นิทานอีสป เรื่อง “สุนัขจอมขยันกับแม่สุกรจอมเกียจคร้าน” ไทย-Eng

นิทานอีสปสุนัขจอมขยันกับแม่สุกรจอมเกียจคร้าน ไทย-Eng
X
Advertisements

“สุนัขจอมขยันกับแม่สุกรจอมเกียจคร้าน” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงการรู้จักคุณค่าในหน้าที่ของตนเอง ไม่เอาตัวเองเปรียบเทียบกับใคร และผลเสียของความเกียจคร้าน

นิทานอีสปเรื่องสุนัขจอมขยันกับแม่สุกรจอมเกียจคร้าน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสุนัขและแม่สุกรอาศัยอยู่ในฟาร์มเดียวกัน สุนัขขึ้นชื่อในเรื่องความขยันหมั่นเพียร ในขณะที่แม่สุกรนั้นเกียจคร้านและเห็นแก่ตัว สุนัขจะใช้เวลาทั้งวันในการดูแลฟาร์มและช่วยเหลือชาวนา ในขณะที่แม่สุกรจะหมกมุ่นอยู่กับโคลนอย่างเกียจคร้าน

Once upon a time, a dog and a sow lived on the same farm. The dog was known for being diligent and hardworking, while the sow was lazy and selfish. The dog would spend his days guarding the farm and assisting the farmer, while the sow would lazily wallow in the mud.

วันหนึ่ง หมาป่าผู้หิวโหยเข้ามาใกล้ฟาร์ม มองหาโอกาสที่จะฉกอาหารไป เมื่อรู้สึกถึงอันตราย สุนัขจึงกระโจนเข้าไปเห่าเสียงดังเพื่อเตือนชาวนา ชาวนารีบออกมาพร้อมกับอาวุธของเขา ทำให้หมาป่ากลัว

One day, a hungry wolf approached the farm, looking for an opportunity to snatch a meal. Sensing danger, the dog sprang into action, barking loudly to alert the farmer. The farmer quickly came out with his weapon, scaring the wolf away.

ด้วยความประทับใจในความกล้าหาญของสุนัข ชาวนาจึงให้รางวัลเป็นอาหารอร่อยๆ และชมเชยในความภักดีของมัน แม่สุกรที่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ เริ่มอิจฉารางวัลและการยอมรับจากสุนัข

Impressed by the dog’s bravery, the farmer rewarded him with a delicious meal and praised him for his loyalty. The sow, who had been observing from afar, became envious of the dog’s reward and recognition.

แม่สุกรเข้าไปหาสุนัขแล้วพูดว่า “ทำไมเจ้าถึงทำงานหนักและเสี่ยงชีวิตเพื่อชาวนา ดูฉันสิ ฉันมีชีวิตที่สุขสบายในโคลนตม และฉันไม่ต้องยกกีบ”

The sow approached the dog and said, “Why do you work so hard and risk your life for the farmer? Look at me, I have a comfortable life wallowing in the mud, and I don’t have to lift a hoof.”

สุนัขตอบว่า “จริงอยู่ที่คุณมีชีวิตที่เรียบง่าย แต่ก็เป็นชีวิตธรรมดาๆ เช่นกัน ข้ารับใช้ชาวนาและปกป้องฟาร์มเพราะนั่นคือจุดมุ่งหมายและหน้าที่ของข้า ข้าพบความสมหวังในงานและความสัมพันธ์ที่ข้าสร้างขึ้น ในขณะที่ เจ้าอาจจะได้ความสุขสบายชั่วคราว เจ้าพลาดความพอใจที่ได้มาจากการทำประโยชน์อันมีค่า”

The dog replied, “It’s true that you have an easy life, but it is also a life of mediocrity. I serve the farmer and protect the farm because it is my purpose and duty. I find fulfillment in my work and the relationships I’ve built. While you may enjoy temporary comfort, you miss out on the satisfaction that comes from making a valuable contribution.”

นิทานอีสปสุนัขจอมขยันกับแม่สุกรจอมเกียจคร้าน

Advertisements


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความพึงพอใจและจุดมุ่งหมายในการทำงานหนักและการอุทิศตน แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามและความเสียสละก็ตาม การได้รับผลตอบแทนจากการมีส่วนร่วมที่มีความหมายสามารถเติมเต็มได้มากกว่าชีวิตที่สบายๆ และความเห็นแก่ตัว”

  • คุณค่าของการทำงานหนักและความขยันหมั่นเพียร ความมุ่งมั่นของสุนัขต่อหน้าที่ของเขาและความเต็มใจที่จะใช้ความพยายามที่ได้รับผลตอบแทนในรูปของรางวัลและการยอมรับ มันเตือนเราว่าการทำงานหนักและความเพียรนำไปสู่ความสำเร็จและความสมหวัง
  • อันตรายของความเกียจคร้านและความเห็นแก่ตัว ความอิ่มเอมใจและไม่เต็มใจที่จะช่วยเหลือของแม่สุกรส่งผลให้มีชีวิตที่ธรรมดาและอิจฉาริษยา ทำหน้าที่เป็นคำเตือนถึงความเกียจคร้านและความเห็นแก่ตัวโดยเน้นถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
  • ความสำคัญของการค้นหาเป้าหมายและความสำเร็จ สุนัขพบความสำเร็จในงานของเขาและความรับผิดชอบที่เขามีต่อชาวนาและฟาร์ม มันเน้นความสำคัญของการค้นหาความหมายและจุดประสงค์ในสิ่งที่เราทำ เพราะมันนำไปสู่ชีวิตที่น่าพอใจและคุ้มค่ามากขึ้น
  • ความแตกต่างระหว่างความสบายใจชั่วคราวกับความอิ่มเอมใจที่ยั่งยืน แม่หมูมีความสุขกับความสบายชั่วคราวในโคลนตม แต่มันจืดจางเมื่อเปรียบเทียบกับความอิ่มเอมใจของสุนัขที่ได้รับจากการทำงานอย่างมีจุดหมาย มันสอนเราว่าการเติมเต็มที่แท้จริงมาจากการมีส่วนร่วมและสร้างผลกระทบในเชิงบวก

“Satisfaction and purpose in hard work and dedication, even if it requires effort and sacrifice. Enjoying the rewards of meaningful contributions can be more fulfilling than a life of ease and selfishness.”

  • The value of hard work and diligence: The dog’s commitment to his duty and his willingness to put in the effort paid off in the form of rewards and recognition. It reminds us that hard work and perseverance lead to success and fulfillment.
  • The dangers of laziness and selfishness: The sow’s complacency and unwillingness to contribute resulted in a life of mediocrity and envy. It serves as a warning against idleness and selfishness, highlighting the negative consequences they can bring.
  • The importance of finding purpose and fulfillment: The dog found fulfillment in his work and the sense of responsibility he had towards the farmer and the farm. It emphasizes the importance of finding meaning and purpose in what we do, as it leads to a more satisfying and rewarding life.
  • The difference between temporary comfort and lasting fulfillment: The sow enjoyed temporary comfort in the mud, but it paled in comparison to the dog’s fulfillment derived from his purposeful work. It teaches us that true fulfillment comes from contributing and making a positive impact.

โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนให้เรายอมรับการทำงานหนัก ค้นหาจุดมุ่งหมายและความสำเร็จในการกระทำของเรา และหลีกเลี่ยงกับดักของความเกียจคร้านและความเห็นแก่ตัว สิ่งนี้เตือนใจเราว่าการอุทิศตนเพื่อการแสวงหาที่มีความหมาย เราสามารถมีชีวิตที่คุ้มค่ามากขึ้นและสร้างความแตกต่างในโลกได้

นิทานอีสปเรื่องอื่นๆ

The Æsop for Children

Advertisements