“มารดากับหมาป่า” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงคุณค่าของความรักผู้เป็นแม่หรือมารดา การใช้ไหวพริบในการแก้ปัญหาเพื่อปกป้องคนที่เรารัก และการให้ความสำคัญกับคุณค่าเหนือทรัพย์สินทางวัตถุ
นิทานอีสปเรื่องมารดากับหมาป่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แม่คนหนึ่งอาศัยอยู่กับลูกเล็กๆ ในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้ป่าทึบ วันหนึ่งขณะที่แม่กำลังยุ่งกับงานบ้านอยู่นั้น เธอได้ยินเสียงดังข้างนอก ด้วยความสยดสยอง เธอเห็นหมาป่าหิวโหยเข้ามาใกล้บ้านของเธอ
Once upon a time, a mother lived with her young children in a small village near a dense forest. One day, as the mother was busy with her chores, she heard a noise outside. To her horror, she saw a hungry wolf approaching her house.
แม่คิดอย่างรวดเร็วจึงพาลูกๆ เข้าไปข้างในและล็อกประตู อย่างไรก็ตาม เธอตระหนักว่าเธอได้ทิ้งสิ่งสำคัญไว้ข้างนอก มันเป็นเหยือกนมที่เธอเพิ่งเก็บมาจากวัวของพวกเขา
Thinking quickly, the mother ushered her children inside and locked the door. However, she realized that she had left something important outside. It was a jug of milk she had just collected from their cow.
หมาป่ารู้สึกถึงโอกาสจึงเยาะเย้ยแม่และพูดว่า “ถ้าเจ้าต้องการช่วยน้ำนมของเจ้า เปิดประตูทิ้งไว้ให้ข้า มิฉะนั้น ข้าจะบุกเข้ามาและกินเจ้าทั้งหมด”
The wolf, sensing an opportunity, taunted the mother and said, “If you want to save your milk, open the door and leave it for me. Otherwise, I will break in and devour you all.”
แม่ต้องเลือกระหว่างการรักษาน้ำนมอันมีค่าของเธอกับการปกป้องลูก ๆ ของเธอ เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ฉันไม่สามารถเอาเหยือกนมไปเสี่ยงชีวิตของลูกๆ ได้ ถ้าจำเป็นก็เอาไปเถอะ แต่จงไว้ชีวิตเราด้วย”
The mother was torn between saving her precious milk and protecting her children. She thought for a moment and then responded, “I cannot risk the lives of my children for a jug of milk. Take it if you must, but spare us.”
หมาป่ารู้สึกประหลาดใจกับความเสียสละของแม่ จึงตัดสินใจหยิบเหยือกนมและจากไปโดยไม่ทำร้ายเธอและลูกๆ ของเธอ การเสียสละของแม่ช่วยครอบครัวของเธอให้พ้นจากอันตราย
The wolf, surprised by the mother’s selflessness, decided to take the jug of milk and leave without harming her and her children. The mother’s sacrifice saved her family from danger.
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“การเสียสละและความเต็มใจที่จะสละทรัพย์สมบัติของตนเองเพื่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เป็นที่รัก”
- การเสียสละเพื่อคนที่รัก เรื่องราวเน้นให้เห็นถึงการกระทำที่ไม่เห็นแก่ตัวของแม่ที่เสียสละสิ่งของที่เธอมีอยู่ เหยือกเก็บน้ำนม เพื่อปกป้องลูกๆ ของเธอ บทเรียนสอนเราถึงความสำคัญของการให้ความเป็นอยู่ที่ดีและความปลอดภัยของคนที่เรารักอยู่เหนือความปรารถนาและการครอบครองของเราเอง
- การให้ความสำคัญกับคุณค่าเหนือทรัพย์สินทางวัตถุ แม่ตระหนักดีว่าชีวิตของลูกๆ ของเธอมีค่ามากกว่านมหนึ่งเหยือก เธอแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และคุณธรรมของมนุษย์ เช่น ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และการปกป้อง มากกว่าทรัพย์สินทางวัตถุ
- การตัดสินใจที่ยากลำบาก แม่ต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เธอเลือกสิ่งที่ถูกต้องทางศีลธรรมและให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์มากกว่าผลประโยชน์ทางวัตถุ เรื่องราวกระตุ้นให้เราตัดสินใจเลือกอย่างยากลำบากตามหลักการของเรา และพิจารณาผลกระทบในวงกว้างจากการตัดสินใจของเรา
- ความกล้าหาญและการคิดอย่างรวดเร็ว การคิดอย่างรวดเร็วและความกล้าหาญของแม่ในการปกป้องลูกๆ ของเธอแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความกล้าหาญและไหวพริบในสถานการณ์ที่ท้าทาย เป็นแรงบันดาลใจให้เราสงบสติอารมณ์ คิดตามและดำเนินการอย่างเด็ดขาดเมื่อเผชิญกับความทุกข์ยาก
- ความไม่เห็นแก่ตัวและการเห็นอกเห็นใจ การกระทำที่ไม่เห็นแก่ตัวของแม่แสดงถึงการเอาใจใส่และห่วงใยในความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อื่น สอนเราถึงคุณค่าของการคำนึงถึงความต้องการและความปลอดภัยของผู้อื่น แม้ต้องเผชิญกับการเสียสละส่วนตัว
“Selflessness and the willingness to sacrifice one’s possessions for the safety and well-being of loved ones.”
- Sacrifice for loved ones: The story highlights the mother’s selfless act of sacrificing her material possession, the jug of milk, to protect her children. It teaches us the importance of putting the well-being and safety of our loved ones above our own desires and possessions.
- Prioritizing values over material possessions: The mother recognizes that the lives of her children are far more valuable than a jug of milk. She demonstrates the importance of prioritizing human relationships and virtues, such as love, compassion, and protection, over material possessions.
- Making difficult choices: The mother is faced with a difficult decision, but she chooses what is morally right and values human life over material gain. The story encourages us to make tough choices guided by our principles and to consider the broader impact of our decisions.
- Courage and quick thinking: The mother’s quick thinking and bravery in protecting her children demonstrate the importance of courage and resourcefulness in challenging situations. It inspires us to stay calm, think on our feet, and act decisively when faced with adversity.
- Selflessness and empathy: The mother’s act of selflessness shows empathy and concern for others’ well-being. It teaches us the value of considering the needs and safety of others, even in the face of personal sacrifice.
โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนเราเกี่ยวกับความไม่เห็นแก่ตัว การเสียสละ การจัดลำดับความสำคัญของคุณค่าเหนือทรัพย์สิน การเลือกที่ยากลำบาก และการแสดงความเห็นอกเห็นใจและความกล้าหาญ มันเตือนเราถึงความสำคัญของการเลี้ยงดูและปกป้องคนที่เรารัก และการตัดสินใจที่สอดคล้องกับค่านิยมของเรา โดยน้อมรับคำสอนเหล่านี้ เราสามารถส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น สร้างอุปนิสัย และสร้างโลกที่เอื้ออาทรและเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น