สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ก. เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยเก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
ที่มาของสำนวนคือ “เบี้ย” คือเปลือกหอยทะเลชนิดหนึ่ง ในสมัยก่อนเรียกว่าเบี้ยจั่น คนโบราณใช้แทนเงิน ซึ่งมีราคาต่ำสุด คือ 100 เบี้ย เท่ำกับ 1 อัฐ (หนึ่งสตำงค์ครึ่ง) กลายอีกนัยคือใช้เป็นเงินแลกเปลี่ยนซื้อของได้ แต่มันมีราคาต่ำ “ร้าน” หมำยถึง ที่ที่ปลูกยกพื้นขึ้นสำหรับนั่งหรือขำยของ เป็นต้น เบี้ยที่ตกอยู่ใต้ถุนร้ำน จึงเป็นเศษเงินที่เล็กน้อยมากจนไม่ค่อยมีใครสนใจจะเก็บ สำนวนนี้ปรากฎในบทร้องเล่นของเด็กไทยว่ำ “รีรีข้าวสำร สองทะนำนข้ำวเปลือก เลือกท้องใบลำน คดข้าวใส่จำน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้ำน พานเอาคนข้างหลังไว้”
สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ การเก็บเล็กผสมน้อย ทำอะไรที่ประกอบด้วยส่วนเล็กส่วนน้อย จนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเป็นกอบเป็นกำ หรือการจะทำงานเล็กใหญ่ ก็พยายามค่อยๆ ทำให้ดีขึ้นแม้เล็กน้อยๆ เมื่อรวมกันและใช้เวลาก็จะทำให้การงานนั้นเห็นผลเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ ใช้กับคนที่เริ่มสร้างตัวด้วยตนเอง สู้ชีวิตค่อยๆ เก็บเงิน ใช้จ่ายอย่างประหยัด คล้ายกับสำนวนเก็บหอมรอมริด
ตัวอย่างการใช้สุภาษิตเก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
- คนที่รู้จักการ “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” จะเป็นคนที่มั่งมีได้ในอนาคตแน่นอน
- น้องฝ้ายลูกสาวของฉันช่างน่ารักจริงๆ ทุกๆวันหลังเลิกเรียน น้องฝ้ายจะนำเงินที่เหลือจากค่าขนมที่แม่ให้ไปโรงเรียน หยอดกระปุกวันละ 5 บาทบ้าง 10 บาทบ้าง จนทุกวันนี้กระปุกออมสินของน้องฝ้ายใกล้จะเต็มแล้ว
- ถึงตอนนี้เรามีเงินไม่เยอะ แต่การ “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” จะทำให้เรามีเงินมากขึ้นได้
- สมชายค่อยๆ ชุบตัวด้วยการเก็บเงินทีละนิดเหมือนกับเก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน อย่างขยันและเป็นวินัย จนในที่สุดเขาก็เริ่มสร้างตัวได้ และมีชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมกับความสุข
- ถ้าสมหญิงค่อยๆ เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านนะ ป่านนี้คงจะรวยไปแล้ว เสียดายที่ขายของได้ดี ลูกค้าเยอะ แต่เอาไปซื้อของฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น วันข้างหน้าแย่แน่ๆ