นิทานอีสป เรื่อง “ราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่กับลาป่าผู้ว่องไว” ไทย-Eng

นิทานอีสปราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่กับลาป่าผู้ว่องไว ไทย-Eng

“ราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่กับลาป่าผู้ว่องไว” เป็นนิทานอีสปที่สอนเราถึงความสามารถตามธรรมชาติของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเราควรจะให้เกียรติในความสามารถของตนเองและผู้อื่น

นิทานอีสปเรื่องราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่กับลาป่าผู้ว่องไว

กาลครั้งหนึ่ง ราชสีห์กับลาป่าพบพานกันในป่า ราชสีห์ซึ่งเป็นราชาแห่งป่ารู้สึกเหนือกว่าและเริ่มเย้ยหยันลาป่า เขาเยาะเย้ยรูปลักษณ์ของลานั้นและกล่าวว่า “เจ้าเป็นเพียงลาตัวหนึ่ง จงดูข้า ราชสีห์ผู้เกรียงไกร ด้วยพละกำลังและความสง่าผ่าเผยของข้า”

Once upon a time, a lion and a wild ass encountered each other in the forest. The lion, being the king of the jungle, felt superior and began to taunt the wild ass. He mocked the ass’s appearance and said, “You are nothing but a mere donkey. Look at me, the mighty lion, with my strength and majestic presence.”

ลาป่ารู้สึกถูกดูหมิ่นตอบด้วยความมั่นใจว่า “ใช่ จริงอยู่ว่าข้าไม่ได้แข็งแกร่งหรือน่าเกรงขามเท่าเจ้า แต่ข้ามีพละกำลังที่ต่างออกไป ข้ารวดเร็วว่องไวสามารถเอาชนะผู้ล่าจำนวนมากได้ ให้ เราทดสอบความสามารถของเราและดูว่าใครเหนือกว่าอย่างแท้จริง”

The wild ass, feeling insulted, responded with confidence, “Yes, it is true that I am not as strong or feared as you, but I possess a different kind of strength. I am swift and agile, able to outrun many predators. Let us put our abilities to the test and see who is truly superior.”

สิงโตตกลงที่จะท้าทายและเสนอการแข่งขัน ขณะที่พวกเขาวิ่งผ่านป่า ลาป่าแสดงความเร็วอันเหลือเชื่อของมัน ทิ้งสิงโตไว้ข้างหลัง สิงโตตระหนักถึงความพ่ายแพ้ของมัน จึงหยุดและยอมรับว่า “ข้าเร็วกว่าเจ้าจริงๆ ข้าอาจจะเป็นราชาแห่งพงไพร แต่ผมต้องเรียนรู้อีกมากจากความว่องไวของเจ้า”

The lion agreed to the challenge and proposed a race. As they raced through the forest, the wild ass showcased his incredible speed, leaving the lion far behind. The lion, realizing his defeat, stopped and admitted, “You are indeed faster than I am. I may be the king of the jungle, but I have much to learn from your swiftness.”

นิทานอีสปสิงโตกับลาป่า

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความเข้มแข็งมาในรูปแบบต่างๆ และสิ่งสำคัญคือต้องเคารพและชื่นชมความสามารถที่หลากหลาย ความเย่อหยิ่งสามารถนำไปสู่การดูถูกผู้อื่น”

  • ตระหนักถึงจุดแข็งที่แตกต่างกัน เรื่องราวนี้เตือนเราว่าทุกคนมีจุดแข็งและความสามารถเฉพาะตัว สอนให้เราเห็นคุณค่าและเคารพคุณสมบัติที่ผู้อื่นมอบให้ แม้ว่าคุณสมบัติเหล่านั้นจะแตกต่างจากของเราก็ตาม แต่ละคนมีสิ่งที่มีค่าที่จะนำเสนอ
  • ความสำคัญของความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเย่อหยิ่งของราชสีห์และการดูแคลนลาป่านำไปสู่ความหายนะของมันเอง เนื้อเรื่องเน้นให้เห็นความสำคัญของความอ่อนน้อมถ่อมตนและตระหนักว่าการเหนือกว่าในด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ทำให้คนเหนือกว่าในทุกด้าน ความอ่อนน้อมถ่อมตนช่วยให้เราเรียนรู้จากผู้อื่นและเติบโต
  • คุณค่าของความหลากหลาย ความเร็วและความว่องไวของลาป่านั้นแตกต่างจากพละกำลังและพละกำลังของราชสีห์ แต่คุณสมบัติทั้งสองก็มีความสำคัญในตัวเอง เรื่องราวนี้เน้นให้เห็นถึงคุณค่าของความหลากหลายและการเพิ่มคุณค่าของความหลากหลายให้กับชีวิตของเรา การเปิดรับความหลากหลายนำไปสู่การดำรงอยู่ที่กลมกลืนและสมดุลมากขึ้น
  • เคารพในความสามารถของผู้อื่น เมื่อราชสีห์ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของลาป่า จึงยอมรับและเคารพในความสามารถของตน เรื่องราวสอนเราถึงความสำคัญของการเคารพและให้คุณค่ากับทักษะและความสามารถของผู้อื่น โดยไม่คำนึงถึงคำตัดสินหรืออคติในตอนแรกของเรา

“Strength comes in various forms, and it’s important to respect and appreciate diverse abilities. Arrogance can lead to underestimating others.”

  • Recognizing different strengths: The story reminds us that everyone possesses unique strengths and abilities. It teaches us to appreciate and respect the qualities that others bring, even if they differ from our own. Each individual has something valuable to offer.
  • The importance of humility: The lion’s arrogance and belittling of the wild ass led to his own downfall. The story emphasizes the importance of humility and recognizing that superiority in one aspect does not make a person superior in all aspects. Humility allows us to learn from others and grow.
  • The value of diversity: The wild ass’s speed and agility were different from the lion’s strength and power, but both qualities had their own significance. The story highlights the value of diversity and how it enriches our lives. Embracing diversity leads to a more harmonious and balanced existence.
  • Respecting others’ abilities: The lion, upon realizing the wild ass’s strength, acknowledged and respected his abilities. The story teaches us the importance of respecting and valuing the skills and capabilities of others, regardless of our initial judgments or biases.

โดยสรุปแล้วนิทานเรื่องนี้สอนให้เรายอมรับความหลากหลาย ฝึกความอ่อนน้อมถ่อมตน เคารพในความสามารถของผู้อื่น และชื่นชมในความแข็งแกร่งเฉพาะตัวที่แต่ละคนมี ด้วยการทำเช่นนั้น เราส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการยอมรับ การเติบโต และการทำงานร่วมกัน ซึ่งการมีส่วนร่วมของทุกคนมีค่าและได้รับการยกย่อง

นิทานอีสปเรื่องอื่นๆ

The Æsop for Children