สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ส. สวยแต่รูป จูบไม่หอม
ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยสวยแต่รูป จูบไม่หอม
ที่มาของสำนวน ผู้หญิงเปรียบเหมือนดอกไม้หลากหลายชนิดต่างสีต่างพันธุ์ ดอกไม้บางชนิดสีสวยกลิ่นหอม นำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น จัดแจกัน ร้อยมาลัย ทำบุหงารำไป นำไปใช้อบผ้าหรือขนมให้กลิ่นหอม ดอกไม้บางชนิดมีสรรพคุณใช้ทำยาได้ แต่ดอกไม้บางชนิดสีสันสวยงามสะดุดตา แต่ไม่มีกลิ่นหอม ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้นอกจากดูเล่นเท่านั้น
จึงเปรียบเปรยกับผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม แต่ไม่มีสิ่งใดเป็นความดีความงามในตัวเลย ทั้งความรู้ ความสามารถ กิริยามารยาท หรือจิตใจที่ดีงาม ซึ่งมักถูกเปรียบเปรยกับดอกชบา
สมัยต้นรัตนโกสินทร์ปรากฏในกฎหมายตราสามดวงว่าใช้ดอกชบาสำหรับลงโทษและประจานผู้หญิงร้ายหรือผู้หญิงแพศยา ด้วยการโกนผมแล้วนำดอกชบามาทัดหูทั้งสองข้าง และร้อยดอกชบาแดงเป็นมาลัยสวมศีรษะและสวมคอ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนโบราณไม่นิยมใช้และมีอคติกับดอบชบา
สรุปความหมายของสำนวน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ ผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม แต่กิริยามารยาทและจิตใจไม่งดงามเหมือนหน้าตา
ตัวอย่างการใช้สุภาษิตสวยแต่รูป จูบไม่หอม
- เป็นผู้ชายอย่าเลือกผู้หญิงที่หน้าตาเพียงอย่างเดียว ต้องดูนิสัยใจคอด้วย เดียวจะพลาดเจอผู้หญิงที่สวยแต่รูป แต่จูบไม่หอม เสียเวลา เสียเงินและเปลืองพลังงานชีวิต
- เธอควรจะทำตัวให้มีคุณค่ามากกว่านี้นะ อย่าเป็นพวกสวยแต่รูปจูบไม่หอมแบบนี้คงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากจะแต่งงานด้วย
- แพมหญิงสาวรูปร่างหน้าตาเธอก็สวยดี แต่มีกิริยามารยาท และอุปนิสัยไม่ดี เพราะแบบนี้จึงได้มีแต่คนพูดว่าเธอเป็นคนสวยแต่รูป จูบไม่หอมจริงๆ ใครได้เป็นเมียก็จะปวดหัวหน่อย
- รูปร่างหน้าตาเธอก็สวยดีอยู่หรอกสมหญิง แต่ทำไมถึงได้มีนิสัยแย่ๆ ไม่เข้ากับหน้าตาเลย เพราะแบบนี้ถึงได้มีแต่คนว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม ผมแนะนำให้ปรับนิสัยโดยด่วน
- หากผู้หญิงด้วยกันพูดถึงผู้หญิงด้วยกัน ว่าเป็นคนประเภท สวยแต่รูป จูบไม่หอม ก็ต้องพึงระวังหากเป็นคนใกล้ตัว เพราะมีแต่คนประเภทเดียวกัน จึงจะมองกันออก ว่าเป็นคนอย่างไร รู้ได้ทันทีว่าคบได้หรือไม่