นิทานอีสป เรื่อง “สองนักเดินทางกับต้นเพลน” ไทย-Eng

นิทานอีสปเรื่องสองนักเดินทางกับต้นเพลน ไทย-Eng
X
Advertisements

“สองนักเดินทางกับต้นเพลน” เป็นนิทานอีสปที่เล่าถึงนักเดินทางที่เหนื่อยล้าสองคนแสวงหาร่มเงาใต้ต้นไม้ โดยคนหนึ่งละเลยคุณค่าของมันจนกว่าต้นไม้จะแสดงคุณค่าของมัน โดยสอนถึงความสำคัญของการตระหนักถึงพรที่อยู่รอบตัวเรา

นิทานอีสปเรื่องสองนักเดินทางกับต้นเพลน

กาลครั้งหนึ่งในฤดูร้อนที่แผดเผา นักเดินทางสองคนที่เหน็ดเหนื่อยกำลังเดินทางผ่านทะเลทรายอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงแดด แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาที่พวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง และคอของพวกเขาก็แห้งผากจากความร้อนที่ไม่หยุดหย่อน ความแข็งแกร่งของพวกเขาลดลงในแต่ละย่างก้าว และพวกเขาก็โหยหาการบรรเทาทุกข์

Once upon a scorching summer day, two weary travelers were making their way through a vast, sun-baked desert. The relentless sun beat down upon them, and their throats were parched from the unrelenting heat. Their strength waned with each step, and they longed for relief.

ในระยะไกล พวกเขามองเห็นต้นเพลนต้นหนึ่งที่สูงตระหง่าน ใบกว้างสีเขียว เป็นที่พักผ่อนจากแสงแดดอันแรงกล้า ด้วยความกระตือรือร้นที่จะหลีกหนีจากความร้อนจัด พวกเขาจึงรีบไปที่ต้นไม้และปักหลักอยู่ในร่มเงาที่เย็นสบายและรู้สึกซาบซึ้งใจ

In the distance, they spotted a majestic plane tree, its broad, green leaves providing a respite from the harsh sun. Eager to escape the oppressive heat, they hurried towards the tree and gratefully settled in its cool, soothing shade.

ขณะที่พวกเขาพักอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ นักเดินทางคนหนึ่งซึ่งมีความเห็นถากถางดูถูกเหยียดหยามกล่าวว่า “ช่างเป็นต้นไม้ที่ไร้ประโยชน์จริงๆ มันไม่ให้ผลหรือให้ไม้อันมีค่าเลย มันไม่มีประโยชน์เลย”

As they rested beneath the tree’s welcoming canopy, one of the travelers, driven by cynicism, remarked, “What a useless tree this is! It doesn’t bear fruit or provide valuable wood. It serves no purpose at all.”

ด้วยความเจ็บปวดจากคำพูดเนรคุณของนักเดินทาง ต้นเพลนชราที่ฉลาดจึงสะบัดใบของมันเบาๆ และกระซิบว่า “นักเดินทางเอ๋ย ถึงข้าไม่อาจให้ผลไม้หรือไม้ดีๆ แต่ข้าก็ให้ร่มเงาและผ่อนปรนจากแสงแดดที่แผดจ้า นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ในตัวเองของข้าหรอกหรือ พวกเจ้ากำลังได้รับประโยชน์จากร่มเงาของข้าตอนนี้”

Hurt by the traveler’s ungrateful words, the wise old plane tree gently rustled its leaves and whispered, “Dear travelers, I may not offer fruit or timber, but I provide shade and respite from the blistering sun. Isn’t that a purpose in itself? You are benefiting from my shade right now.”

นักเดินทางต่างตระหนักถึงคุณค่าของต้นไม้ จึงรู้สึกซาบซึ้งอย่างสุดซึ้ง พวกเขาดื่มจากขวดน้ำ ซึ่งได้รับความสดชื่นจากที่พักพิงของเงาต้นไม้ พวกเขาเดินทางต่อไปโดยแบกรับความซาบซึ้งที่เพิ่งค้นพบต่อพรแห่งธรรมชาติที่มักถูกมองข้ามไปด้วย

The travelers, now recognizing the tree’s value, felt a deep sense of gratitude. They drank from their water flasks, reinvigorated by the tree’s shelter. They continued their journey, carrying with them a newfound appreciation for the often-overlooked blessings of nature.

นิทานอีสปสองนักเดินทางกับต้นเพลน

Advertisements


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คิดให้ดีก่อนจะตำหนิสิ่งใด และจงชื่นชมพรที่เรียบง่ายและมักไม่มีใครสังเกตเห็นในชีวิต เพราะพรเหล่านั้นสามารถปลอบใจและผ่อนปรนเมื่อคุณต้องการมากที่สุด”

  • ความกตัญญูต่อสิ่งเรียบง่าย: เรื่องราวเตือนใจให้เรารู้สึกขอบคุณสำหรับพรที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่าในชีวิต แม้ว่าพรเหล่านั้นอาจดูเหมือนไม่ชัดเจนในทันทีก็ตาม
  • อย่าดูถูกคุณค่าของความเมตตา: การกระทำของต้นเพลนในการให้ร่มเงาเป็นตัวอย่างของความสำคัญของความมีน้ำใจและการช่วยเหลือผู้อื่น แม้ว่าจะไม่เห็นผลประโยชน์ส่วนตัวก็ตาม
  • เรื่องมุมมอง: เน้นย้ำถึงความสำคัญของมุมมอง และมุมมองของคนๆ หนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการรับรู้โลกรอบตัวเราได้อย่างมาก
  • การเห็นคุณค่าของธรรมชาติ: ธรรมชาติมักให้ประโยชน์ที่จำเป็นแก่เรา และเราควรเคารพและทะนุถนอมธรรมชาติเพื่อความปลอบใจและการสนับสนุนที่ธรรมชาติมอบให้ ไม่ว่าจะในเวลาที่ต้องการหรือในยามว่าง
  • คำพูดมีผลกระทบ: เรื่องราวยังทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจว่าคำพูดของเราสามารถส่งผลกระทบต่อผู้อื่นได้อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นการเลือกพวกเขาอย่างชาญฉลาดและรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ

“Think carefully before criticizing anything and appreciate the simple and often unnoticed blessings in life, for they can provide solace and respite when you need it most.”

  • Gratitude for the Simple Things: The story reminds us to be grateful for the simple yet invaluable blessings in life, even when they may not seem immediately apparent.
  • Don’t Underestimate the Value of Kindness: The plane tree’s act of providing shade exemplifies the importance of kindness and helping others, even when there is no apparent personal gain.
  • Perspective Matters: It highlights the significance of perspective and how one’s viewpoint can drastically change the way we perceive the world around us.
  • Appreciating Nature: Nature often provides us with essential benefits, and we should respect and cherish it for the solace and support it offers, whether in times of need or leisure.
  • Words Have Consequences: The story also serves as a reminder that our words can impact others deeply, so it’s important to choose them wisely and thoughtfully.

โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนให้เราชื่นชมแง่มุมของชีวิตที่ดูเหมือนเล็กน้อยและไม่มีนัยสำคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้มักจะทำให้เราโล่งใจและมีความสุขได้มากที่สุดเมื่อเราต้องการมันมากที่สุด

นิทานอีสปเรื่องอื่นๆ

The Æsop for Children

Advertisements