สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ต. ตาบอดคลำช้าง
ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยตาบอดคลำช้าง
ที่มาของสำนวนนี้คือ พระพุทธเจ้าได้ใช้นิทานชาดกเทศน์สอนแก่สาวกว่า ในเมืองสาวัตถีมีสมณพราหมณ์และปริพาชกมากมาย ต่างคนต่างมีความเชื่อ ความเห็น และยึดทฤษฎีของตนว่าถูกต้อง ดูถูกเหยียดหยามกัน ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนลังเลสงสัยว่าจะเชื่อใครดี
มีพระราชาองค์หนึ่ง ได้รับสั่งให้ชุมนุมคนตาบอดแต่กำเนิดทั่วประเทศ นำช้างมาให้คนตาบอดเหล่านี้ลูบคลำดูพวกละแห่ง เช่น ศรีษะ งวง งา ขา ท้อง ตลอดจนปลายหาง ฯลฯ หลังจากนั้นพระราชาได้ตรัสถามว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง?
คราวนั้นคนตาบอดที่ได้คลำศีรษะช้าง ก็ว่าช้างเหมือนหม้อ คนที่ได้คลำหูช้าง ก็ว่าช้างเหมือนกระด้ง คนที่ได้คลำงาช้างก็ว่าช้างเหมือนผาล คนที่ได้คลำงวงช้าง ก็ว่าช้างเหมือนงอนไถ
คนที่ได้คลำตัวช้าง ก็ว่าช้างเหมือนยุ้งข้าว คนที่ได้คลำเท้าช้าง ก็ว่าช้างเหมือนเสา คนที่ได้คลำหลังช้าง ก็ว่าช้างเหมือนครกตำข้าว คนที่ได้คลำหางช้าง ก็ว่าช้างเหมือนสาก คนที่ได้คลำปลายหางช้าง ก็ว่าช้างเหมือนไม้กวาด
ถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงเข้าใจเหมือนกันว่านิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากไม่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญจริงในเรื่องนั้นๆแต่มีความเชื่อมั่นว่าตนเองเข้าใจว่าตนเองนั้นถูก อาจสร้างปัญหา สร้างความสับสนให้กับสังคมได้ ถึงแม้จะมีนิทานชาดกเป็นอุทธาหรณ์แต่ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ยังมีเหตุการณ์ดั่งในนิทานชาดกข้างต้นให้เห็นอยู่เสมอ…
สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ คนที่รู้อะไรด้านเดียวหรือนัยเดียว แล้วเข้าใจว่าสิ่งนั้นเป็นอย่างนั้น นิยมใช้กับผู้ที่ชอบมองด้านเดียว แล้วตีความเอาตามที่ตนเองเข้าใจเพียงคนเดียว รู้ไม่จริง หรือรู้ก็รู้ไม่หมด รู้เพียงบางส่วน เมื่อรู้เพียงบางส่วนก็เข้าใจไปเองว่าตนนั้นรู้แจ้ง รู้หมดทุกอย่าง
ตัวอย่างการใช้สุภาษิตตาบอดคลำช้าง
- ตาบอดคลำช้าง นินทาและสรรเสริญ เป็นโลกธรรม ที่อยู่คู่มนุษยชาติมาตลอด เพราะในโลกนี้ “นักพูด” มีมากกว่า “นักทำ” ผู้ที่มีปกติชอบพูดวิพากษ์วิจารณ์ เยาะเย้ยถากถางผู้อื่น
- อีกทั้งยุคสมัยนี้เป็นยุคโซเชียลมีเดีย บางคนก็แค่พูดเก่ง พูดดูดี เหมือนจะมีหลักการ และแค่พรรคพวกเยอะคอยเป็นกองเชียร์ แต่คนที่เชี่ยวขาญเฉพาะด้านย่อมมองออกว่าสิ่งที่คนเหล่านั้นพูดก็แค่เพียงต้องการสร้างภาพลักษณ์ให้ตนเอง เบี่ยงเบนให้สังคมเข้าใจผู้อื่นผิด ด้วยการสร้างข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์ทั้งหลายแหล่ นั่นก็เข้าข่ายพวกตาบอดคลำช้างมาสร้างกระแสสังคมให้ตนเองดูดีแต่เหยียบย่ำผู้อื่น
- อย่าทำตัวเป็นตาบอดคลำช้างไปหน่อยเลย หัดฟังความเห็นจากผู้อื่นบ้าง ไม่ใช่เอาตัวเองว่า แบบนี้งานไม่ไปไหนซักที
- สื่อมักให้ความสำคัญคนที่รู้ไม่จริง แต่กลับพูดออกสื่อ มีที่ยืนในสังคมได้อย่างไรกัน แบบนี้มันตาบอดคลำช้างชัดๆ สื่อนี่แหละตัวดีเลย
- ยุคสมัยเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ยังมีคนตาบอดคลำช้างอยู่เสมอ เพราะคนมักจะเลือกเชื่อตัวเองก่อนเชื่อคนอื่น