นิทานอีสป เรื่อง “คนเลี้ยงแกะหนุ่มกับราชสีห์” ไทย-Eng

นิทานอีสปคนเลี้ยงแกะหนุ่มกับราชสีห์ ไทย-Eng

“คนเลี้ยงแกะหนุ่มกับราชสีห์” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงคุณค่าของความเมตตากรุณา ความเห็นอกเห็นใจจะให้สิ่งที่ดีเรากลับมา และการแสดงความเคารพซึ่งกันและกัน

นิทานอีสปเรื่องคนเลี้ยงแกะหนุ่มกับราชสีห์

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมชายป่าทึบ เขาใช้เวลาทั้งวันดูแลฝูงแกะ พาพวกมันออกไปกินหญ้าในทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม และปกป้องพวกมันจากอันตรายที่ซุ่มซ่อนอยู่

Once upon a time, a young shepherd lived in a village nestled at the edge of a dense forest. He spent his days tending to his flock of sheep, leading them to graze in the lush meadows and guarding them from any lurking danger.

บ่ายวันหนึ่งที่แดดจ้า ในขณะที่ฝูงแกะกำลังเล็มหญ้าอย่างสงบ ราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่ตัวหนึ่งก็โผล่ออกมาจากส่วนลึกของป่า คนเลี้ยงแกะหนุ่มตกใจเมื่อเห็นนักล่าที่ดุร้ายตัวสั่นด้วยความกลัว เขารู้ว่าชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

One sunny afternoon, while the sheep were peacefully grazing, a mighty lion emerged from the depths of the forest. The young shepherd, startled by the sight of the fierce predator, trembled with fear. He knew that his life was in grave danger.

อย่างไรก็ตาม ราชสีห์ทำให้คนเลี้ยงแกะประหลาดใจด้วยการพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและสง่างาม “อย่ากลัวเลย คนเลี้ยงแกะหนุ่ม” ราชสีห์พูด “ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำร้ายเจ้า อันที่จริง ข้ามีเรื่องจะขอให้เจ้าช่วย”

However, the lion surprised the shepherd by speaking in a calm and dignified voice. “Fear not, young shepherd,” said the lion. “I am not here to harm you. In fact, I have a favor to ask of you.”

คนเลี้ยงแกะรู้สึกงุนงงแต่สนใจ จึงเข้าไปใกล้ราชสีห์อย่างระมัดระวัง “ท่านจะขอความช่วยเหลืออะไรจากข้าได้บ้าง” เขาถามโดยยังคงรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากสิ่งมีชีวิตที่น่าเกรงขาม

Baffled but intrigued, the shepherd cautiously approached the lion. “What favor could you possibly seek from me?” he asked, still keeping a safe distance from the formidable creature.

ราชสีห์อธิบายว่า “เจ้าเห็นไหม ข้าแก่และอ่อนแอ การล่าอาหารกลายเป็นเรื่องยากสำหรับข้า ข้าอยากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสงบและสุขสบาย ข้าได้ยินมาว่ามนุษย์ในหมู่บ้านนี้ ใจดีและเห็นอกเห็นใจ ข้าขอให้เจ้าแบ่งปันอาหารเพื่อที่ข้าจะได้อยู่รอด”

The lion explained, “You see, I am old and weak, and hunting for food has become increasingly difficult for me. I wish to live out the rest of my days in peace and comfort. I have heard that the humans in this village are kind-hearted and compassionate. I beseech you to allow me to share in the food from your flock so that I may survive.”

คนเลี้ยงแกะหนุ่มลังเล เลือกไม่ถูกระหว่างความกลัวราชสีห์กับความปรารถนาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลือ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตระหนักว่าการแสดงความเห็นอกเห็นใจและความเมตตาสามารถสร้างความแตกต่างในชีวิตของราชสีห์ได้

The young shepherd hesitated, torn between his fear of the lion and his desire to help a creature in need. After a moment of contemplation, he realized that showing compassion and mercy could make a difference in the lion’s life.

“เป็นการดี” คนเลี้ยงแกะพูด “ข้าจะให้อาหารบางส่วนแก่ท่าน แต่ท่านต้องสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายฝูงแกะของข้า เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการดำรงชีวิตและเป็นความรับผิดชอบของข้า”

“Very well,” said the shepherd, “I shall give you some of the sheep’s food. But you must promise not to harm any of my flock, for they are my livelihood and my responsibility.”

ราชสีห์ตกลงตามเงื่อนไขของผู้เลี้ยงแกะอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ราชสีห์กับคนเลี้ยงแกะก็อยู่ร่วมกันอย่างคาดไม่ถึง คนเลี้ยงแกะแบ่งปันอาหารส่วนหนึ่งของแกะกับราชสีห์ ผู้ซึ่งในทางกลับกันก็ปกป้องแกะจากนักล่าตัวอื่นที่กล้าเข้าใกล้ทุ่งหญ้า

The lion solemnly agreed to the shepherd’s condition. From that day on, the lion and the shepherd lived in an unexpected harmony. The shepherd shared a portion of the sheep’s food with the lion, who, in turn, protected the sheep from any other predators that dared to approach the meadows.

เวลาผ่านไปหลายเดือน ความแข็งแรงของราชสีห์ก็ดีขึ้น และมันก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนเลี้ยงแกะอีกต่อไป ขอบคุณความเมตตาของคนเลี้ยงแกะ ราชสีห์ตัดสินใจออกจากทุ่งหญ้าและกลับไปที่ส่วนลึกของป่า ซึ่งมันสามารถหาอาหารได้ด้วยตัวเอง

As the months passed, the lion’s strength improved, and he no longer needed the shepherd’s assistance. Grateful for the shepherd’s kindness, the lion decided to leave the meadows and return to the depths of the forest, where he could find food on his own.

ก่อนจากกัน ราชสีห์มองคนเลี้ยงแกะด้วยแววตาขอบคุณและพูดว่า “พ่อหนุ่ม เจ้าแสดงให้ข้าเห็นว่าแม้แต่สัตว์ที่ดุร้ายที่สุดก็สามารถเลี้ยงให้เชื่องได้ด้วยความเมตตาและความเข้าใจ ขอให้หัวใจของเจ้าได้รับพรด้วยความเมตตาเช่นเดียวกับที่เจ้าได้แสดงให้ข้าเห็น ”

Before parting ways, the lion looked at the shepherd with gratitude in his eyes and said, “Young man, you have shown me that even the fiercest of creatures can be tamed with kindness and understanding. May your heart be blessed with the same compassion that you have shown me.”

คนเลี้ยงแกะอำลาราชสีห์ด้วยรู้ว่าวันนั้นเขาได้เรียนรู้บทเรียนอันมีค่า

The shepherd bid farewell to the lion, knowing that he had learned a valuable lesson that day.

นิทานอีสปคนเลี้ยงแกะหนุ่มกับราชสีห์

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความเห็นอกเห็นใจและความเมตตาสามารถสัมผัสได้แม้กระทั่งหัวใจที่ดุร้ายที่สุดและนำไปสู่ความสามัคคีที่ไม่คาดคิด”

  • ความเห็นอกเห็นใจและความเมตตา: การแสดงความเมตตาของผู้เลี้ยงแกะที่มีต่อราชสีห์แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความเมตตาในการเชื่อมช่องว่างและสร้างมิตรภาพที่คาดไม่ถึง
  • เอาชนะความกลัว: แม้จะกลัวในตอนแรก แต่คนเลี้ยงแกะหนุ่มก็เลือกที่จะมองข้ามรูปลักษณ์ภายนอกและหาจุดร่วมกับราชสีห์
  • ความเคารพซึ่งกันและกัน: ราชสีห์กับคนเลี้ยงแกะหนุ่มพัฒนาความเคารพซึ่งกันและกัน เข้าใจความต้องการและขอบเขตของกันและกัน
  • มิตรภาพที่ไม่คาดคิด: เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นว่ามิตรภาพที่ไม่คาดคิดสามารถเบ่งบานได้อย่างไรเมื่อเราเข้าหาผู้อื่นด้วยใจที่เปิดกว้างและเต็มใจที่จะเข้าใจและช่วยเหลือ

“Compassion and kindness can touch even the fiercest hearts and lead to unexpected harmony.”

  • Compassion and kindness: The shepherd’s act of compassion towards the lion demonstrates the power of kindness in bridging gaps and building unexpected friendships.
  • Overcoming fear: Despite his initial fear, the young shepherd chose to look beyond appearances and find common ground with the lion.
  • Mutual respect: The lion and the shepherd developed a mutual respect for one another, understanding each other’s needs and boundaries.
  • Unexpected friendships: The story illustrates how unexpected friendships can blossom when we approach others with an open heart and a willingness to understand and help.

โดยรวมสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนเราถึงความสำคัญของการแสดงความเห็นอกเห็นใจ การเอาชนะความกลัว การส่งเสริมความเคารพซึ่งกันและกัน และการยอมรับมิตรภาพที่คาดไม่ถึง เป็นการเตือนใจเราว่าการแสดงความเมตตาสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีทั้งในชีวิตของเราและชีวิตของผู้อื่นที่อยู่รอบตัวเรา

นิทานอีสปเรื่องอื่นๆ

The Æsop for Children