“ม้าจอมเย่อหยิ่งกับลาผู้ถ่อมตัว” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงคุณค่าของการถ่อมตน การทำงาน รักในสิ่งที่ตัวเองทำ แม้อาจจะไม่ยิ่งใหญ่ แต่มันสร้างคุณค่าให้ตัวเอง ผู้อื่น และโลกใบนี้
นิทานอีสปเรื่องม้าจอมเย่อหยิ่งกับลาผู้ถ่อมตัว
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีม้าและลาตัวหนึ่งเป็นนายคนเดียวกัน ม้าแข็งแรง สง่างาม ใครๆ ก็ชื่นชม ส่วนลาถ่อมตัว ทำงานหนัก และมักถูกมองข้าม อยู่มาวันหนึ่ง เจ้านายตัดสินใจเดินทางไกล และต้องการสัตว์แบกภาระของเขา
Once upon a time, there was a horse and an ass who were owned by the same master. The horse was strong, graceful, and admired by everyone, while the ass was humble, hardworking, and often overlooked. One day, the master decided to go on a long journey and needed a beast of burden to carry his load.
ม้าผู้หยิ่งยโสในรูปร่างหน้าตาของมัน และเกลียดความคิดที่ต้องแบกภาระ จึงพูดกับลาว่า “เจ้าควรแบกภาระนี้ไว้ เพราะนั่นคือสิ่งที่เจ้าถนัด ข้าช่างสูงส่งและน่าเกรงขามเหลือเกินสำหรับงานอันต่ำต้อยเช่นนี้” ลา แม้ในตอนแรกจะเจ็บปวดกับคำพูดของม้า แต่ก็ตอบอย่างใจเย็นว่า “จริงอยู่ว่าข้าไม่ยิ่งใหญ่เท่าเจ้า แต่ข้าเต็มใจทำงานที่ต้องทำให้เสร็จ”
The horse, proud of his appearance and despising the thought of carrying burdens, said to the ass, “You should carry the load, for that is what you are good at. I am far too noble and majestic for such menial tasks.” The ass, although initially hurt by the horse’s words, replied calmly, “It is true that I am not as grand as you, but I am willing to do the work that needs to be done.”
เมื่อการเดินทางเริ่มขึ้น ม้าก็เดินเพ่นพ่านเดินไปตามถนน ส่วนลาก็แบกของหนักไว้บนหลังโดยไม่บ่นสักคำ อย่างไรก็ตามระหว่างทางม้าเกิดสะดุดล้มลงไม่สามารถไปต่อได้ เจ้านายรู้สึกผิดหวัง และทิ้งม้าไว้ข้างหลัง ที่ไม่สามารถทำตามจุดประสงค์ได้
As the journey began, the horse pranced and strutted along the road, while the ass carried the heavy load on his back without complaint. However, along the way, the horse stumbled and fell, unable to continue. The master was disappointed and left the horse behind, unable to fulfill his purpose.
ระหว่างนั้น ลาก็บรรทุกของไปด้วย เดินไปเรื่อยๆ ตลอดทาง แม้จะมีรูปลักษณ์ที่เจียมเนื้อเจียมตัว แต่ลาก็พิสูจน์แล้วว่าเชื่อถือได้และมีความสามารถ เมื่อพวกเขาไปถึงที่หมาย นายก็ตระหนักถึงคุณค่าของการทำงานหนักของลา และชมเชยในความขยันหมั่นเพียรของมัน
Meanwhile, the ass carried on with the load, steadily plodding along the journey. Despite his modest appearance, the ass proved to be reliable and capable. When they reached their destination, the master realized the value of the ass’s hard work and praised him for his diligence.
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“สิ่งสำคัญคือต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนและเต็มใจที่จะปฏิบัติงานที่จำเป็น โดยไม่คำนึงถึงความสำคัญหรือสถานะในชีวิตของคุณ การทำงานหนักและความน่าเชื่อถือมักนำไปสู่การได้รับการยอมรับและความสำเร็จ”
- คุณค่าของความอ่อนน้อมถ่อมตน: เรื่องราวเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของความอ่อนน้อมถ่อมตนและการตระหนักถึงคุณค่าของงานทุกชิ้น ไม่ว่างานนั้นจะดูต่ำต้อยเพียงใด ความเต็มใจของลาที่จะทำงานที่ต้องทำให้เสร็จแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตัวละครของมัน
- การปฏิบัติตามความรับผิดชอบ: เรื่องราวนี้สอนเราว่าการปฏิบัติตามความรับผิดชอบและหน้าที่ของเราเป็นสิ่งสำคัญ การปฏิเสธของม้าที่จะแบกภาระทำให้เขาล้มลงในขณะที่ความตั้งใจของลาที่จะแบกภาระทำให้เขาประสบความสำเร็จ
- หลีกเลี่ยงความเย่อหยิ่ง: เรื่องราวเตือนถึงอันตรายของความเย่อหยิ่งและความจองหอง ความเย่อหยิ่งของม้าและความเชื่อในความเหนือกว่าของมันขัดขวางไม่ให้เขาทำตามจุดประสงค์ ในขณะที่ความอ่อนน้อมถ่อมตนและความทุ่มเทของลาทำให้เขาประสบความสำเร็จ
- การตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริง: เรื่องราวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตระหนักถึงคุณค่าและคุณค่าที่แท้จริงของปัจเจกบุคคลนอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอก แม้ว่าลาจะถูกมองข้ามในตอนแรก แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าเชื่อถือได้และสามารถทำงานของมันได้
“It’s important to be humble and willing to perform tasks that are necessary, regardless of their perceived significance or your station in life. Hard work and reliability often lead to recognition and success.”
- Value of humility: The story highlights the importance of humility and recognizing the worth of every task, no matter how menial it may seem. The ass’s willingness to do the work that needed to be done demonstrated the strength of his character.
- Fulfilling responsibilities: The story teaches us that it is essential to fulfill our responsibilities and duties. The horse’s refusal to carry the load led to his downfall, while the ass’s willingness to carry the burden led to his success.
- Avoiding arrogance: The story warns against the dangers of arrogance and pride. The horse’s arrogance and belief in his superiority prevented him from fulfilling his purpose, while the ass’s humility and dedication allowed him to succeed.
- Recognizing true worth: The story emphasizes the importance of recognizing the true worth and value of individuals beyond their outward appearance. The ass, despite being overlooked initially, proved to be reliable and capable in carrying out his tasks.
โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนให้เราน้อมรับความอ่อนน้อมถ่อมตน ปฏิบัติตามความรับผิดชอบของเรา หลีกเลี่ยงความเย่อหยิ่ง และเห็นคุณค่าที่แท้จริงของตนเองและผู้อื่น ด้วยการรวบรวมคำสอนเหล่านี้ เราสามารถมีชีวิตที่สมดุลและเติมเต็มมากขึ้น ตระหนักถึงคุณค่าในงานทั้งหมดและเคารพในการมีส่วนร่วมของผู้อื่น