สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ค. คลื่นกระทบฝั่ง
ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยคลื่นกระทบฝั่ง
ที่มาของสำนวนนี้คือ เปรียบเปรยกับคลื่นทะเลแต่ละลูกเมื่อกระทบฝั่งแล้วล้วนจางหายไปหมดสิ้น ไม่มีลูกไหนเลยที่มีแรงเหลือพอจะกลิ้งกลับจากฝั่งลงสู่ทะเลอีกครั้งหนึ่งได้ จึงเป็นที่มาของสำนวนนั่นเอง
สรุปความหมายของสำนวนนี้คือ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือเรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้น แล้วก็เงียบหายไปในที่สุด เปรียบเปรยถึงเหตุการณ์สำคัญ เหตุการณ์ใหญ่ๆ ต่างๆ ที่ผู้คนต่างพูดถึงในวงกว้าง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปในที่สุดเรื่องราวก็เงียบหายไปตามกาลเวลานั่นเอง
ตัวอย่างการใช้สุภาษิตคลื่นกระทบฝั่ง
- เมื่อครั้งที่อาทิตย์ เป็นกำนันของตำบลนี้ได้ใช้อำนาจในการคว้านซื้อที่ดินอันเป็นที่สาธารณะไว้มากมายจนตกเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งอยู่หลายวัน แต่ในที่สุดเรื่องก็เงียบหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง นั่นก็เพราะเม็ดเงินมหาศาลที่กำนันใช้ในการปิดปากทุกฝ่ายนั่นเอง
- คดีลูกนักการเมืองชื่อดังขับรถชนคนตาย สุดท้ายก็คงเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง อีกไม่นานคนก็คงลืม
- วาฬใหญ่รายหนึ่งซื้อหุ้นบริษัทใหญ่อันดับต้นๆ ของไทย ทำให้เกิดข่าวใหญ่โต เป็นที่ฮือฮาแก่สื่อมวลชลอย่างมาก แต่พอไม่นานข่าวก็เริ่มเงียบหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
- บางครั้งชีวิตเราต้องจัดการปัญหานี้กันอย่างเด็ดขาด อย่านิ่งเฉยให้เป็นแค่คลื่นกระทบฝั่ง ไม่อย่างนั้นปัญหามันก็จะคงมาเรื่อยๆ
- ข่าวคาดการว่าเศรษฐกิจจะโลกดิ่งลงหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ สุดท้ายมันก็มันเกิดขึ้นจริงๆ ประโคมข่าวเหมือนคลื่นกระทบฝั่งให้คนกลัว สุดท้ายมันก็ไม่เกิดขึ้นและจางหายไปเอง