สำนวนสุภาษิตไทยหมวดหมู่ ก. กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง
ความหมายสำนวนสุภาษิตคำพังเพยกินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง
ที่มาของสำนวน เปรียบเปรยถึงจะกินสิ่งใดก็จะต้องใช้ปากกินสิ่งนั้น และท้องจะเป็นตัวกำหนดว่าอยากกินหรือ ไม่อยากกิน เหมือนดั่งตัวเราเองรู้ดีว่าทำอะไร ต้องการอะไรนั่นเอง
ท้องกับปากมันเป็นของคู่กัน ถ้าท้องหิวก็จะสั่งปากให้กินอาหารเพื่อให้หายหิว แต่บางครั้งท้องไม่หิวหรอกครับ แต่ปากอยากจะกินเราก็หาอาหารกินตามที่ปากอยากกิน ทำให้ท้องต้องลำบากเพราะรับบรรจุอาหารมากเกินไป โดยสรุปท้องกับปากมันเป็นของคู่กันเอื้ออำนวยผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน
สรุปความหมายของสำนวนคือ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คือ รู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรลงไป แต่ตีหน้าซื่อแสร้งทำเป็นไม่รู้
สำนวนนี้ใช้เปรียบเทียบเทียบคนที่ทำเรื่องที่ผิด หรือรู้เรื่องบางอย่างดี รู้ดีอยู่แก่ใจตัวเอง หรือเพราะทำเองแล้วแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นในเรื่องที่เกิดขึ้น คนรอบข้างอาจจะสงสัย แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน
ตัวอย่างการใช้สุภาษิตกินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง
- อย่ามัวแต่มานั่งสร้างเรื่องโยนความผิดให้คนอื่นอยู่เลย คนราทำอะไรไว้ก็รู้อยู่แก่ใจ กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ถ้าคุณสำนึกแล้วมาสารภาพผิดผมก็จะให้โอกาสคุณทำงานที่นี่ต่อไป
- อย่ามัวแต่มานั่งสร้างเรื่องโยนความผิดให้คนอื่น คนเราทำอะไรไว้ก็รู้อยู่แก่ใจ
- กระเป๋าของนักเรียนในโรงเรียนถูกรื้อค้นและมีของใช้หายอยู่บ่อยๆ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในชั่วโมงพลศึกษา เพราะต้องออกไปเรียนนอกห้องเรียน ดช. ก้อนทอง ซึ่งเป็นหัวหน้าห้อง โดยรู้ดีอยู่แก่ใจว่าใครเป็นคนทำ แต่แสร้างทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง เพราะคนที่ขโมยนั้น จริงๆ แล้วเป็นตัวเขาเอง
- เมื่อสมชายกลับถึงบ้าน ภรรยาของเขาก็โวยวาย ด่าทอสมชายลั่นสนั่นบ้าน ที่เมื่อคืนสมชายบอกว่าทำงานที่บริษัทจนดึกที่แท้มีคนเห็นสมชายพาผู้หญิงเข้าโรงแรม แต่สมชายก็ยังปฏิเสธเสียงแข็ง บอกว่าอาจจะตาฝาดไปเพราะตัวเขานั่งทำงานทั้งคืน ทั้งๆที่จริงเขานอกใจภรรยา ตัวอย่างนี้ ตรงกับสำนวนไทยที่ว่ากินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง
- คุณทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ รู้ว่าทำผิดมาก็สารภาพ กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง เรื่องเล็กๆ จะได้ไม่เป็นเรื่องใหญ่