนสุภาษิตนี้เปรียบเปรยถึงท้องฟ้าซึ่งอยู่สูงมาก แต่แผ่นดินนั้นต้อยต่ำกว่าท้องฟ้ามาก ซึ่งถูกนำมาใช้ในการเปรียบถึงความแตกต่างของชนชั้นวรรณะ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การให้รู้จักกาละเทศะ รู้ว่าสิ่งไหนควรทำสิ่งไหนไม่ควรทำ ปฏิบัติตัวให้เหมาะกับฐานะของตนเอง รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่ไปตีตนเสมอด้วย

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

  • การหลบหลู่สิ่งที่คนอื่นเขาศรัทธา ช่างไร้มารยาท เห็นต่างได้ แต่ไม่ควรไปหลบหลู่คนอื่น ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ รู้ไว้เสียบ้าง
  • คุณเป็นใครถึงไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำมาทำตัวตีเสมอกับท่าน หัดเจียมเนื้อเจียมตัวเสียบ้าง อย่าอาจเอื้อมให้มากนักไม่อย่างนั้นคุณจะอยู่ที่นี่ลำบาก
  • แพมเป็นลูกสาวคุณหญิงอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ ส่วนสุระเป็นลูกคนจนอยู่กระท่อมปลายนา แม้ว่าทั้งสองจะรักกัน แต่สุระรู้ดีว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ จึงพยายามตีตัวออกห่างจากแพม
  • คนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรอย่างเขาคงไม่สามารถดำรงอยู่ในตำแหน่งนี้ได้นานนักหรอก
  • กว่าผมจะเป็นใหญ่เป็นโตได้ ผมถ่อมตัว และทำงานหนักมาโดยตลอด ผมรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ และให้เกียรติผู้อื่นเสมอ

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยพาลีหลายหน้า ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ พ. พาลีหลายหน้า / พาลีสองหน้า

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยพาลีหลายหน้า

ที่มาของสำนวน มาจากวรรณคดีเรื่องเรื่องรามเกียรติ์ ลิงที่ชื่อว่า “พาลี” เป็นตัวละครตัวหนึ่งในเรื่อง โดยเป็นลิงได้เปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองจากเดิมที่เคยประกอบคุณงามความดี ไปเป็นลิงที่มีความโลภมีตัณหาราคะ แย่งเอาภรรยาน้องชาย

ครั้นพาลีและสุครีพสามารถยกเขาพระสุเมรุกลับมาตั้งตรงได้อีกครั้ง พระอิศวรก็มอบโบนัสพิเศษมากมายแก่พญากากาศ(พาลี) พลางมอบของสมนาคุณ(คือนางดารา) ไปให้สุครีพ

แต่พระนารายณ์ดันท้วงว่าเป็นการฝากปลาย่างไว้กลับแมวพาลีจึงให้สัญญาว่าถ้าตนเอานางดาราไปเป็นเมียขอให้ตายด้วยศรของพระนารายณ์ ต่อมาพาลีก็เอานางมาเป็นเมียในที่สุด

หรือจะเรียกสำนวนนี้อีกอย่างหนึ่งว่า พาลีสองหน้า

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่พูดจากลับกลอก ปลิ้นปล้อนไม่มีความจริงใจ และไม่ซื่อสัตย์

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยพาลีหลายหน้า

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตพาลีหลายหน้า

  • คนสมัยนี้ไว้ใจได้ยากในสังคมเมืองที่มีแต่แย่งชิงผลประโยชน์กัน บางคนเป็นพาลีสองหน้า ทำตัวกลับกลอก ยามไม่มีเข้าหาตลอด ยามมั่งมีไม่เห็นแม้แต่เงา
  • คนอย่างเธอก็เหมือนพาลีหลายหน้า ทำมาเป็นให้ความร่วมมือเข้าร่วมกลุ่มด้วย แต่กลับฝักใฝ่อีกฝ่ายวางแผนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
  • เขาดูหน้าตาซื่อๆแต่งตัวเรียบร้อยพูดจาสุภาพ แต่ที่แท้เขาก็คือพาลีหลายหน้า ดีๆ นี่เอง พูดจากลับกลอกหลวกลวงไม่ซื่อสัตย์ และ ไว้เนื้อเชื่อใจไม่ได้
  • หลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้รู้ว่าฉันรักผิดคน แฟนของฉัน เขาเป็นพวกพาลีหลายหน้าพูดจากลับกลอก ไม่มีความจริงใจเลยจริงๆ
  • จะร่วมงาน ร่วมธุรกิจกับใคร ต้องดูนิสัยใจคอให้ดี พวกพาลีสองหน้ามันมีเยอะในสังคม อย่างน้อยๆ ก็ควรจะรู้ที่มา ที่มาไป นิสัยใจคอของเขาเสียก่อน

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube

สุภาษิตคำพังเพยพูดคล่องเหมือนล่องน้ำ ความหมาย, รูป, ตัวอย่าง

สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ พ. พูดคล่องเหมือนล่องน้ำ

ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยพูดคล่องเหมือนล่องน้ำ

ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยการพูดกับธรรมชาติการไหลของน้ำ จึงเปรียบว่าพูดไหลลื่นอย่างเป็นธรรมชาติราวกับสายน้ำกำลังไหลไปเรื่อยๆ

สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การพูดไม่ติดขัด พูดได้อย่างไหลลื่นเหมือนน้ำไหล เช่น สารพัดพูดคล่องเหมือนล่องน้ำ (ไกรทอง) พูดคล่องเป็นล่องน้ำ ก็ว่า

รูปความหมายของสุภาษิตคำพังเพยพูดคล่องเหมือนล่องน้ำ

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตพูดคล่องเหมือนล่องน้ำ

  • การขายงานวันนี้แพมทำได้ดีมากๆ เลย พูดคล่องเหมือนล่องน้ำ ลูกค้าสนใจ และปิดการขายได้ ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ
  • กว่าฉันจะพูดคล่องเหมือนล่องน้ำต่อหน้าคนเยอะๆ ได้แบบนี้ ฉันต้องฝึกฝนมาเป็นเวลานาน ผ่านประสบการณ์การพูดมาหลายเวที
  • พระมหาสมปองบรรยายธรรมได้เก่งจริงๆ ท่าน “พูดคล่องเหมือนล่องน้ำ ” คนฟังทั้งหอประชุมฟังไป ยิ้มไป และ ฮาไปตลอดเวลา
  • คุณสมชายวิทยากรที่มาบรรยายในวันนี้เก่งจริงๆ พูดคล่องเหมือนล่องน้ำ และยังสามารถสะกดคนฟังทั้งหอประชุมได้อยู่หมัด
  • วิชิตจีบสาวเก่งมาก เวลาเจอสาวๆ พูดคล่องเหมือนล่องน้ำเลย จนทำให้สาวๆ หลงรักเขาหลายคนเลย

สำนวนสุภาษิตอื่นๆ

Thai Proverb Youtube