สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ด. ได้ทีขี่แพะไล่
ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยได้ทีขี่แพะไล่
ที่มาของสำนวน มาจากตอนหนึ่งในนิทานเรื่องพระรถเมรี ที่พระรถเสนมอมเหล้านางเมรี ซึ่งเป็นยักษ์จนเมาไร้สติ เมื่อได้จังหวะพระรถเสนก็หนีไปเมื่อนางเมรีรู้เท่าทัน จึงได้ขี่แพะเป็นพาหนะไล่พระรถเสนไป เป็นตอนที่สนุกสนาน ตื่นเต้นที่สุดตอนหนึ่ง เรื่องพระรถเมรี
สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ผู้ที่ซํ้าเติมเมื่อผู้อื่นเพลี่ยงพลํ้าลง
โบราณท่านใช้เปรียบเทียบกับคนที่ชอลซ้ำเติมผู้อื่นเมื่อผู้อื่นผิดพลาดหรือเพลี้ยงพล้ำ ด้วยวัตถุประสงค์จะให้ผู้นั้นถูกมองว่าแย่หรือด้อยค่า และทำให้ตนเองดีดูขึ้น ในความเป็นจริงสำนวนได้ทีขี่แพะไล่นี้สามารถใช้ได้ทั้งแบบจริงจังและแบบหยอกล้อกันเล่น
ตัวอย่างการใช้สุภาษิตได้ทีขี่แพะไล่
- เมื่อวานไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนในหมู่บ้าน ปกติฝ่ายนั้นแพ้ตลอด พอเมื่อวานชนะไปแค่ลูกเดียว ก็เลยได้ทีขี่แพะไล่เลย
- กระต่ายตัวหนึ่ง เสียขาเดินไม่ได้ นอนอยู่ใต้ต้นไม้แห่งหนึ่งแพะตัวหนึ่งเสียตา เดินมาเที่ยวหากิน เกิดพลัดหลงกับเพื่อน เข้าไปอยู่ใกล้เจ้ากระต่าย กระต่ายกลัวจะหนีก็ไม่ได้ แต่เห็นแพะเสียตา เลยดีใจหายกลัว ทำดุขู่ แพะกลัว ขอยอมเป็นข้าให้กระต่ายใช้ กระต่ายดีใจ ขึ้นขี่หลังแพะเข้าไปในป่า ไปเจอช้างที่รับปากจะให้เสือกิน เล่นบทหลอกเสือ ช่วยช้างไว้ได้ กระต่ายเห็นเสือกลัว เลย “ได้ทีก็ขี่แพะไล่” เสือวิ่งหนีจนสิ้นแรง ลงนอนที่ใต้โคนไม้
- นางสมศรี พูดในที่ประชุมบริษัท เพื่อชี้จุดผิดพลาดของนางสมพร พร้อมทั้งยกตัวอย่างของตนที่ทำได้สำเร็จ ได้ทีขี่แพะไล่เลยนะนางสมศรี
- ผมไม่น่าพลาดเลยจริงๆ พอเสนองานไม่ผ่าน คนที่เป็นคู่แข่งคอยหาโอกาสทำร้ายก็เลยได้ทีขี่แพะไล่
- หยันมาตรฐานจริยธรรมรัฐบาล ‘เทพไท’ ได้ทีขี่แพะไล่ ยกสมัย ‘อภิสิทธิ์’ ออกกฎเหล็ก 9 ข้อให้ครม.ทำตาม