สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ง. โง่แล้วอยากนอนเตียง
ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยโง่แล้วอยากนอนเตียง
ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงคนโง่ ไม่รู้ว่าเตียงนั้นด้านใดเป็นหัวเตียง ด้านใดเป็นปลายเตียง เมื่อไม่รู้ เวลานอนก็หันหัวหันเท้าผิดที่ผิดทาง อยากจะนอนเตียงแต่ไม่รู้ว่าจะนอนหันหัวไปทางไหน
โดยสำนวนนี้มีการเล่นคำให้คล้องจอง “คอเอียงแล้วอยากหนุนหมอน” คือ “โง่แล้วอยากนอนเตียง คอเอียงแล้วอยากหนุนหมอน”
สรุปความหมายของสำนวนนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ โง่แล้วไม่เจียมตัวว่าโง่ โง่แล้วยังอวดฉลาด ไปทำสิ่งที่ตนไม่รู้ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ จนทำให้เกิดความเสียหาย หรือเรื่องน่าอับอาย
ตัวอย่างการใช้สุภาษิต
- การแสดงภูมิความรู้หรืออวดเก่ง ปกติก็จะเป็นที่อิจฉาริษยาของคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่หากไม่รู้จริง ไม่เก่งจริงในเรื่องนั้นๆ เป็นประเภท โง่แล้วอวดฉลาด โง่แล้วอยากนอนเตียง คนแบบนี้มีเยอะในสังคม
- ถ้าเธออยากจะเก่งกว่านี้ ก้าวหน้ากว่านี้ เธอควรจะหัดฟังที่คนอื่นแนะนำบ้างนะ ไม่ใช่โง่แล้วอยากนอนเตียง
- คนประเภท โง่แล้วอยากนอนเตียง ก็มีไม่น้อย เพราะบางคนก็อยากจะได้หน้า พยายามเสนอตัวเพื่อจะทำงานบางอย่าง หวังจะได้ หน้าหากทำสำเร็จ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น สุดท้ายก็จะนำพาความเดือดร้อน หรือสร้างปัญหาเดือดร้อนตามมา
- ถ้าคุณไม่รู้ก็ไม่ต้องพูดอะไร อยู่เฉยๆ จะดูดีกว่า อย่าทำอะไรที่เหมือนโง่แล้วอยากนอนเตียง คนอื่นเขาจะดูถูกเอา
- นายสว่างพยายามกลับรถใต้สะพานข้ามคลอง ปรากฏว่าลอดไปไม่ได้เนื่องจากรถสูงเกินไป แต่ก็ดันทุรังคิดว่าตัวเองทำได้ ทั้งๆ ที่ไม่ดูความสูงรถ สุดท้ายรถขูดเสียหายหลายแสน นี่แหละเข้าตำราโง่แล้วอยากนอนเตียง