สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ก. กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้
ความหมายสุภาษิตคำพังเพยกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้
ที่มาของสำนวนคือ เป็นสำนวนเชิงเปรียบเปรยว่าเมื่อเข้าครัวทำอาหารถ้าจะรอถั่วสุก งาก็คงจะไหม้เสียก่อน เปรียบเสมือนทำสองอย่างพร้อมกัน ทำแบบลังเลใจ แก้ปัญหาไม่ทัน งานแรกคือถั่ว งานสองคืองา ดูแต่ถั่ว แต่ไม่ทันการณ์งาก็ไหม้ไปเสียแล้ว
สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ลักษณะของการทำงานที่มีความลังเลใจ ทำให้แก้ไขปัญหาได้ไม่ทันท่วงที ไม่ยอมตัดสินใจสักที ไม่กล้าตัดสินใจ หรือมัวแต่ลังเลใจ จนทำให้งานเสียหาย ทำให้แก้ปัญหาได้ไม่ทันการณ์ เมื่อได้อย่างหนึ่งแล้ว กลับต้องเสียอีกอย่างหนึ่งไป ไม่มีการวางแผนที่เป็นระบบ ดุจเอาถั่วกับงามาคั่วพร้อมกัน กว่าจะคั่วจนถั่วสุก งาก็จะไหม้หมดไปก่อน
ตัวอย่างการใช้สุภาษิตกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้
- ปัญหายาเสพติดในโรงเรียนเป็นปัญหารุนแรง น่าจะมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ไม่ใช่มัวแต่รอให้ครูสอนนักเรียนให้ตระหนักเรื่องโทษภัยของยาเสพติด ถ้ารอขนาดนั้นเด็กก็อาจจะติดยาไปกันหมดแล้ว กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้
- ตอนนี้พวกเราต้องรีบหาทางแก้ไขสถานการณ์ ไม่ใช่มัวแต่มาเถียงกันว่าเป็นความผิดของใคร กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้แล้ว บริษัทเราก็เสียชื่อเสียง ล่มจมกันพอดี
- เต้ยเป็นคนชอบทำงานหลายอย่างพร้อมกัน และมักจะไม่ได้งานที่ดี ลูกค้าหลายๆ คนจึงยกเลิกงานไป เต้ยเป็นคนที่ว่ากว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ รับหลายงาน สุดท้ายก็เสียหลายงานเช่นกัน
- ตอนนี้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมปฏิบัติการณ์แล้ว แต่ถ้าหากเราต้องรอผู้บังคับบัญชามาเซ้นต์อนุมัติ เกรงว่าจะไม่ทันการ เข้าทำนองกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้
- ข้อคิดจากสมชยทำให้รู้จักคำว่ากว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้จริงๆ สมชายเป็นคนโลเล ไม่กล้าตัดสินใจ แต่กว่าจะตัดสินใจได้ ก็เสียงานเสียการไปแล้ว แย่เลยแบบนี้