นิทานอีสป เรื่อง “คนจับนกกับนกเดินดงสีดำ” ไทย-Eng

นิทานอีสปเรื่องคนจับนกกับนกเดินดงสีดำ ไทย-Eng

“คนจับนกกับนกเดินดงสีดำ” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงการรับรู้ถึงความสวยงามของธรรมชาติ การดูแลปกป้องธรรมชาติ และสอนว่าชีวิตไม่ใช่การครอบครอง

นิทานอีสปเรื่องคนจับนกกับนกเดินดงสีดำ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมชายป่าเขียวชอุ่ม มีนักจับนกชื่อดังอาศัยอยู่ เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในเรื่องกับดักอันชาญฉลาดที่ดักจับนกที่เข้าใจยากที่สุด อย่างไรก็ตาม หัวใจของเขาเก็บงำความปรารถนาพิเศษไว้ นั่นคือการได้จับนกเดินดงสีดำที่มีเสน่ห์และเข้าใจยาก ซึ่งว่ากันว่าบทเพลงอันไพเราะช่วยปลอบประโลมจิตใจที่อ่อนล้าที่สุด

Once upon time, In a village nestled at the edge of a lush forest, there lived a renowned bird-catcher. He was known far and wide for his clever traps that ensnared the most elusive of birds. However, his heart harbored a particular desire: to catch the enchanting and elusive blackbird whose melodic songs were said to soothe even the weariest of souls.

เช้าวันหนึ่งที่อากาศแจ่มใส ขณะที่ดวงอาทิตย์แต่งแต้มท้องฟ้าด้วยสีทอง เขาก็ออกเดินทางด้วยความมุ่งมั่นครั้งใหม่ ลึกเข้าไปในป่า ดวงตาที่แหลมคมของเขามองเห็นขนมันวาวของนกเดินดงสีดำที่ส่องประกายระยิบระยับท่ามกลางแสงระยิบระยับ ความตื่นเต้นแล่นพล่านไปทั่วร่างขณะที่เขาวางบ่วงที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นงานศิลปะที่ออกแบบมาเพื่อชิงไหวชิงพริบแม้กระทั่งนกที่ดุร้ายที่สุด

One crisp morning, as the sun painted the sky with hues of gold, bird-catcher set out with renewed determination. Deep within the woods, his keen eyes spotted the glossy feathers of the blackbird glinting in the dappled light. Excitement coursed through his veins as he set his masterfully crafted snare, a work of art designed to outwit even the wiliest of birds.

แต่ในขณะที่เขามองจากเงามืด สายตาที่อยากรู้อยากเห็นก็ปรากฏขึ้น นกฮูกแก่แสนรู้เกาะอยู่บนกิ่งไม้ใกล้ๆ ร้องเบา ๆ ดึงความสนใจของคนจับนก “เดี๋ยวก่อน นักจับนกตัวน้อย” นกอูกเริ่ม เสียงของมันเหมือนเสียงใบไม้กรอบแกรบ “ก่อนที่เจ้าจะจับนกเดินดงสีดำตัวนั้น ฟังคำพูดของข้าก่อน”

Yet, as he watched from the shadows, a curious sight unfolded. A wise old owl, perched on a nearby branch, hooted softly, capturing bird-catcher’s attention. “A moment, young trapper,” the owl began, its voice like the rustle of leaves. “Before you ensnare that blackbird, heed my words.”

นักจับนกเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวังด้วยความทึ่ง นกฮูกพูดต่อว่า “นั่นคือนกเดินดงที่มีขนสีดำและร้องเพลงราวกับเงินเหลวไหลไปมา ไม่ใช่นกธรรมดา มันมีพรสวรรค์ในการมองการณ์ไกลและหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะด้วยความลับของป่า”

Intrigued, bird-catcher approached cautiously. The owl continued, “That blackbird, with its ebony feathers and song like liquid silver, is no ordinary bird. It possesses the gift of foresight and a heart that beats in rhythm with the secrets of the forest.”

ความอยากรู้อยากเห็นของนักจับนกเพิ่มขึ้น และเขาถามว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าต้องทำอย่างไร? ข้าไม่อยากทำร้ายนก แต่อยากเรียนรู้จากสติปัญญาของมัน”

bird-catcher’s curiosity grew, and he asked, “What must I do, then? I wish not to harm the bird, but to learn from its wisdom.”

ดวงตาของนกฮูกเป็นประกายด้วยความเห็นชอบ “สร้างกรงแห่งความเมตตา ถักทอด้วยสายใยแห่งความเข้าใจและความเคารพ เข้าหานกเดินดงสีดำไม่ใช่ในฐานะผู้จับ แต่ในฐานะผู้แสวงหาความรู้ แบ่งปันความฝันของเจ้าและฟังเพลงของมัน แล้วเจ้าจะพบมากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้”

The owl’s eyes gleamed with approval. “Craft a cage of kindness, woven with threads of understanding and respect. Approach the blackbird not as a captor, but as a seeker of knowledge. Share your dreams and listen to its songs, and you shall discover more than you could imagine.”

นักจับนกตัวน้อยฟังคำแนะนำของนกฮูก เขารื้อกับดักของเขาและสร้างกรงที่มีเถาวัลย์ที่สลับซับซ้อนและความเห็นอกเห็นใจ ด้วยความระมัดระวัง เขาเข้าไปหานกเดินดงสีดำและพูดถึงความปรารถนาที่จะเข้าใจโลกรอบตัว ฟังเรื่องราวที่สายลมบอก และมองเห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ในดวงดาว

bird-catcher heeded the owl’s counsel. He dismantled his trap and fashioned a cage of intricate vines and compassion. With care, he approached the blackbird and spoke of his longing to understand the world around him, to hear stories told by the wind and see truths hidden in the stars.

นกเดินดงสีดำมองลูก้าด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยภูมิปัญญาแห่งยุคสมัย และมันก็ร้องเพลงตอบ ท่วงทำนองของมันนำพาเสียงกระซิบแห่งป่า เสียงหัวเราะของลำธาร และความลึกลับของจักรวาล ขณะที่โน้ตตัวสุดท้ายยังคงดำเนินต่อไป นักจับนกรู้สึกได้ถึงสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ราวกับว่าจิตวิญญาณของเขาได้เต้นรำไปกับเสียงเพลงแห่งการสร้างสรรค์

The blackbird regarded bird-catcher with eyes that held the wisdom of ages. And in response, it sang. Its melody carried the whispers of the forest, the laughter of brooks, and the mysteries of the universe. As the last note lingered, bird-catcher felt a profound connection, as if his very soul had danced with the music of creation.

นกเดินดงสีดำซึ่งไม่ตกเป็นเชลยแห่งความกลัวอีกต่อไป เลือกที่จะอยู่เคียงข้างนักจับนกตัวน้อย ร้องเพลงของมันให้กับผู้ที่แสวงหาสติปัญญาและความสามัคคี และหลายปีผ่านไป หัวใจของนักจับนกก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้เป็นแค่นักจับนกอีกต่อไป เขากลายเป็นผู้รักษาท่วงทำนองและผู้พิทักษ์ความลับโบราณของป่า

The blackbird, no longer a captive of fear, chose to remain by bird-catcher’s side, sharing its songs with those who sought wisdom and harmony. And as the years unfolded, bird-catcher’s heart transformed. No longer a mere bird-catcher, he became a keeper of melodies and a guardian of the forest’s ancient secrets.

นิทานอีสปคนจับนกกับนกเดินดงสีดำ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความเคารพ ความเมตตา และความเต็มใจที่จะรับฟังสามารถเผยให้เห็นความงดงามและภูมิปัญญาของโลกได้”

  • แสวงหาความเข้าใจ ไม่ใช่การครอบงำ: การเปลี่ยนแปลงของนักจับนก จากผู้จับเป็นผู้เรียนสอนให้เราเข้าใกล้ชีวิตด้วยความปรารถนาที่จะเข้าใจมากกว่าการควบคุม
  • ความฉลาดในธรรมชาติ: นกฮูกและนกเดินดงสีดำเป็นตัวอย่างของภูมิปัญญาอันลึกซึ้งที่สามารถพบได้ในโลกธรรมชาติ เตือนใจให้เราเชื่อมโยงและเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว
  • การเคารพต่อชีวิต: เสรีภาพของนกเดินดงสีดำได้รับการปกป้องด้วยความเคารพต่อคุณสมบัติพิเศษของมัน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติต่อสัตว์ทุกชนิดด้วยความกรุณาและคำนึงถึงผู้อื่น
  • ความสามัคคีและความปรองดอง: เพลงของนกเดินดงสีดำมีสาระสำคัญของป่า เตือนใจเราถึงความเชื่อมโยงระหว่างกันของทุกชีวิตและความสวยงามของความสามัคคี
  • พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง: การเดินทางของนักจับนกแสดงให้เราเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ แม้ว่าเราจะดำเนินไปตามเส้นทางที่ขาดความเข้าใจก็ตาม ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะแสวงหาวิธีที่แตกต่างและมีความหมายมากกว่า

“Respect, kindness, and a willingness to listen can reveal the beauty and wisdom of the world.”

  • Seek Understanding, Not Dominance: bird-catcher’s transformation from captor to learner teaches us to approach life with a desire for understanding rather than control.
  • Wisdom in Nature: The owl and the blackbird exemplify the depth of wisdom that can be found in the natural world, reminding us to connect with and learn from our surroundings.
  • Respect for Life: The blackbird’s freedom was preserved out of respect for its unique qualities, underscoring the importance of treating all creatures with kindness and consideration.
  • Unity and Harmony: The blackbird’s song carried the essence of the forest, reminding us of the interconnectedness of all life and the beauty of harmony.
  • The Power of Transformation: bird-catcher’s journey shows us that change is possible, even when we’ve been pursuing a path that lacks understanding. It’s never too late to seek a different, more meaningful way.

โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนเราว่าปัญญาที่แท้จริงมาจากการฟัง เข้าใจ และโอบรับความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งมีชีวิตทั้งหมด การชื่นชมความงามรอบตัวเราและแสวงหาความรู้ด้วยใจที่เปิดกว้าง เราสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราและโลกรอบตัวเราได้

นิทานอีสปเรื่องอื่นๆ

The Æsop for Children