นิทานอีสป เรื่อง “การแข่งขันของจิ้งจอกกับงู” ไทย-Eng

นิทานอีสปการแข่งขันของจิ้งจอกกับงู ไทย-Eng

“การแข่งขันของจิ้งจอกกับงู” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงการรู้ถึงคุณค่าของงความสามารถของตัวเองและผู้อื่น การเคารพในตัวตนของผู้อื่น เป็นความสวยงามของธรรมชาติ

นิทานอีสปเรื่องการแข่งขันของจิ้งจอกกับงู

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สุนัขจิ้งจอกกับงูเป็นเพื่อนบ้านอาศัยอยู่ในป่าเดียวกัน สุนัขจิ้งจอกขึ้นชื่อในเรื่องไหวพริบและความเฉลียวฉลาด ในขณะที่งูมีความสามารถในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ อยู่มาวันหนึ่งพวกเขาพบกันใกล้ที่โล่งในป่า

Once upon a time, a fox and a snake were neighbors living in the same forest. The fox was known for its cunning and intelligence, while the snake possessed the ability to move swiftly and silently. One day, they happened to meet near a clearing in the forest.

สุนัขจิ้งจอกด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงถามงูว่า “ทำไมเจ้าถึงคลานบนพื้นในขณะที่ข้าสามารถวิ่งและกระโดดได้อย่างอิสระ”

The fox, being curious, asked the snake, “Why is it that you crawl on the ground while I can run and jump freely?”

งูตอบว่า “ถึงข้าจะเคลื่อนไหวไม่ได้เหมือนเจ้า แต่ข้าก็มีจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร ข้าสามารถเลื้อยอย่างเงียบๆ ผ่านหญ้าและซ่อนตัวในที่แคบๆ

The snake replied, “Though I cannot move as you do, I have my own unique strengths. I can slither quietly through the grass and hide in narrow spaces where you cannot reach. My abilities serve me well in hunting and staying safe.”

อย่างไรก็ตาม สุนัขจิ้งจอกรู้สึกภูมิใจในความว่องไวและความเร็วของมันเอง และเยาะเย้ยงูที่เชื่องช้าและมีเหตุผล มันท้าทายงูให้แข่งขันด้วยความมั่นใจในชัยชนะ

The fox, however, felt proud of its own agility and speed and mocked the snake for being slow and grounded. It challenged the snake to a race, confident of its victory.

พวกมันตกลงในสนามและการแข่งขันก็เริ่มขึ้น สุนัขจิ้งจอกวิ่งไปข้างหน้า กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางอย่างง่ายดายและครอบคลุมระยะทางไกล ในขณะเดียวกัน งูก็เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วไปตามพื้นดิน เคลื่อนตัวผ่านพุ่มไม้อย่างชำนาญ

They agreed on a course, and the race began. The fox sprinted ahead, effortlessly leaping over obstacles and covering great distances. Meanwhile, the snake swiftly moved along the ground, skillfully maneuvering through the underbrush.

เมื่อสุนัขจิ้งจอกถึงเส้นชัย มันก็หันไปหางูที่อยู่ข้างหลังมัน ซึ่งก็มาถึงที่หมายแล้วเช่นกัน สุนัขจิ้งจอกประหลาดใจและถามว่า “เจ้าตามข้าทันได้ยังไง ในเมื่อข้าวิ่งเร็วกว่านี้มาก”

As the fox reached the finish line, it turned around to find the snake right behind it, having reached the destination as well. The fox was surprised and asked, “How did you catch up to me when I ran so much faster?”

งูตอบอย่างใจเย็นว่า “ในขณะที่เจ้ามุ่งเน้นไปที่ความเร็วและความว่องไว ข้าใช้ความสามารถเฉพาะตัวของข้าเพื่อนำทางอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งมีชีวิตทุกตัวมีจุดแข็งของตัวเอง และสิ่งสำคัญคือต้องรู้จักและชื่นชมพวกเขามากกว่าที่จะดูแคลนผู้อื่น”

The snake calmly replied, “While you focused on speed and agility, I utilized my own unique abilities to navigate the path effectively. Every creature has its own strengths, and it is important to recognize and appreciate them rather than belittling others.”

สุนัขจิ้งจอกตระหนักถึงความผิดพลาดของมันและยอมรับในคุณค่าของทักษะของงู ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พวกมันเคารพความสามารถของกันและกันและอยู่อย่างปรองดองในฐานะเพื่อนบ้าน

The fox realized its mistake and acknowledged the value of the snake’s skills. From that day forward, they respected each other’s abilities and lived harmoniously as neighbors.

นิทานอีสปการแข่งขันของจิ้งจอกกับงู

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ทุกคนมีจุดแข็งและความสามารถเฉพาะตัว และสิ่งสำคัญคือต้องรับรู้และชื่นชมความแตกต่างเหล่านี้ แทนที่จะดูถูกผู้อื่น”

  • ชื่นชมความหลากหลาย สุนัขจิ้งจอกและงูแสดงถึงความแข็งแกร่งและความสามารถที่แตกต่างกัน เรื่องราวนี้เตือนเราถึงความสำคัญของการชื่นชมและเคารพความสามารถและความสามารถที่หลากหลายของผู้อื่น ทุกคนมีบางสิ่งที่ไม่เหมือนใครที่จะนำเสนอ และการตระหนักและให้คุณค่ากับความแตกต่างเหล่านั้นจะส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือ
  • หลีกเลี่ยงความเย่อหยิ่งและความเย่อหยิ่ง ความเย่อหยิ่งของสุนัขจิ้งจอกทำให้มันประเมินงูต่ำเกินไปและดูแคลนความสามารถของมัน เรื่องราวนี้เตือนถึงความเย่อหยิ่งและความเย่อหยิ่ง โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเข้าหาผู้อื่นด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและเปิดใจ การตัดสินจากความสามารถของตนเองเพียงอย่างเดียวอาจนำไปสู่การมองข้ามจุดแข็งและคุณสมบัติของผู้อื่น
  • ตระหนักถึงคุณค่าของทักษะต่างๆ ความสามารถของงูในการเคลื่อนที่อย่างเงียบเชียบและนำทางในพื้นที่แคบๆ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีค่าพอๆ กับความเร็วและความว่องไวของสุนัขจิ้งจอก เรื่องราวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจว่าทักษะและพรสวรรค์ที่แตกต่างกันนั้นจำเป็นในสถานการณ์ต่างๆ การทำงานร่วมกันและความร่วมมือระหว่างบุคคลที่มีความสามารถหลากหลายนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
  • เคารพในผลงานของผู้อื่น สุนัขจิ้งจอกเรียนรู้ที่จะชื่นชมทักษะและความสามารถของงู โดยตระหนักว่าทั้งคู่มีบางสิ่งที่มีคุณค่าที่จะมอบให้ เรื่องราวนี้สอนเราถึงความสำคัญของการยอมรับและเคารพในการมีส่วนร่วมของผู้อื่น แม้ว่าวิธีการและความสามารถของพวกเขาจะแตกต่างจากของเราก็ตาม

“Every individual possesses unique strengths and abilities, and it’s important to recognize and appreciate these differences rather than belittling others.”

  • Appreciating diversity: The fox and the snake represent different strengths and abilities. The story reminds us of the importance of appreciating and respecting the diverse talents and capabilities of others. Everyone has something unique to offer, and recognizing and valuing those differences fosters understanding and cooperation.
  • Avoiding pride and arrogance: The fox’s pride led it to underestimate the snake and belittle its abilities. The story warns against pride and arrogance, emphasizing the need to approach others with humility and an open mind. Judging solely based on one’s own abilities can lead to overlooking the strengths and qualities of others.
  • Recognizing the value of different skills: The snake’s ability to move silently and navigate narrow spaces proved just as valuable as the fox’s speed and agility. The story highlights the importance of understanding that different skills and talents are needed in different situations. Collaboration and cooperation among individuals with diverse abilities lead to better outcomes.
  • Respecting others’ contributions: The fox learned to appreciate the snake’s skills and abilities, realizing that both of them had something valuable to offer. The story teaches us the significance of acknowledging and respecting the contributions of others, even if their approaches and abilities differ from our own.

โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้เตือนใจเราถึงความสำคัญของการชื่นชมความหลากหลาย หลีกเลี่ยงความเย่อหยิ่ง และตระหนักถึงคุณค่าของทักษะและความสามารถที่แตกต่างกัน มันสอนให้เราเข้าหาผู้อื่นด้วยความเคารพ ยอมรับคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา และส่งเสริมความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

นิทานอีสปเรื่องอื่นๆ

The Æsop for Children