นิทานอีสป เรื่อง “ผึ้ง ตัวต่อ และแตน” ไทย-Eng

นิทานอีสปผึ้ง ตัวต่อ และแตน ไทย-Eng

“ผึ้ง ตัวต่อ และแตน” เป็นนิทานอีสปที่สอเราถึงคุณค่าของความสามัคคี ซึ่งสามารถทำให้เราชนะอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ได้ และยังสอนถึงผลของการกดขี่ข่มเหงผู้อื่น

นิทานอีสปเรื่องผึ้ง ตัวต่อ และแตน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในทุ่งหญ้าที่มีชีวิตชีวา ผึ้งและตัวต่ออาศัยอยู่อย่างกลมกลืน ส่งกลิ่นหึ่งจากดอกหนึ่งไปยังอีกดอกหนึ่ง เก็บน้ำหวานและสร้างน้ำผึ้งแสนอร่อย พวกมันทำงานอย่างขยันขันแข็ง แต่ละตัวมีส่วนช่วยให้รังผึ้งเจริญรุ่งเรืองและอยู่ดีมีสุข

Once upon a time, in a vibrant meadow, the bees and wasps lived harmoniously, buzzing from flower to flower, collecting nectar and creating delicious honey. They worked diligently, each contributing to the hive’s prosperity and well-being.

วันหนึ่งแตนดุร้ายมาถึงทุ่งหญ้า มันประกาศด้วยเสียงอันน่ากลัวว่า “ข้าคือแมลงที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่สุดในทุ่งหญ้าแห่งนี้ จากนี้ไป ผึ้งและตัวต่อทั้งหมดจะต้องปรนนิบัติของข้า!”

One day, a fierce hornet arrived in the meadow. With a menacing buzz, it declared, “I am the strongest and most powerful insect in this meadow. From now on, all the bees and wasps shall serve me!”

ผึ้งและตัวต่อตกใจกับความเย่อหยิ่งและความต้องการของแตน พวกมันให้คุณค่ากับอิสรภาพและความเป็นอิสระของตน และไม่เต็มใจที่จะยอมจำนนต่อกฎของแตน

The bees and wasps were taken aback by the hornet’s arrogance and demands. They valued their freedom and autonomy and were not willing to submit to the hornet’s rule.

แตนซึ่งถูกกระตุ้นด้วยความโกรธและความเย่อหยิ่งเริ่มขู่ผึ้งและตัวต่อ ต่อยและโจมตีพวกมันหากพวกมันกล้าฝ่าฝืนคำสั่งของมัน ในไม่ช้าทุ่งหญ้าก็กลายเป็นสถานที่แห่งความกลัวและการกดขี่

The hornet, fueled by anger and pride, began to terrorize the bees and wasps, stinging and attacking them if they dared to defy its commands. The meadow soon became a place of fear and oppression.

อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่แตนบินอยู่เหนือรังผึ้ง ผึ้งแก่ที่ฉลาดก็ก้าวไปข้างหน้า “แตนผู้ยิ่งใหญ่” ผึ้งพูดด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน “เราเคารพในความแข็งแกร่งของคุณ แต่โปรดเข้าใจว่ารังของเราเติบโตได้ด้วยความสามัคคีและความร่วมมือ หากเราทุกคนทำงานร่วมกัน ทุ่งหญ้าของเราจะเป็นสถานที่แห่งความสามัคคีและความอุดมสมบูรณ์สำหรับทุกคน”

One day, as the hornet hovered above the hive, a wise old bee stepped forward. “Mighty hornet,” said the bee with humility, “we respect your strength, but please understand that our hive thrives through unity and cooperation. If we all work together, our meadow can be a place of harmony and abundance for everyone.”

แตนเย้ยหยันคำพูดของผึ้งและตอบว่า “ความร่วมมือมีไว้สำหรับผู้อ่อนแอ ข้าเป็นผู้ปกครองที่นี่ และพวกเจ้าจะต้องเชื่อฟัง!”

The hornet scoffed at the bee’s words and replied, “Cooperation is for the weak. I am the ruler here, and you will obey!”

แต่ผึ้งผู้ฉลาดยืนกรานว่า “ในความสามัคคีย่อมมีพละกำลัง เราสามารถบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่และปกป้องทุ่งหญ้าของเราจากอันตรายได้”

But the wise bee persisted, “In unity, there is strength. Together, we can achieve great things and protect our meadow from harm.”

เมื่อแตนยังคงข่มเหงผึ้งและตัวต่อ ความคับข้องใจและความไม่พอใจของพวกมันก็เพิ่มมากขึ้น พวกเขารู้ว่าต้องหาทางปลดปล่อยตัวเองจากทรราชของแตน

As the hornet continued to oppress the bees and wasps, their frustration and discontent grew. They knew they had to find a way to free themselves from the hornet’s tyranny.

คืนหนึ่ง ขณะที่แตนนอนหลับ ผึ้งและตัวต่อวางแผนหลบหนีอย่างระมัดระวัง พวกมันทำงานอย่างเงียบๆ รวมกลุ่มกันและวางแผนกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด

One night, as the hornet slept, the bees and wasps carefully planned their escape. They worked silently, organizing themselves into groups and devising a clever strategy.

เมื่อถึงรุ่งเช้า ผึ้งและตัวต่อก็นำแผนของพวกมันไปปฏิบัติ พวกมันโจมตีรังแตนด้วยความแม่นยำและมุ่งมั่น โดยใช้กำลังที่รวมกันเพื่อเอาชนะแตน

When morning arrived, the bees and wasps put their plan into action. They attacked the hornet’s nest with precision and determination, using their collective strength to overpower the hornet.

เมื่อรังของแตนพังทลาย แมลงที่เคยอ้างตัวว่าแข็งแกร่งที่สุดก็พ่ายแพ้และรู้ถึงความต่ำต้อยของมันเอง

As the hornet’s nest crumbled, the insect that once claimed to be the strongest was now defeated and humbled.

ผึ้งและตัวต่อยึดทุ่งหญ้าของพวกมันคืน และความรู้สึกสงบสุขและความสามัคคีก็กลับคืนมา พวกมันตระหนักว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การครอบงำและการรุกราน แต่อยู่ที่ความสามัคคีและความร่วมมือ

The bees and wasps had reclaimed their meadow, and a sense of peace and harmony returned. They realized that true strength lies not in domination and aggression but in unity and cooperation.

นิทานอีสปผึ้ง ตัวต่อ และแตน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความแข็งแกร่งที่แท้จริงพบได้ในความสามัคคีและความร่วมมือ ไม่ใช่ในการปกครองและความก้าวร้าว”

  • สามัคคีคือพลัง: เรื่องราวแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีและความร่วมมือ เมื่อผึ้งและตัวต่อทำงานร่วมกัน พวกมันสามารถเอาชนะทรราชของแตนและคืนความสามัคคีให้กับทุ่งหญ้าของพวกมันได้
  • ความเป็นผู้นำผ่านสติปัญญาและความเข้าใจ: ผึ้งเฒ่าผู้ชาญฉลาดแสดงให้เห็นว่าความเป็นผู้นำที่แท้จริงเกี่ยวข้องกับการเอาใจใส่ ความเข้าใจ และการค้นหาจุดร่วม แทนที่จะปกครองด้วยกำลังและความกลัว
  • การกดขี่นำไปสู่ความไม่พอใจ: กฎที่กดขี่ของแตนทำให้เกิดความกลัวและความไม่พอใจในหมู่ผึ้งและตัวต่อ ทำให้พวกเขามุ่งมั่นที่จะหลุดพ้นจากการควบคุมของมัน
  • ความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเคารพ: ความอ่อนน้อมถ่อมตนของผึ้งแสนรู้และความเคารพต่อความแข็งแกร่งของแตนเปิดประตูสู่การเจรจาและความร่วมมือแม้ในยามเผชิญกับความทุกข์ยาก

“True strength is found in unity and cooperation, not in domination and aggression.”

  • Unity is strength: The story illustrates the power of unity and cooperation. When the bees and wasps worked together, they were able to overcome the hornet’s tyranny and restore harmony to their meadow.
  • Leadership through wisdom and understanding: The wise old bee showed that true leadership involves empathy, understanding, and finding common ground, rather than ruling through force and fear.
  • Oppression leads to discontent: The hornet’s oppressive rule caused fear and discontent among the bees and wasps, leading to their determination to break free from its control.
  • Humility and respect: The wise bee’s humility and respect for the hornet’s strength opened the door to dialogue and cooperation, even in the face of adversity.

โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนเราถึงความสำคัญของความสามัคคี ความเป็นผู้นำที่ชาญฉลาด และผลเสียของการกดขี่ เป็นการเตือนเราว่าการทำงานร่วมกันด้วยความเคารพและความเข้าใจสามารถนำไปสู่ชุมชนที่กลมเกลียวและเจริญรุ่งเรืองได้

นิทานอีสปเรื่องอื่นๆ

The Æsop for Children