นิทานอีสป เรื่อง “ไก่ชนผู้ห้าวหาญกับอินทรีผู้ปราดเปรื่อง” ไทย-Eng

นิทานอีสปไก่ชนผู้ห้าวหาญกับอินทรีผู้ปราดเปรื่อง ไทย-Eng

“ไก่ชนผู้ห้าวหาญกับอินทรีผู้ปราดเปรื่อง” เป็นนิทานที่เราสอนเราเกี่ยวกับความร่วมมือ ร่วมใจกัน การตระหนักถึงสิ่งที่ใหญ่กว่าสิ่งเล็กๆ และความกล้าหาญที่แท้จริง

นิทานอีสปเรื่องไก่ชนผู้ห้าวหาญกับอินทรีผู้ปราดเปรื่อง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ไก่สองตัวต่อสู้กันเพื่อพิสูจน์ความเป็นใหญ่ พวกเขากระพือปีก จิกกัดกัน และสู้สุดกำลัง เสียงขันที่ดังกึกก้องไปทั่วชนบทขณะที่พวกมันแย่งชิงความเป็นใหญ่

Once upon time, two roosters engaged in a fierce battle to prove their dominance. They flapped their wings, pecked at each other, and fought with all their might. Their loud crowing echoed through the countryside as they vied for supremacy.

ขณะที่ไก่โต้เถียงกัน นกอินทรีตัวหนึ่งบินโฉบลงมาจากท้องฟ้า นกตระหง่านประทับใจในการแสดงความแข็งแกร่งของไก่ชน จึงตัดสินใจยุติการต่อสู้ที่ไร้เหตุผลของพวกมัน นกอินทรีร่อนลงมาใกล้ๆ และพูดกับพวกมันอย่างมีอำนาจ

While the roosters fought, an eagle swooped down from the sky. The majestic bird, impressed by the roosters’ display of strength, decided to put an end to their senseless fighting. The eagle landed nearby and spoke to them with authority.

“ไก่ผู้กล้าหาญทำไมเจ้าเสียพลังงานของเจ้าต่อสู้กัน” นกอินทรีถาม “เจ้าทั้งคู่มีพละกำลังและความกล้าหาญ แทนที่จะสู้รบกัน ให้รวมกองกำลังของเจ้าเป็นหนึ่งเดียวและเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กว่าด้วยกัน”

“Brave roosters, why do you waste your energy fighting each other?” the eagle asked. “You both possess strength and courage. Instead of fighting, unite your forces and confront a greater threat together.”

ไก่ขันชะงัก รับรู้ถึงสติปัญญาในคำพูดของนกอินทรี พวกมันยอมรับว่าการแข่งขันที่กำลังดำเนินอยู่นั้นไร้ประโยชน์และการเข้าร่วมกองกำลังจะเป็นประโยชน์ต่อพวกมันทั้งคู่ พวกมันละทิ้งความแตกต่างและกลายเป็นพันธมิตร

The roosters paused, realizing the wisdom in the eagle’s words. They acknowledged that their ongoing rivalry was futile and that joining forces would benefit them both. They set aside their differences and became allies.

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ไก่ชนก็ทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องเพื่อนจากอันตรายภายนอก พวกมันยืนหยัดต่อสู้กับผู้ล่าและเฝ้าฝูงสัตว์ เพื่อความปลอดภัยและความสามัคคี

From that day forward, the roosters worked together to protect their fellow birds from external dangers. They stood united against predators and watched over their flock, ensuring safety and harmony.

นิทานอีสปไก่ชนผู้ห้าวหาญกับอินทรีผู้ปราดเปรื่อง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความสามัคคีและความร่วมมือสามารถเอาชนะความขัดแย้งที่ไร้เหตุผลได้ และการทำงานร่วมกันมักมีพลังมากกว่าการต่อสู้กันเอง”

  • ความสามัคคีและความร่วมมือ การเน้นพลังแห่งความสามัคคีและความร่วมมือ การที่ไก่รู้ว่าพวกมันสามารถประสบความสำเร็จได้มากขึ้นโดยการเข้าร่วมช่วยเหลือ มากกว่าการต่อสู้กันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่มาจากความร่วมมือ มันสอนเราถึงความสำคัญของการละทิ้งความขัดแย้งส่วนตัวเพื่อทำงานร่วมกันเพื่อไปสู่เป้าหมายร่วมกัน
  • การเอาชนะการแข่งขัน เรื่องราวเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเอาชนะการแข่งขันและการแข่งขัน ในตอนแรกไก่เจื้อยแจ้วมุ่งเน้นไปที่การยืนยันอำนาจเหนือกันและกันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พวกมันได้เรียนรู้ว่าจุดแข็งที่แท้จริงของพวกมันอยู่ที่การสนับสนุนซึ่งกันและกันและปกป้องชุมชนของพวกมัน มันสอนให้เราเปลี่ยนมุมมองจากการแข่งขันไปสู่การทำงานร่วมกันและยอมรับประโยชน์ของความพยายามร่วมกัน
  • ตระหนักถึงภัยคุกคามที่ใหญ่กว่า การแทรกแซงของนกอินทรีช่วยให้ไก่ชนเข้าใจว่ามีภัยคุกคามที่ใหญ่กว่า มันทำให้พวกมันตระหนักว่าการต่อสู้ของพวกมันเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากความท้าทายที่แท้จริงที่พวกมันเผชิญ เรื่องราวสอนให้เราตระหนักถึงภาพรวมและระบุภัยคุกคามหรือเป้าหมายทั่วไปที่ต้องมีการดำเนินการร่วมกัน
  • ความเป็นผู้นำและสติปัญญา บทบาทของนกอินทรีในการรวมไก่เข้าด้วยกันแสดงถึงความเป็นผู้นำและสติปัญญา แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของคำแนะนำที่ชาญฉลาดและคำแนะนำจากบุคคลที่สามารถมองเห็นความขัดแย้งในทันทีและเสนอมุมมองที่กว้างขึ้น เรื่องราวนี้แนะนำให้เราแสวงหาผู้ให้คำปรึกษาหรือที่ปรึกษาที่ชาญฉลาดที่สามารถแนะนำเราไปสู่การตัดสินใจและการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น
  • การสร้างชุมชนที่สนับสนุนกัน การเปลี่ยนแปลงของไก่ชนจากคู่แข่งเป็นพันธมิตรเป็นตัวอย่างของคุณค่าของการสร้างชุมชนที่สนับสนุนกัน พวกมันสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและกลมกลืนกันมากขึ้นสำหรับนกทุกตัวด้วยการทำงานร่วมกัน มันสอนเราถึงความสำคัญของการส่งเสริมความสามัคคีและความร่วมมือภายในชุมชนของเรา และผลกระทบเชิงบวกที่สามารถมีต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง

“Unity and cooperation can overcome senseless conflicts, and working together is often more powerful than fighting against each other.”

  • Unity and cooperation: “The Fighting Cocks and the Eagle” emphasizes the power of unity and cooperation. The roosters’ realization that they could achieve more by joining forces rather than fighting each other demonstrates the strength that comes from collaboration. It teaches us the importance of setting aside personal conflicts to work together towards a common goal.
  • Overcoming rivalry: The story highlights the need to overcome rivalry and competition. The roosters initially focused solely on asserting their dominance over one another. However, they learned that their true strength lay in supporting each other and protecting their community. It teaches us to shift our perspective from competition to collaboration and embrace the benefits of collective effort.
  • Recognizing a greater threat: The eagle’s intervention helped the roosters understand the presence of a greater threat. It made them realize that their infighting was a distraction from the real challenges they faced as a community. The story teaches us to be aware of the bigger picture and to identify common threats or goals that require collective action.
  • Leadership and wisdom: The eagle’s role in bringing the roosters together showcases leadership and wisdom. It demonstrates the importance of wise counsel and guidance from individuals who can see beyond immediate conflicts and offer a broader perspective. The story encourages us to seek wise mentors or advisors who can guide us towards better decisions and resolutions.
  • Building a supportive community: The roosters’ transformation from rivals to allies exemplifies the value of building a supportive community. By working together, they created a safer and more harmonious environment for all the birds. It teaches us the significance of fostering unity and cooperation within our own communities and the positive impact it can have on everyone involved.

โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนเราถึงพลังแห่งความสามัคคี ความสำคัญของการเอาชนะคู่ต่อสู้ ความจำเป็นในการตระหนักถึงภัยคุกคามที่มากขึ้น คุณค่าของความเป็นผู้นำและภูมิปัญญา และประโยชน์ของการสร้างชุมชนที่สนับสนุน กระตุ้นให้เราทำงานร่วมกัน ขจัดความขัดแย้งส่วนตัว และทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

นิทานอีสปเรื่องอื่นๆ

The Æsop for Children