“หมาป่ากับแพะ” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงอันตรายจากการไว้วางใจผู้อื่นมากจนเกินไป และยังสองเราถึงการพึ่งพาตนเองและความเป็นอิสระเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
นิทานอีสปเรื่องหมาป่ากับแพะ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว หมาป่าผู้หิวโหยเห็น แพะรูปร่างอ้วนท้วนน่ารับประทานเล็มหญ้าอยู่บนเนินเขาสูงชัน หมาป่าน้ำลายฟูมปากเมื่อนึกถึงอาหารที่น่าพึงพอใจ แต่เขารู้ว่าต้องฉลาดแกมโกงจึงจะจับแพะได้
Once upon a time, a hungry wolf spotted a plump and delicious-looking goat grazing on a steep hillside. The wolf’s mouth watered at the thought of a satisfying meal, but he knew he had to be cunning to catch the goat.
เมื่อเข้าใกล้แพะ หมาป่าแสร้งทำเป็นเป็นมิตรและพูดว่า “แพะที่รัก ข้าได้ยินมาว่าอีกฟากหนึ่งของเนินเขามีหญ้าเขียวชอุ่ม เจ้าจะไม่ร่วมงานเลี้ยงกับข้าหรือ”
Approaching the goat, the wolf pretended to be friendly and said, “Dear goat, I’ve heard that there is lush and abundant grass on the other side of the hill. Won’t you join me and enjoy the feast?”
แพะซึ่งคิดว่าอยากได้อาหารมากกว่านี้จึงตกลงและตามหมาป่าไป เมื่อพวกเขามาถึงเส้นทางที่แคบและอันตราย ความตั้งใจที่แท้จริงของหมาป่าก็ชัดเจน มันวางแผนที่จะผลักแพะออกจากขอบและกินเธอ
The goat, tempted by the thought of more food, agreed and followed the wolf. As they reached a narrow and treacherous path, the wolf’s true intentions became clear. He planned to push the goat off the edge and devour her.
อย่างไรก็ตาม แพะสังเกตเห็นแผนการอันชั่วร้ายของหมาป่าและคิดกลยุทธ์อันชาญฉลาดอย่างรวดเร็ว เธอพูดกับหมาป่าว่า “ก่อนที่เราจะไปต่อ มาแสดงความว่องไวและพละกำลังของเรากันเถอะ ข้าจะยืนอยู่บนทางแคบนี้ แล้วเจ้าลงไปที่หุบเขาเบื้องล่าง เราจะดูว่าใครจะปีนกลับขึ้นมาได้เร็วกว่ากัน”
However, the goat noticed the wolf’s sinister plan and quickly devised a clever strategy. She said to the wolf, “Before we continue, let’s showcase our agility and strength. I will stand on this narrow path, and you can go down to the valley below. We’ll see who can climb back up faster.”
หมาป่าที่มั่นใจในความสามารถของเขาตอบตกลง ขณะที่เขาลงไปในหุบเขา แพะที่ว่องไวก็เคลื่อนตัวอย่างปลอดภัยบนเส้นทางแคบๆ ให้พ้นจากหมาป่า เธอประกาศอย่างมีชัยว่า “เจ้าเห็นไหม เพื่อนของฉัน ระมัดระวังและใช้ไหวพริบดีกว่าทำตามสัญญาของผู้อื่นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า”
The wolf, confident in his abilities, agreed. As he descended into the valley, the agile goat safely maneuvered herself on the narrow path, out of the wolf’s reach. She triumphantly proclaimed, “You see, my friend, it is better to be cautious and use our wits rather than blindly following the promises of others.”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ความฉลาดและความระมัดระวังสามารถเอาชนะการหลอกลวงอันชาญฉลาดได้ ระมัดระวังเมื่อถูกล่อลวงด้วยข้อเสนอที่ดูเหมือนล่อลวง”
- ข้อควรระวังในการไว้วางใจผู้อื่น เรื่องราวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการระมัดระวังและไม่ไว้วางใจผู้อื่นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความปลอดภัยหรือความเป็นอยู่ที่ดีของเราตกอยู่ในอันตราย ความเฉลียวฉลาดของแพะและความสงสัยในเจตนาของหมาป่าช่วยเธอให้พ้นจากอันตราย
- ความเฉลียวฉลาดและการคิดที่รวดเร็ว การคิดอย่างรวดเร็วและกลยุทธ์อันชาญฉลาดของแพะทำให้เธอสามารถเอาชนะหมาป่าได้ มันสอนเราถึงคุณค่าของการใช้สติปัญญาและไหวพริบในการรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากและเอาชนะความท้าทาย
- การพึ่งพาตนเองและความเป็นอิสระ แพะอาศัยความสามารถและความว่องไวของมันเองเพื่อปกป้องตัวเอง เธอไม่ได้พึ่งพาหมาป่าหรือใครก็ตามเพื่อความปลอดภัยของเธอ เรื่องราวส่งเสริมให้เราพึ่งพาตนเองและเป็นอิสระ เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง
- อันตรายจากการล่อลวง หมาป่าใช้สิ่งล่อใจจากหญ้าที่อุดมสมบูรณ์เพื่อล่อแพะให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย เรื่องราวเตือนเราเกี่ยวกับอันตรายของการตกหลุมพรางโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา
“Cleverness and caution can outwit cunning deceit. Be cautious when lured by seemingly enticing offers.”
- Caution in trusting others: The story highlights the importance of being cautious and not blindly trusting others, especially when our safety or well-being is at stake. The goat’s discernment and suspicion of the wolf’s intentions saved her from harm.
- Cleverness and quick thinking: The goat’s quick thinking and clever strategy allowed her to outsmart the wolf. It teaches us the value of using our intelligence and wit to navigate difficult situations and overcome challenges.
- Self-reliance and independence: The goat relied on her own abilities and agility to protect herself. She didn’t depend on the wolf or anyone else to ensure her safety. The story encourages us to be self-reliant and independent, trusting in our own capabilities.
- The danger of temptation: The wolf used the temptation of abundant grass to lure the goat into a dangerous situation. The story warns us about the dangers of falling for temptations without considering the potential consequences.
โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนให้เราระมัดระวัง ใช้สติปัญญาของเราเพื่อนำทางสถานการณ์ที่ยุ่งยาก พึ่งพาตนเอง และไม่ตกเป็นเหยื่อของคำสัญญาหรือการล่อลวงที่ว่างเปล่า โดยน้อมรับคำสอนเหล่านี้ เราสามารถเลือกได้อย่างชาญฉลาด ป้องกันตนเองจากอันตราย ปลูกฝังความรู้สึกเป็นอิสระและการแยกแยะ